อ่างทอง - ศาลจังหวัดอ่างทอง ยกฟ้องเหยื่อคดีตำรวจจับผู้ต้องหายาเสพติดผิดตัวแล้ว ขณะที่ญาติเผยสุดดีใจที่ความยุติธรรมยังมี ขอให้เป็นรายสุดท้ายที่ประสบเจอ
วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเรือนจำจังหวัดอ่างทอง นายชูชาติ สิทธิพลเทพ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 101 หมู่ 6 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง น้องชาย นายสมศักดิ์ สิทธิพลเทพ ได้รับอิสรภาพหลังศาลจังหวัดอ่างทอง มีคำสั่งยกฟ้องนายชูชาติ ในคดีที่ตำรวจ สภ.แสวงหา จ.อ่างทอง ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันกับพวกค้ายาเสพติด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ โดยหลังจากที่ นายชูชาติ เดินออกจากประตูเรือนจำ บุตรสาวของนายชูชาติ และญาติๆ ต่างโผเข้ากอด และร่ำไห้ด้วยความดีใจ
นายชูชาติ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกดีใจที่ความยุติธรรมยังมีอยู่ โดยหลังจากนี้ก็จะกลับไปทำงานต่อ แต่ก็จะรวบรวมข้อมูลดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งตนยืนยันว่าตนไม่ใช่เป็นคนกระทำผิด
ด้านนายสมศักดิ์ สิทธิพลเทพ พี่ชายนายชูชาติ สิทธิพลเทพ ที่ต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่น้องชายมานานกว่า 1 ปี เปิดเผยว่า ถึงวันนี้รู้สึกดีใจ และเชื่อว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ในโลกนี้จริง ซึ่งตนได้พยายามต่อสู้ด้วยการหาพยานหลักฐานว่านายชูชาติ น้องคนเล็กไม่ได้กระทำผิด แต่คนที่กระทำผิดก็คือนายสมชาย ที่เป็นน้องชายคนรอง ที่หลบหนีไป โดยผู้ที่ถูกดำเนินคดีในเรื่องนี้ทั้ง 2 คนก็ต่างรับโทษ และพ้นโทษไปแล้ว และมาเป็นพยานยืนยันว่า ไม่ใช่นายชูชาติ และก็ได้รับความเมตตาจากศาลในการให้ความเป็นธรรม
สำหรับคดีดังกล่าว เป็นข่าวครึกโครมต้นปีที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ สิทธิพลเทพ อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 6 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าวว่า นายชูชาติ สิทธิพลเทพ น้องชายถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ข้อหาจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 และถูกฝากขังที่เรือนจำจังหวัดอ่างทอง โดยที่น้องชายไม่มีความผิด และเป็นการจับผิดตัว ผู้ก่อคดีที่แท้จริงคือนายสมชาย สิทธิพลเทพ น้องชายคนกลางที่หลบหนี อยู่ในขณะนี้
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมแห่งคดีคือ วันที่ 29 มิ.ย 2549 ตำรวจ สภ.แสวงหา จ.อ่างทอง ติดต่อล่อซื้อยาบ้า และจับกุมนายจำลอง ช่างประดิษฐ์ นายสมยศ แสงทอง พร้อมยาบ้า จำนวน 570 เม็ด รถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยจับกุมได้ที่ หมู่ 2 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
จากการสอบสวนบุคคลทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ และซัดทอดว่านายสมชาย ร่วมขบวนการ และหลบหนีการจับกุมไปได้ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำสำนวนรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุญาตศาลจังหวัดอ่างทอง ออกหมายจับนายชูชาติ ซึ่งเป็นน้องชายคนเล็กดำเนินคดีโดยที่ไม่ได้กระทำผิด โดยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2555 ขณะทำการก่อสร้างที่ อ.บังบัวทอง จ.นนทบุรี ที่สำคัญ นายจำลอง และนายสมยศ ที่ศาลพิพากษาเมื่อปี 2549 ลงโทษจำคุก 5 ปี 7 เดือน เพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำ ส่วนนายสมชาย น้องชายคนกลางยังหลบหนี และนายชูชาติ น้องชายคนเล็กถูกจับกุมแทน
“ข้อเท็จจริงคือ นายสมชาย น้องชายคนกลางร่วมก่อคดีจริง ส่วนนายชูชาติ น้องชายคนเล็กออกจากบ้านไปทำงานก่อสร้างตั้งแต่ยังเด็ก รับภาระเลี้ยงดูคนในครอบครัว 9 ชีวิต ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด หรือกินเหล้าสูบบุหรี่ จะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละครั้งเท่านั้น การจับกุมที่เกิดขึ้นจึงเป็นการสำคัญผิด จับผิดตัว”