นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการกระจายสินค้าด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน (MOI Distribution Center) ขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรในการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคให้ได้อย่างรวดเร็ว กว้างขวางและทั่วถึง จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ประสานการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค ขึ้นทุกจังหวัด และตั้งศูนย์ขึ้นทุกอำเภอ ที่ผ่านมาวันที่ 5 เมษายน 2556 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ได้เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดิทัศน์ทางไกล เพื่อมอบนโยบายเรื่องการกระจายสินค้าด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระดับพื้นที่แล้ว
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้เป็นฤดูกาลของผลผลิตด้านการเกษตร ที่เริ่มออกสู่ตลาดแล้วที่ผ่านมา เคยประสบปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด และราคาตกต่ำเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ไม่สามารถระบายออกจำหน่ายสู่ตลาดได้ทันตามฤดูกาล จนส่งผลให้พี่น้องชาวเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และเกิดการรวมตัวกัน เพื่อต่อลองเรียกร้อง ในปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตด้านการเกษตรออกมาจำหน่ายในท้องตลาดจำนวนมากอาจส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคทุกหมู่บ้าน และแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการ ดังนี้
1.ให้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวในจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร หรือจังหวัดต้นน้ำ ได้แก่ การลดพื้นที่เพาะปลูก หรือปรับปรุงสายพันธุ์ การผลิตที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ การชะลอการนำผลผลิตออกสู่ตลาด และการแสวงหาตลาดจำหน่ายล่วงหน้า หรือตลาดต่างประเทศ เป็นต้น
2.ให้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ การส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และการกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ เช่น ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน หรือสถานประกอบการ
และ 3.ให้การสนับสนุนโครงการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน โดยจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร (จังหวัดต้นน้ำ) ต้องจัดทำข้อมูลผลผลิต เช่น ปริมาณ ชนิดสินค้าเกษตร และแจ้งไปยังศูนย์ประสานกระจายสินค้าด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคจังหวัดเป้าหมาย (จังหวัดปลายน้ำ) เพื่อรับผลผลิตไปกระจายสู่ผู้บริโภคในพื้นที่ สำหรับจังหวัดปลายน้ำให้สนับสนุนการกระจายผลผลิตดังกล่าว
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้เป็นฤดูกาลของผลผลิตด้านการเกษตร ที่เริ่มออกสู่ตลาดแล้วที่ผ่านมา เคยประสบปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด และราคาตกต่ำเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ไม่สามารถระบายออกจำหน่ายสู่ตลาดได้ทันตามฤดูกาล จนส่งผลให้พี่น้องชาวเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และเกิดการรวมตัวกัน เพื่อต่อลองเรียกร้อง ในปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตด้านการเกษตรออกมาจำหน่ายในท้องตลาดจำนวนมากอาจส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคทุกหมู่บ้าน และแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการ ดังนี้
1.ให้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวในจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร หรือจังหวัดต้นน้ำ ได้แก่ การลดพื้นที่เพาะปลูก หรือปรับปรุงสายพันธุ์ การผลิตที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ การชะลอการนำผลผลิตออกสู่ตลาด และการแสวงหาตลาดจำหน่ายล่วงหน้า หรือตลาดต่างประเทศ เป็นต้น
2.ให้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ การส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และการกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ เช่น ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน หรือสถานประกอบการ
และ 3.ให้การสนับสนุนโครงการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน โดยจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร (จังหวัดต้นน้ำ) ต้องจัดทำข้อมูลผลผลิต เช่น ปริมาณ ชนิดสินค้าเกษตร และแจ้งไปยังศูนย์ประสานกระจายสินค้าด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคจังหวัดเป้าหมาย (จังหวัดปลายน้ำ) เพื่อรับผลผลิตไปกระจายสู่ผู้บริโภคในพื้นที่ สำหรับจังหวัดปลายน้ำให้สนับสนุนการกระจายผลผลิตดังกล่าว
