สกลนคร - ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 2 กลุ่มชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด กลุ่มแรกค้านแต่งตั้งคณะกรรมการ อ้างขบวนการคัดเลือกไม่โปร่งใส อีกกลุ่มเรียกร้องคุณสมบัติ ทวงสิทธิพันธสัญญาตามนโยบาย 66/2523 เพื่อรับเงิน-วัว-ที่ดิน ขณะที่ข้าราชการระดับสูงชิ่งหนี อ้างติดภารกิจ
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) 2 กลุ่ม ที่มาจากหลายพื้นที่และต่างจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 300 คน ปักหลักชุมนุมและเปิดเวทีปราศรัย โดยกลุ่มแรกจากศูนย์ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ศรท.) มีนายหิน พลนาคู หรือสหายนิยม ประธานศูนย์ ที่ตั้งบ้านจันทร์เพ็ญ ต.เต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร เรียกร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือตามพันธสัญญานโยบาย 66/2523 ที่เคยรับปากไว้เมื่อปี 2523 ซึ่งมีการแก้ไขและรับปากมาโดยตลอด แต่ข้อเรียกร้องไม่มีความคืบหน้า
จนเป็นเหตุให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องสิทธิพึงจะได้รับ โดยกองกิจการมวลชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 2 อ้างว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ 3 คือผู้อ้างตนเป็น ผรท.ร้องขอความช่วยเหลือโดยเรียกร้องให้ใช้คุณสมบัติและเงื่อนไขใหม่ หรือกลุ่มที่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่ได้กำหนดจัดแบ่ง ผรท.ออกเป็น 4 กลุ่ม
ประกอบด้วย กลุ่มแรก คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ มีคำวินิจฉัยว่าสมควรได้รับความช่วยเหลือ แต่ยังตกค้างอยู่ 1,087 รายทั่วประเทศ ส่วน กอ.รมน.ภาค 2 มี 506 ราย กลุ่มสอง ผู้อ้างตนมีคุณสมบัติครบถ้วนแต่ตกสำรวจจากทางราชการ กลุ่มสาม ผู้ที่มาชุมนุม และกลุ่มสี่ ผรท.ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านวัตถุอำนวยความสะดวก เช่น ถนน ที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน ไม่เรียกร้องรับเงินช่วยเหลือ โดยขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหามาเจรจาหาทางออก หากไม่ได้รับการแก้ไข หรือไม่ได้ความช่วยเหลือจากทางรัฐบาล ผรท.จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้าศาลากลางจนกว่าจะได้รับการแก้ไข
ด้านนายบุญส่ง มณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสอง รวมถึงปลัดจังหวัด อ้างติดราชการ จนถึงบ่ายวันเดียวกันนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ออกไปรับหนังสือจากผู้ชุมนุม
ขณะที่ ผรท.กลุ่มที่มาชุมนุมในวันนี้คือกลุ่ม นายบุญใส ก้อนดินจี่ หรือสหายประสิทธิ์ พร้อมสมาชิกกว่า 50 คน บุกขึ้นศาลากลางจังหวัดเพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหรือตัวแทน เพื่อขอคัดค้านการที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติหน้าที่ 4 นำเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เก่าภายใต้คำสั่งที่ 190 มาใช้อีก เพราะคำสั่งดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว
นายบุญใสกล่าวว่า หลักเกณฑ์ทั้งหมดยังไม่มีการยอมรับกันทั้งสองฝ่าย และแบบฟอร์มกรอกประวัติ ผรท.นั้นเงื่อนไขหลักเกณฑ์ยังยอมรับไม่ได้ และมีเสียงคัดค้านมาโดยตลอด ดังนั้นจึงขอให้ขยายเวลาออกไปอีก จากที่จะสิ้นสุดวันรับสมัครวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
ซึ่งข้อเรียกร้องขอแก้ไขคือ ขอให้เพิ่มคณะกรรมการที่จะมาทำการคัดกรองอย่างน้อยกลุ่มละ 1 คน โดยให้ความช่วยเหลือเป็นรายบุคคลโดยไม่เลือกปฏิบัติ เช่น สามี ภรรยา บุตร ธิดา ภายใต้พันธสัญญากับรัฐบาล คือ วัว 5 ตัว ที่ดินทำกิน 15 ไร่ ที่ดินปลูกบ้าน 1 ไร่ รวม 16 ไร่ และแก้ไขแบบฟอร์มข้างต้น
จากนั้นได้ยื่นหนังสือต่อ พ.อ.เกรียงไกร จิตพากเพียร หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.รมน. สกลนคร ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ส่งต่อไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรม โดยกำหนดยื่นพร้อมกันทั้ง 10 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยก่อนกลับนายบุญใสได้แวะลงไปพบปะกับกลุ่มนายหิน บริเวณเวทีปราศรัยด้วย
