xs
xsm
sm
md
lg

ญาติโวย รพ.นครชัยศรี ออกใบยืนยันการตายเหยื่อ 18 ล้อมรณะล่าช้าทำจัดงานไม่ทัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม - ญาติเหยื่อรถบรรทุก 18 ล้อมรณะโวยโรงพยาบาลนครชัยศรี ออกใบยืนยันการเสียชีวิตล่าช้า ทำให้ต้องเสียเวลาในการเดินทางรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครชัยศรี ออกมาปรับความเข้าใจ และชี้แจงกันวุ่น

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลนครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตหลายรายมารอรับใบยืนยันการเสียชีวิตของผู้ประสบอุบัติเหตุรถตู้ชนประสานงานกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่ถนนเพชรเกษมฝั่งเขาเข้าจังหวัดนครปฐม จุดกลับรถหน้าศูนย์รถยนต์วอลโว่ หมู่ 5 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงพบ พ.ต.ท.อภิชาติ ศรีทองกุล พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี กำลังอธิบายขั้นตอนการนำศพออกจากที่เก็บศพให้ญาติของผู้เสียชีวิตหลายรายได้ฟัง หลังจากเกิดความสับสนในกระบวนการรับศพของญาติๆ นั้นยังไม่สามารถทำได้ในช่วงเช้า เนื่องจากทางแพทย์เวร รพ.นครชัยศรี ได้ทำการลงนามในเอกสารเพื่อส่งให้นำศพทั้งหมด 7 ราย ไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อยืนยันเอกลักษณ์ทั้งหมด เนื่องจากแพทย์ยังขอยืนยันเอกลักษณ์ของผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดเพื่อประโยชน์ของผู้ตาย และญาติๆ

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ญาติหลายคนไม่พอใจเนื่องจากเดินทางมาจากต่างจังหวัด และหลายรายได้ทยอยมารับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาด้วยความเศร้าโศกไปแล้วหลายราย และยังมี 2 ศพที่ยังไม่มีใครมายืนยันว่าเป็นญาติของผู้ตาย ซึ่งจะต้องมีการรออีกครั้งหนึ่ง

นายเชวง ฉิมหลวง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/30 ม.6 ต.คอกกะระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บอกว่า มารับศพหลานชายชื่อน ายสิทธิศักดิ์ ฉิมหลวง อายุ 20 ปี นิสิตจุฬาฯ คณะครุศาสตร์ ปี 4 ซึ่งมารอรับศพตั้งแต่เช้า และได้นำศพกลับไปให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านมารดาของผู้ตายที่ จ.พิจิตร โดยทราบว่าหลานชายบอกว่าจะมาหาเพื่อนที่ จ.นครปฐม โดยตอนนี้ได้รับศพออกไปแล้ว แต่ว่าทางโรงพยาบาลนครชัยศรี ได้แจ้งว่าไม่สามารถออกใบยืนยันการเสียชีวิตได้ เนื่องจากต้องส่งศพทั้งหมดไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่ชัดเจน พร้อมทั้งตรวจเอกลักษณ์บุคคลอีกครั้ง ซึ่งยังงงว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

ด้านนายสุรชัย ยันพิมาย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/110 ม.5 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี บุตรเขยของนางรัชนก ทองเอียง อายุ 58 ปี ที่เสียชีวิต บอกว่า มารอรับศพกลับเช่นกัน แต่ก็พบว่าทางโรงพยาบาลนครชัยศรี ก็ไม่ออกใบยืนยันการเสียชีวิตจึงไม่สามารถไปออกใบมรณบัตรที่ว่าการอำเภอนครชัยศรีได้ ซึ่งทางญาติก็รอทำพิธีทางศาสนาให้ชัดเจน

ส่วนญาติของนายสิริพล ลพานุวรรตน์ อายุ 59 ปี อาจารย์โรงเรียนอินทรศักศึกษาลัย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม บอกว่า มารอรับใบยืนยันการเสียชีวิตตั้งแต่ 10.00 น. แต่ทางพยาบาลแจ้งว่า แพทย์ที่เป็นแพทย์เวรในวันเกิดเหตุติดการสัมมนาในวันนี้ให้มารับศพในวันรุ่งขึ้นเวลา 10.00 น. ทำให้นำศพออกจากห้องเก็บศพมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ไปประกอบพิธีทางศาสนาไม่ได้

ต่อมา ทางญาติของ น.ส.กนกพร เพ็ญจันทร์ หรือน้องป่าน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสาธิตศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ได้ติดต่อไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตำรวจ เพื่อสอบถามข้อมูลได้รับการแจ้งว่า หากทำการเย็บบาดแผลแล้วและฉีดยาฟอร์มาลินแก่ศพไปแล้ว จะทำการผ่าชันสูตรก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะทางญาติได้นำหลักฐานต่างๆ มายืนยันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจแ ละแพทย์แล้ว ก็สามารถออกเอกสารได้ไม่จำเป็นต้องส่งศพไปผ่าเพราะแน่ชัดว่าเกิดจากอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดการเสียชีวิตจากการเหตุน่าสงสัย

ต่อมา นายแพทย์ชาญวิชย์ ศุภประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครชัยศรี ได้ทราบเรื่องจึงได้ทำการประสานงานกับหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลตำรวจ เรื่องการตรวจเอกลักษณ์บุคคล โดยได้ยอมรับว่าเกิดการผิดพลาดทางการสื่อสาร โดยมีผู้เสียชีวิตที่นำศพออกไปแล้วทั้ง จ.พิจิตร และรอรับไปที่ จ.สงขลา โดยได้กลับมาดูเอกสารหลักฐานต่างๆ เป็นรายๆ ไป ซึ่งได้ให้มีการเก็บหลักฐานเส้นผม และสารคัดหลั่งที่กระพุ้งแก้มของศพ และญาติผู้เสียชีวิตแต่ละคน เพื่อทำหลักฐานส่วนในรายที่ศพได้เคลื่อนที่ไปแล้วได้ประสานโรงพยาบาลใน จ.พิจิตร ให้ทำหลักฐานส่งมายืนยันเช่นเดียวกัน เพื่อหาข้อสรุปในการหาเอกลักษณ์บุคคล แม่จะมีหลักฐานมายืนยัน แต่ด้วยสภาพศพที่หลายคนนั้นมีบาดแผลที่ใบหน้า และศรีษะทำให้ยากต่อการออกใบยืนยันการเสียชีวิต ซึ่งอาจจะล่าช้ากับญาติผู้เสียชีวิต แต่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ทั้งในเรื่องการยืนยันรับสิทธิประกันภัย

พ.ต.ท.อภิชาติ ศรีทองกุล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า โดยปกติเมื่อมีการชันสูตรเบื้องต้น และทราบแน่ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมด และมีญาตินำหลักฐานต่างๆ ที่ยืนยันได้ว่าผู้ตายเป็ใคร และมีญาติมารับศพทางโรงพยาบาลก็สามารถออกใบยืนยันการเสียชีวิตได้ทันที แต่กรณีนี้เข้าใจว่าแพทย์เวรมีความเห็นว่ามีสภาพศพที่จดจำใบหน้าไม่ได้หลายราย ทางแพทย์จึงพยายามรักษาสิทธิของทุกคนจึงขอส่งผ่าพิสูจน์บุคคล ซึ่งทางตำรวจก็พร้อมจะทำตามการยืนยันของแพทย์ แต่อาจจะทำให้ญาติๆ นั้นไม่สบายใจ แต่ก็ได้พยายามสร้างความเข้าใจให้เกิดแก่ทุกคนเพราะถือว่าทุกคนนั้นกำลังโศกเศร้าเสียใจ และพยายามจะทำให้ทุกอย่างลงตัวซึ่งทางตำรวจก็พยายามจะอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกคนแต่อยู่ภายใต้อำนาจที่จะทำได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ยังมียอดที่ 7 ราย โดยนายสัญญา ไหลแหวน อายุ 60 ปี คนขับอยู่บ้านเลขที่ 8/2 ม.5 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม นั้นยังไม่เสียชีวิต แต่อาการสาหัสมากห ากอาการดีขึ้นจะสามารถบอกเหตุการณ์การเกิดเหตุได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเหลือศพหญิง 1 ราย ที่ศีรษะขาด ยังไม่มีใครมายืนยันว่าเป็นญาติหรือติดต่อรับศพ และไม่สามารถติดตามได้ว่าเป็นผู้ใดโดยจะรอให้มีญาติมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น