น่าน - ชาวบ้านสองแคว เมืองน่านนับพันคนฮือปิดถนนสายน่าน-บ้านหลวง ประท้วงไล่ปลัดอำเภอ-หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าฯ พ้นพื้นที่ หลังบุกจับชาวบ้าน 5 คนข้อหารุกป่า พร้อมยึดเครื่องมือทำกิน แถมปักป้ายประกาศเป็นเขตป่าห้ามชาวบ้านเข้าพื้นที่อีก ทั้งที่ทำกินกันมานานกว่า 40 ปี
วันนี้ (27 พ.ค.) ชาวบ้านสองแคว ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน กว่า 1,000 คน ได้รวมตัวปิดถนนสายน่าน-บ้านหลวง หน้าโรงเรียนบ้านสองแคว โดยนำเต็นท์และเครื่องขยายเสียง พร้อมป้ายแสดงข้อความไม่พอใจ และขับไล่นายบุญมาก นาควัชระ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองน่าน และนายณัฐชนนท์ คนสูง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นน.10 สะเนียน หลังจับกุมชาวบ้าน 5 คน พร้อมยึดเครื่องมือทำมาหากินในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน
โดยชาวบ้านอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำกินมานานกว่า 40 ปี แต่ล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายระบุว่าเป็นเขตป่าสงวน มีการปักป้ายห้ามชาวบ้านเข้าพื้นที่ จำนวน 9 แปลง สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านอย่างมาก
นายธีรพงษ์ วิเศษกันทรากร อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 5 บ้านสองแคว ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน หนึ่งในแกนนำครั้งนี้ เปิดเผยว่า ชาวบ้านไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายมาก และมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ คือ 1. ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หยุดคุกคามราษฎรทุกกรณี 2. ให้คืนอุปกรณ์การเกษตรที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไป 7 รายการ ให้แก่ชาวบ้าน 3. ให้ยกเลิกพื้นที่ที่ถูกยึดไปทั้งหมดให้ราษฎรใช้ทำกินได้ต่อไป 4. ให้ทางราชการแก้ไขปัญหาที่ทำกิน โดยออกเอกสารสิทธิที่ทำกินแก่ราษฎร 5. ให้ย้ายนายบุญมาก นาควัชระ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองน่าน และนายณัฐชนนท์ คนสูง หน.หน่วยป้องกันรักษาป่า นน.10 สะเนียน ออกจากพื้นที่ตำบลสะเนียน อ.เมืองน่าน เนื่องจากไม่สามารถทำงานด้านมวลชนในพื้นที่ได้อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการปิดถนนประท้วงเป็นไปด้วยความตึงเครียด ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน และ อส.อำเภอเมืองน่านกว่า 50 นาย ทำให้ประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวผ่านไปยังอำเภอบ้านหลวง และไปยังจังหวัดพะเยาะ รวมทั้งเส้นทางขาเข้าตัวเมืองน่านมีรถติดยาวกว่า 1 กิโลเมตร โดยเฉพาะรถโดยสารประจำทางสายน่าน-บ้านหลวง-พะเยา ที่มีผู้โดยสารติดค้างอยู่บนรถ ต้องได้รับผลกระทบทำให้การเดินทางล่าช้าเสียเวลานาน
โดยแกนนำชาวบ้านได้ผลัดกันกล่าวตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐผ่านเครื่องขยายเสียง และบางช่วงบางตอนเป็นการใช้ภาษาม้ง พร้อมกับยืนยันขอเจรจากับนายชุมพร แสงมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านเท่านั้น โดยอ้างว่าที่ผ่านมามีการเจรจากับนายบุญยัง เรือนกุล นายอำเภอเมืองน่าน มาแล้วถึงสามครั้งแต่ยังไม่ได้รับความชัดเจน
ต่อมานายกาจพล เอิบสุขสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงษ์สามี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดน่าน และนายบุญยัง เรือนกูล นายอำเภอเมืองน่าน ได้เดินทางเข้าเจรจากับตัวแทนชาวบ้าน 10 คน ซึ่งใช้เวลานานกว่า 45 นาที เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าให้ทางแกนนำชาวบ้านนำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินทำกินทั้ง 9 แปลงที่มีการอนุญาตผ่อนผันเข้าประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.)เพื่อร่วมกันพิสูจน์หาข้อเท็จจริงและความชัดเจนในเรื่องที่ดินทำกิน โดยทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม พร้อมกับขอให้สลายการชุมนุมก่อน เนื่องจากสร้างผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ทำให้ชาวบ้านยอมสลายตัวไปในที่สุด