พะเยา - ผู้นำชุมชน 4 ตำบล อ.เมือง อ.ดอกคำใต้ สะพายปืนร่วมหารือป่าไม้-ส.ป.ก. โดยมีทหารร่วมสังเกตการณ์ วางแผนรังวัดแนวเขตป่าสัมปทานที่หมดอายุทำเป็นป่าชุมชน หลังเกิดปัญหาขัดแย้งกับนายทุนที่อ้างสิทธิครอบครองมานาน
วันนี้ (28 มี.ค.) รายงานข่าวจาก จ.พะเยา แจ้งว่า ตัวแทนชาวบ้าน และผู้นำชุมชน ต.บ้านปิน ต.คือเวียง อ.ดอกคำใต้ ต.แม่กา ต.จำป่าหวาย อ.เมือง กว่า 100 คน พร้อมอาวุธปืน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รวมถึงทหารที่มาสังเกตการณ์ ได้หารือถึงแนวทางการรังวัดที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋ำ ที่เคยให้สัมปทานแก่นายทุน และหมดอายุลงกว่า 10 ปี เพื่อกันเป็นป่าชุมชน
นายบันลือ เรือนสอน กำนันตำบลคือเวียง กล่าวว่า ป่าดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋ำ กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้นายทุนเข้าทำประโยชน์จากการปลูกต้นกระถินยักษ์ เป็นระยะเวลา 15 ปี ตั้งแต่ปี 2526 หมดอายุสัมปทานเมื่อปี 2541 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ต่อสัญญาให้แก่ผู้เช่าทำประโยชน์ ดังนั้น กรมป่าไม้จะต้องทำเรื่องคืนผืนป่าดังกล่าวให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน แต่ที่ผ่านมา ก็ไม่มีการดำเนินการใดจนก่อให้เกิดปัญหาระหว่างชาวบ้านรอบผืนป่ากับนายทุน มีการฟ้องร้อง แจ้งความดำเนินคดีกันไปมา ต่อมา น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้น ได้สั่งเพิกถอนสิทธิในป่าดังกล่าวจนถูกร้องศาลปกครอง ท้ายสุดศาลปกครองได้ยกคำร้อง
ชาวบ้านทั้ง 4 ตำบล มีความเห็นตรงกันว่า จะกันป่าผืนนี้ไว้เป็นป่าชุมชน เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้แก่ราษฎรผู้ยากไร้ และเป็นป่าต้นน้ำ จึงได้เรียกร้องผ่านไปยัง นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ต่อมาได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความต้องการของประชาชนส่วนรวม จึงได้มีรวมตัวกันเพื่อกำหนดการทำงานวัดแนวเขต
ด้านนายจำรัส จันต๊ะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กล่าวว่า ตอนนี้เพียงแต่มาตกลงว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างไร และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะรังวัดปักแนวเขตระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน โดยต้องเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อม หลังจากได้แนวเขตแล้วก็จะสรุปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการขั้นตอนต่อไป
อนึ่ง ในการรวมตัวของตัวแทนชาวบ้าน และผู้นำชุมชนครั้งนี้ จังหวัดทหารบกพะเยา ได้ส่งนายทหารมาร่วมสังเกตการณ์หาข้อมูลเชิงลึก เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันผลกระทบระหว่างผู้นำชุมชนกับผู้อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ที่มีอยู่ 16 ราย หากเจรจากันไม่รู้เรื่อง และเกิดกระทบกระทั่งกันขึ้น