ลำปาง - เครือข่ายอนุรักษ์และพิทักษ์พลังงานไทยลำปาง รวมตัวรณรงค์ให้ความรู้ด้านพลังงานให้ชาวบ้าน จี้รัฐหยุดให้ ปตท.ผูกขาดพลังงานไทย-ตัดเส้นทางแห่งผลประโยชน์ทับซ้อนของปลัดฯ-อธิบดีใน ก.พลังงาน พร้อมห้ามขึ้นราคาก๊าซภาคครัวเรือน-ขนส่ง และเก็บเงินภาคปิโตรเคมีเข้ากองทุนฯ เพิ่ม
วันนี้ (13 มี.ค. 56) กลุ่มอนุรักษ์และพิทักษ์พลังงานไทยจังหวัดลำปาง นำโดยนายมานพ ก้าวสมบูรณ์, นางสมัย วัฒนโชติ และเครือข่ายร่วม 400 คน ได้ใช้รถยนต์-จักรยานยนต์กว่า 100 คัน ติดเครื่องเสียง ผูกริบบิ้นสีขาว-เขียว และป้ายประชาสัมพันธ์ ตั้งเป็น “คาราวานต้านโลภ หยุดการกอบโกยของธุรกิจพลังงาน” ขับเคลื่อนไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองลำปาง ไปสิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ด้านพลังให้กับประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ผลักดันให้เร่งออกกฎหมายองค์การอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
นายมานพได้อ่านแถลงการณ์สรุปได้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการปรับราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม รวมถึงเรื่องไฟฟ้าอย่างไม่เป็นธรรม และยังแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ หรือจากการสร้งโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นับเป็นวิกฤตด้านพลังงานที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยถ้วนหน้า ซึ่งต้นตอของปัญหานี้เกิดจากนโยบายของรัฐบาลในการจัดสรรทรัพยากรด้านพลังงาน ที่ไม่เป็นธรรม มุ่งประฌยชน์ทางด้านธุรกิจและการผูกขาด
กลุ่มประชาชนจังหวัดลำปาง ในนามของเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงานจังหวัดลำปาง-องค์กรรักษ์และพิทักษ์ทรัพยากรพลังงานไทยจังหวัดลำปาง ต้องการให้ประชาชนได้รับรู้ถึงต้นตอของปัญหาที่แท้จริงของพลังงานไทย และร่วมกันออกมาขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเป็ฯธรรมให้แก่สังคม โดยขอให้ทุกคนผูกริบบิ้นสีขาว-เขียว ซึ่งสีขาว หมายถึงกิจการพลังงานที่โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบประชาชน ส่วนริบบิ้นสีเขียว หมายถึงพลังงานหมุนเวียนเพื่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม
หลังจากนั้นนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ลงมารับหนังสือจากแกนนำเพื่อส่งต่อให้กับทางรัฐบาล ซึ่งในหนังสือดังกล่าว ทางกลุ่มเครือข่ายได้เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ คือ
1. หยุดการขึ้นราคาก๊าซภาคครัวเรือน และรถยนต์ ที่กำหนดเริ่มเดือนเมษายน 2556 และให้เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากภาคปิโตรเคมีที่ใช้ LPG เป็นวัตถุดิบในอัตรากิโลกรัมละ 12 บาท เหมือนที่เรียกเก็บกับอุตสาหกรรมทั่วไป จะทำให้หนี้กองทุนน้ำมันฯ ที่มีอยู่หมดไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี 2. ชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 1 ในกลางปีนี้ จนกว่าจะมีการแก้ไขส่วนแบ่งสัมปทานให้เป็นธรรมต่อประเทศ และห้ามมิให้การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เพื่อขยายอายุสัมปทานที่สิ้นสุดสัญญาแล้วโดยเด็ดขาด
3. ชะลอการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าเอกชนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ 5,400 เมกะวัตต์ ในกลางปีนี้ และให้สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดยชุมชน ด้วยการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ประชาชนผลิตโดยไม่จำกัดจำนวน 4. หยุดการผูกขาดของธุรกิจก๊าซ และพลังงานทั้งระบบของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 5. หยุดผลประโยชน์ทับซ้อนของปลัดและอธิบดีในกระทรวงพลังงานโดยด่วน 6. ให้สนับสนุนเพื่อให้มีการออกกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคโดยเร็ว โดยทางเครือยข่ายฯขอผลักดันทรัพยากรพลังงานไทยเพื่อไทยเป็นรัฐสวัสดิการต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อส่งต่อให้กับทางรัฐบาลแล้ว พ.ท.ณัฐเขต แจ้งจำรัส ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงานวุฒิสภาฯ ได้ลงมือสาธิตวิธีการผลิตน้ำมันให้กับประชาชนที่เข้าร่วมได้ดูด้วย
คลิกเพื่อชมคลิป: