ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายผู้เดือดร้อนจากน้ำมันแพงพร้อมองค์กรร่วมออกรณรงค์รอบเมืองเชียงใหม่ ชวนประชาชนลงชื่อค้านขึ้นค่าแอลพีจี-เปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ชี้ธุรกิจพลังงานไทยถูกผูกขาดทำให้กลไกราคาไม่เป็นธรรม เผยเสียงตอบรับดีเตรียมรวบรวมรายชื่อยื่นถึง “ยิ่งลักษณ์” ผ่าน ผวจ.เชียงใหม่ 28 มี.ค.นี้
คลิกเพื่อชมคลิป:
วันนี้ (24 มี.ค.) ประชาชนจากเครือข่ายผู้เดือดร้อนจากน้ำมันแพงเชียงใหม่ เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมูลนิธิสุขภาพไทย ร่วมกันจัดขบวนออกรณรงค์รอบเมืองเชียงใหม่ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ได้ทราบถึงปัญหาด้านราคาน้ำมันที่ไม่เป็นธรรมของประเทศ และร่วมลงชื่อเพื่อคัดค้านการขึ้นค่าก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี และการให้สัมปทานปิโตรเลียมของรัฐบาล
ขบวนซึ่งประกอบด้วย รถยนต์ และจักรยานยนต์จำนวนประมาณ 10 คัน ที่ติดแผ่นป้ายมีข้อความเกี่ยวกับปัญหาด้านพลังงานที่ไม่เป็นธรรมของประเทศ ได้เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางต่างๆ ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยผ่านจุดสำคัญหลายแห่ง เช่น ถนนนิมมานเหมินทร์ ตลาดเมืองใหม่ ตลาดวโรรส ถนนท่าแพ วัดเจดีย์หลวงวรมหาวิหาร ก่อนจะสิ้นสุดการรณรงค์ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
กลุ่มเครือข่ายได้ตั้งโต๊ะที่บริเวณดังกล่าวเพื่อแจกจ่างเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพลังงานของประเทศไทย รวมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนทีผ่านไปมาร่วมกันลงชื่อคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และการให้สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ของประเทศ
การรณรงค์ของกลุ่มเครือข่ายในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวต่อต้านกรณีราคาพลังงานของประเทศที่ไม่เป็นธรรม และการดำเนินงานของภาคธุรกิจพลังงานที่มีเครือข่ายประชาชนหลายหน่วยงานเข้าร่วม เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยซึ่งแม้จะมีแหล่งพลังงานธรรมชาติของตนเอง แต่ที่ผ่านมา กลับถูกกลุ่มธุรกิจพลังงานผูกขาดไว้ทั้งระบบ ทำให้ประชาชนต้องใช้พลังงานในราคาสูงอย่างไม่เป็นธรรม และตามนโยบายของรัฐบาลที่เตรียมจะปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีนั้นจะส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก
กลุ่มเครือข่ายได้ออกรณรงค์สร้างความเข้าใจด้านพลังงานให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวติดริบบิ้นสีขาวเขียวเพื่อเป็นสัญลักษณ์อีกด้วย
นางนิตยา สุวรรณชิน ตัวแทนเครือข่ายผู้เดือดร้อนจากน้ำมันแพงเชียงใหม่เปิดเผยว่า ภาคประชาชนจากกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับปัญหาด้านพลังงาน และล่ารายชื่อเพื่อคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี และการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมในหลายจุดของจังหวัดเชียงใหม่มาตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา
การออกเผยแพร่ความรู้ และล่ารายชื่อตลอด 5 วันที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และสามารถรวบรวมรายชื่อของประชาชนที่ร่วมลงชื่อคัดค้านได้มากกว่า 1 พันรายชื่อแล้ว
หลังจากตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อที่บริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ในวันนี้ ทางเครือข่ายจะได้รวบรวมรายชื่อทั้งหมดเพื่อยื่นถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 28 มี.ค.ที่จะถึงนี้ต่อไป
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายที่ต้อการให้รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาด้านพลังงานของประเทศนั้น ประกอบด้วย 1.หยุดการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือน และรถยนต์ ที่จะเริ่มปฏิบัติในเดือน เม.ย.2556 และให้เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นวัตถุดิบในอัตราเดียวกับที่จัดเก็บจากภาคอุตสาหกรรมทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้หนี้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหมดลงอย่างรวดเร็ว 2.ขอให้ชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ออกไปก่อน จนกว่าจะมีการแก้ไขส่วนแบ่งสัมปทานให้เป็นธรรมต่อประเทศ และห้ามมิให้มีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 เพื่อขยายอายุสัมปทานที่สิ้นสุดสัญญาแล้วโดยเด็ดขาด
3.ขอให้ชะลอการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าเอกชนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติจำนวน 5,400 เมกะวัตต์ ในกลางปีนี้ และให้สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดยชุมชน ด้วยการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ประชาชนผลิตโดยไม่จำกัดจำนวน 4.ยุติการผูกขาดธุรกิจก๊าซ และพลังงานทั้งระบบของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 5.หยุดผลประโยชน์ทับซ้อนของปลัด และอธิบดีในกระทรวงพลังงาน และ 6.สนับสนุนให้มีการออกกฎหมายองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคโดยเร็ว