นครปฐม - สรุปเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย สังเวยความชุ่ยโชเฟอร์ 18 ล้อวัยละอ่อนอายุแค่ 20 ปี โดนตำรวจรวบทันควันนำตัวดำเนินคดี เผยนายทหารอากาศ ต้องสูญเสียบุตรสาว ม.4 โรงเรียนสาธิตดังหลังไปเรียนพิเศษ ครูดับหลังส่งบุตรสาวไปเรียน ป.โท รอรับปริญญาเดือนหน้า โชเฟอร์รถตู้ดับตามเมีย หลังเกิดเหตุประชาชนสาปแช่งคนขับรถบรรทุก พร้อมวอนหามาตรการควบคุมการขับขี่เพื่อความปลอดภัยทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนถนนเพชรเกษมหลักกิโลเมตรที่ 48 (ขาเข้าเมืองนครปฐม) บริเวณจุดกลับรถหน้าศูนย์รถยนต์วอลโว่ ม.5 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีผู้เสียชีวิตทันที 7 คน และมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในซากรถตู้โดยสาร 4 คน โดย ร.ต.อ.ธงทอง เอี่ยมเวียง รอง สวป.หัวหน้างานจราจร สภ.นครชัยศรี ประสบเหตุ และสามารถจับกุมนายยุทธนา ขุนหมื่น อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 ม.3 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม คนขับรถบรรทุกพ่วงไว้ได้หลังเกิดเหตุ โดยเหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา พ.ต.ท.อภิชาติ ศรีทองกุล พนักงานสอบสวน (ชนพ.) สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รุดมาที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน รวม 7 คน นอนเสียชีวิตกระจัดกระจายอยู่ข้างรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าเขียว คาดดำ หมายเลขทะเบียน อจ 9475 นครปฐม ซึ่งเป็นรถโดยสารวิ่งรับผู้โดยสาร ระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ปลายทางท่ารถตู้ข้างห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับเยิน มีนายสัญญา ไหลแหวน อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.5 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นคนขับ
ถัดไปรถบรรทุกแบบพ่วง ตัวรถหมายเลข 87-5699 นครปฐม ตัวพ่วง 87-5712 นครปฐม จอดหันหน้าสวนทางที่ตัวพ่วงด้านซ้ายถูกชนล้อหลุดกระเด็นออกไป และมีศีรษะของผู้เสียชีวิตติดอยู่ และที่พื้นถนนมีศพนอนเกลื่อนถนน จึงบันทึกภาพที่เกิดเหตุแล้วให้มูลนิธิฯ นำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน ไปเก็บไว้ที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์
ส่วนผู้เสียชีวิตประกอบด้วย
1.นายสิทธิศักดิ์ ฉิมหลวง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/3 ม.4 แขวงอนุสาวรีย์ฯ เขตบางเขน 9 กรุงเทพมหานคร
2.นายสิริพล ลพานุวรรตน์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ข้าราชการครู โรงเรียนอินทรศักดิ์ศึกษาลัย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
3.นายนิพล หมอนวด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.15 ต.ดอนข่อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
4.น.ส.กนกพร เพ็ญจันทร์ หรือน้องป่าน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสาธิตศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม
5.นายณัฐวุฒิ ขาวสะอาด (อายุประมาณ 20-25 ปี) ไม่ทราบที่อยู่
6.นางณัฐชนก ทองเอียง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.7 ต.ดอนข่อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
7.นายสัญญา ไหลแหวน อายุ 60 ปี คนขับ อยู่บ้านเลขที่ 8/2 ม.5 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม
และ 8.เสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์นครปฐมในเวลาต่อมาอีก 1 รายคือ นางเสาวนีย์ ชูสุวรรณ อายุ 52 ปี ภรรยาคนคนขับรถ
และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายที่เหลือ คือ นางศิริวรรณ ลพานุวรรต์ อาจารย์โรงเรียนอินทรศักดิ์ศึกษาลัย ภรรยานายสิริพล ผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้าและตาขวา แพทย์เร่งผ่าตัดอาการโคม่า แต่ส่งสัญญาณดีเรื่อยๆ และชายอีก 2 ราย 1 รายผ่าตัดเสร็จอาการปลอดภัยแล้ว
สอบถามญาติของ น.ส.กนกพร เพ็ญจันทร์ หรือน้องป่าน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนสาธิตศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ บอกว่า บิดาของผู้ตาย คือ น.ต.สุรัก เพ็ญจันทร์ ผบ.พัน โรงเรียนการบินกำแพงแสน และนางอรพิน เพ็ญจันทร์ อายุ 45 ปี อาจารย์โรงเรียนการบินกำแพงแสน ได้เดินทางมาดูศพบุตรสายด้วยความโศกเศร้า และยังทำใจไม่ได้ เพราะผู้ตายนั้นเป็นเด็กเรียนดีมาก มาเรียนพิเศษที่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันหยุดเพราะเริ่มเปิดเทอม ตอนแรกคุณพ่อได้โทร.ถามถึงเวลากลับบ้าน แต่บุตรสาวบอกว่ามาไม่ทันรถตู้คันที่เคยนั่งประจำจึงตกรถ และมาขึ้นรถคันดังกล่าวแต่เมื่อถึงเวลานัดหมายที่รอคือหน้าห้างโลตัสนครชัยศรี ถึงเวลา 17.00 น. โทร.ไปแต่มือถือของบุตรสาวดับไป กระทั่งมาทราบข่าวว่าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนญาติของนายสิริพล ลภานุวรรตน์ อายุ 59 ปี อาจารย์โรงเรียนอินทรศักดิ์ศึกษาลัย อ.กำแพงแสน บอกว่า ทั้งนายสิริพล และนางศิริวรรณ ภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางมาส่งบุตรสาวเข้าพักที่หอย่านปิ่นเกล้า เพราะไม่ถนัดในการขับรถเข้ากรุงเทพฯ โดยบุตรสาวเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ และได้รับรางวัลเกิยรตินิยม จะรับพระราชทานปริญญาบัตรในเดือนหน้า ซึ่งต้องมาเข้าหอพักเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งทั้งหมดพากันนั่งรถตู่โดยสารเมื่อ 2 วันก่อน จากนั้นทั้งคู่ได้ดูแลลูกสาวจนเรียบร้อยจึงได้พากันนั่นรถตู้กลับมาเพื่อจะไปทำงานในวันรุ่นขึ้น แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกว่า ช่วงเกิดเหตุ รถตู้ได้ขับมาจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าจังหวัดนครปฐม แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นที่กลับรถ รถสิบล้อคันเกิดเหตุได้ขับมาจากทางจังหวัดนครปฐมมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ได้กลับรถอย่างกะทันหัน และไม่ยอมกลับรถแต่กลับขับย้อนศรเพื่อจะวิ่งไปเลียบถนนฝั่งตรงข้ามอย่างกะทันหันเนื่องจากจะวิ่งย้อนเลนไปเข้าซอยที่หน้าวัดบ่อตะกั่ว ซึ่งถ้าไปกลับรถตามปกติจะไปไกลอีกหลายกิโลเมตร เป็นจังหวะเดียวกับที่รถตู้ขับสวนมาทำให้เกิดการชนขึ้นอย่างจัง และทำให้ศพผู้เสียชีวิตกระเด็นกระจัดกระจายมานอนเสียชีวิตเกลื่อนพื้นถนน
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของบริษัท วิริยะประกันภัย ได้เดินทางมาดูศพที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม และได้แจ้งทางญาติว่า ศพที่เสียชีวิตจะมีการชดใช้ค่าเสียหายให้เบื้องต้นรายละ 6 แสนบาท แต่หากไม่พอใจก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ได้จนกว่าจะพอใจ และจะชดใช้ให้เต็มที่
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุประชาชนในจังหวัดนครปฐมต่างประณามการขับขี่ของโชเฟอร์รถบรรทุก 10 ล้ออย่างหนัก รวมถึงรถตู้โดยสารที่ขับขี่บนถนนเพชรเกษมว่าส่วนใหญ่จะใช้ความเร็วสูง ซึ่งยังไม่มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนออกมาบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังก่อนจะมาเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ขึ้นในที่สุด