xs
xsm
sm
md
lg

ประกอบการขนส่งสินค้าฯ ชี้โครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก ชี้โครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้าน ของรัฐบาลต้องคิดรอบคอบ พร้อทต้องวางแผนการหารายได้เข้าประเทศเพื่อปลดภาระหนี้ของประชาชน

นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาและกรรมการสมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เผยหลังร่วมเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พร้อมการสัมมนาทิศทางการพัฒนาเรือเชื่อมโยงการขนส่งของประเทศ เพื่อรองรับ AEC โดยจัดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก กับสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง โดยมีนายสุรชัย ชันตระกูลทอง ส.ว.จังหวัดชลบุรี ประธานเปิดงาน ว่า ในปัจจุบันนี้การส่งทางบกโดยรวมส่วนใหญ่จะเป็นรถบรรทุก หัวลาก ทั้งทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับการท่าเรือ

ซึ่งในขณะนี้ก็ถือว่ามากพอสมควรอยู่แล้ว และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ารถบรรทุกหัวลากจะต้องเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก หลังจากที่มีการเปิดประชาคมอาเซียน หากถึงเวลานั้นคาดว่าการขนส่งทางทางบก และทางน้ำน่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทางบกได้มีการคาดการณ์ว่า จำนวนรถบรรทุกจะเพิ่มเป็น 10 ล้านคันอย่างแน่นอน ซึ่งหากในขณะนี้ทางรัฐบาลไม่คิดที่จะเตรียมแผนรองรับการเติบโตดังกล่าว คาดว่าในอนาคตเปิดปัญหาแน่นอน รวมถึงการที่รัฐบาลจะทำการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาประเทศนั้นคงจะต้องคิดกันให้รอบคอบึถงผลได้ผลเสีย เพราะเป็นจำนวนเงินที่สูงมากหากนำมาพัฒนาโครงการที่ดีมีประโยชน์ก็ควรที่จะสนับสนุน โดยเฉพาะการพัฒนาที่กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะเป็นการระบายความแออัดของจำนวนประชากรออกไปตามต่างจังหวัดแทนที่จะกระจุกตัวในกรุงเทพมหานคร

รวมถึงภาระหนี้สินที่ประชากรของประเทศจะต้องรับภาระตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบในการวางแผนงาน หากเดินหน้าโครงการกู้ยืมเงิน 2.2 ล้านล้านบาทจริง ก็จะต้องมีแผนการสร้างรายได้เข้าประเทศด้วยเช่นกัน เพื่อปลดภาระหนีให้ประเทศ ซึ่งหากมีการบริหารจัดการดีๆ ไม่น่าจะเกิน 20-30 ปี ควรจะต้องชำระหนี้ให้หมด

นอกจากนี้ นายทองอยู่ ได้กล่าวถึงโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ที่จังหวัดสตูล ที่ทางกรมเจ้าท่ากำลังผลักดันให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นให้ได้นั้น ต้องมองว่ามีความสำคัญมากน้อยเพียงใด หากเปรียบเทียบถึงความจำเป็น และความต้องการในพื้นที่ รวมทั้งยังมีเสียงต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจังหวัดสตูล เป็นจังหวัดเล็กๆ และไม่มีนิคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้อนสินค้าให้ภาคการขนส่งรองรับไว้ในพื้นที่ จึงอยากเสนอแนะว่าควรแสดงความชัดเจนออกมาโดยเร็ว และควรเร่งพัฒนาเพื่อรองรับ หรือส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้มากกว่าที่จะเมืองอุตสาหกรรม

“รัฐควรสร้างประเทศไทยให้เป็นฮับหลายๆ ทาง รู้สึกเสียดายเวลาที่กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่าพยายามผลักดันปากบารามานานถึง 4 ปี ซึ่งรัฐบาลควรมองการพัฒนาในภาพกว้าง โดยเฉพาะต้นทุนการขนส่งโดยรัฐควรเร่งเปลี่ยนโหมดการขนส่งทางถนนมาสู่ระบบราง และทางน้ำให้มากขึ้น สำหรับการขนส่งสินค้าทางน้ำควรมองท่าเรือทวายให้มากขึ้น เพราะการลงทุนก่อสร้างท่าเรือปากบาราอาจไม่คุ้มทุน และเป็นการนำเงินภาษีประชาชนไปใช้โดยใช่เหตุ”


กำลังโหลดความคิดเห็น