ก.พาณิชย์ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการค้าไข่ไก่ ผู้เลี้ยงไก่ไข่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง กำหนดราคาเพดานไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไม่ให้เกินฟองละ 3.30 บาทไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการค้าไข่ไก่ ผู้เลี้ยงไก่ไข่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมการค้าภายใน กรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หลังสถานการณ์ราคาไข่ไก่ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องว่า สาเหตุหลักที่ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นในช่วงนี้เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้แม่ไก่ออกไข่น้อยกว่าปกติ โดยเฉลี่ย 34-36 ล้านฟองต่อวัน ใกล้เคียงกับความต้องการบริโภคที่วันละ 36 ล้านฟอง ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายร่วมกันรักษาระดับราคาไม่ให้สูงเกิน โดยกำหนดราคาเพดานไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไม่ให้เกินฟองละ 3.30 บาทไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งปัจจุบันราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 3.20 บาท และหลังจากนี้ราคาอาจจะไม่มีการปรับขึ้นไปจนถึงราคาเพดานก็ได้ แต่จะมีการทบทวนสถานการณ์อีกครั้งในเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น และกลับมาเป็นปกติ จากสภาพอากาศที่เย็นมากขึ้น และอาจจะมีปัญหาต่อเนื่องจนทำให้ผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ จึงมอบหมายให้กรมการค้าภายในและกรมปศุสัตว์เร่งหามาตรการรับมือไว้ล่วงหน้า และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ หรือเอ้กบอร์ด เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น พร้อมให้เข้มงวดต่อการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่ในปริมาณมากเพื่อไม่ให้กระทบราคา
นอกจากนี้อยู่ระหว่างขอความร่วมมือค่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย ได้แก่ ดีแทค ทรูมูฟ และเอไอเอส ให้ข้อมูลสถานการณ์ราคาสินค้าที่จำเป็น เช่น เนื้อหมู ไก่ ไข่ และผัก เป็นต้น เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนในการรับรู้ และเป็นทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้า แต่ผู้บริโภคต้องสมัครรับข้อมูลดังกล่าวกับผู้ให้บริการแต่ละเครือข่ายก่อนเท่านั้น โดยได้มอบให้กรมการค้าภายในไปจัดหมวดหมู่ ก่อนสรุปกับค่ายโทรศัพท์มือถืออีกครั้งในสัปดาห์หน้า