xs
xsm
sm
md
lg

ลอบโค่นต้นพะยูงยักษ์อายุ 100 ปีกลางป่าสุรินทร์ มูลค่ากว่า 20 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จนท.เข้าตรวจสอบอายัดไม้พะยูงขนาดใหญ่อายุร่วม 100 ปี  2 ต้น ถูกโค่นตัดเป็นท่อนกองไว้รวม 120 ท่อน มูลค่ากว่า 20 ล้าน เตรียมพร้อมขนออกจากป่า อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์
สุรินทร์ - ลอบโค่นต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่อายุร่วม 100 ปี 2 ต้น ตัดเป็นท่อนกองไว้รวม 120 ท่อน มูลค่ากว่า 20 ล้าน เตรียมขนออกจากป่า อ.ศีขรภูมิ สุรินทร์ เผยอดีตพนักงาน ธ.ก.ส.อ้างเป็นเจ้าของผืนป่าโร่แจ้งความ จนท.เข้าตรวจอายัดไว้รอตรวจสอบเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินกลางป่าสงวนแห่งชาติ และ เขต ส.ป.ก.

วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.สมชาย บุญเพิ่ม (สบ1) ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนายเลิศนิวัฒน์ ประทานนท์ อายุ 63 ปี อดีตพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.12 ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ ว่าพบการตัดต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่อายุร่วม 100 ปี จำนวน 2 ต้น ในเขตพื้นป่าบ้านผักไหม หมู่ที่ 1 ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ

หลังรับแจ้งแล้วได้ประสานกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จ.สุรินทร์ นำโดย พ.ต.อ.สิทธิโรจน์ นพโพธิพงษ์ ผกก.3 บก.ปทส. พร้อมตำรวจสายตรวจตำบลผักไหม และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ เดินทางไปตรวจสอบ พบต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นอยู่กลางป่าลึกจำนวน 2 ต้น และตัดเป็นท่อนๆ ขนาดความยาว 5 เมตร พร้อมที่จะนำออกจากป่า รวมจำนวน 120 ท่อน

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการลงบันทึกอายัดไม้พะยูงของกลางไว้ทั้งหมดเพื่อสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งไม้พะยูงจำนวน 120 ท่อนดังกล่าวหากถูกส่งออกขายยังต่างประเทศได้จะมีมูลค่าสูงกว่า 20 ล้านบาท

จากการสอบสวนนายเลิศนิวัฒน์ ประทานนท์ อายุ 63 ปี ให้การว่า ต้นไม้พะยูงดังกล่าวเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งนับแต่ตนเกิดมาก็เห็นต้นพะยูง 2 ต้นนี้มีขนาดโตมากแล้ว และที่ดินป่าบริเวณนี้ได้ซื้อจากชาวบ้านตำบลผักไหมมาจำนวน 40 ไร่ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังทำงานอยู่ ธ.ก.ส. ปัจจุบันได้ทำการปลูกต้นยางพาราไปแล้วบางส่วน แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลามาดูแล กระทั่งล่าสุดมีชาวบ้านมาบอกว่าได้ยินเสียงดังเหมือนเลื่อยยนต์อยู่ในป่าลึกติดกับไร่ของตนจึงได้เดินทางมาดูจึงพบว่า ต้นพะยูงขนาดใหญ่อายุร่วม 100 ปี จำนวน 2 ต้น ถูกตัดเป็นท่อนๆ กองรวมกันไว้เป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามคนร้ายที่ลักลอบตัดไม้พะยูงมาดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำนายเลิศนิวัฒน์ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของผืนป่าเพิ่มเติมว่า ป่าดังกล่าวเป็นพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติ หรือเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และเข้ามาครอบครองได้อย่างไร เพราะผืนป่าทั้งสองด้านเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขต ส.ป.ก. โดยนายเลิศอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตัวเอง ได้ครอบครองมานานแล้วและมีเอกสาร ส.ค.1 สามารถตรวจสอบเอกสารสิทธิการครอบครองได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดสุรินทร์

ส่วนไม้พะยูงทั้งหมดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอายัดไว้ก่อน หากตรวจสอบเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินถูกต้องก็จะมอบไม้พะยูงทั้งหมด 120 ท่อนคืนให้นายเลิศนิวัฒน์ต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น