ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ชาวบ้านในชุมชนหงสา สปป.ลาว เริ่มผวาพิษซัลเฟอร์ หลังโรงไฟฟ้าถ่านหินผุดขึ้นติดชุมชน แม้แต่ตลาดสดก็อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าแค่ 2 กม.
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าด้วยพลังงานถ่านหินลิกไนต์ ที่เมืองหงสา แขวงไซยะบุลี สปป.ลาว ตรงข้ามชายแดนจังหวัดน่าน ที่ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงไฟฟ้าราชบุรี และบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 เป็นการลงทุนโดยรัฐบาล สปป.ลาว ก่อสร้างไปกว่าร้อยละ 60 แล้ว
ปัจจุบันมีการสร้างอาคารโรงงานและเปิดหน้าดินเพื่อขุดถ่านหินในบริเวณกว้าง และมีกำหนดเปิดทดลองผลิตกระแสไฟฟ้าในอีก 2 ปีต่อจากนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ยังมีเวลาอีกนานกว่าจะเดินเครื่องจักร กลับเริ่มมีประชาชนได้รับสารซัลเฟอร์บ้างแล้วจากการสันดาปที่ปากบ่อที่เปิดหน้าดินเพื่อขุดถ่านหิน แต่ทางโรงไฟฟ้าฯ ยังคงยืนยันว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง แม้ตั้งอยู่ติดชุมชนก็ตาม ในส่วนของพื้นที่ก่อสร้างได้ทำการอพยพประชาชนออกไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าหงสาใช้วิธีการออกแบบให้ปล่องหรือช่องระบายอากาศเสียมีระดับสูงเพื่อป้องกันสารซัลเฟอร์ตกมายังชุมชนในเมืองหงสาซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ อยู่ติดกับแนวคันดินของโรงไฟฟ้า ขณะที่ตลาดสดหงสาก็อยู่ห่างจากโรงไฟป้าเพียง 2 กม.เท่านั้น
ชาวบ้านในตลาดหงสาบอกว่า ตอนนี้มีคนลาวจากเมืองต่างๆ ของลาว โดยเฉพาะที่เวียงจันทน์ เดินทางมาทำงานในโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวมากขึ้น โดยคาดหวังว่าจะได้รับเงินเดือนในอัตราสูงถือว่าเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ในประเทศลาว
ในส่วนของประชาชนที่อยู่ดั้งเดิม หรือชุมชนท้องถิ่น เริ่มไม่สบายใจกับการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวแม้ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์ว่าไม่มีมลพิษต่อชุมชนแต่อย่างใด หรือถ้าจะมีมลพิษเกิดขึ้นรัฐก็จะทำการย้ายชุมชนออกทั้งหมด ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้คนในท้องถิ่นมองถึงอนาคตตัวเองอาจต้องย้ายที่อยู่ใหม่ในอนาคต ในขณะเดียวกันชาวบ้านไม่สามารถเรียกร้องใดๆ ได้เลย
ชาวบ้านในเมืองหงสาบอกว่า ไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นและที่สำคัญประท้วงไม่ได้ แม้ว่าจะได้รับความรู้เรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีสารพิษออกมาในบรรยากาศก็ตาม
“ความจริงแล้วเมืองลาวไม่ได้ใช้กระแสไฟฟ้ามาก การสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้เพื่อขายให้กับประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยใช้ไฟฟ้าได้อย่างสบาย แต่พิษภัยของโรงไฟฟ้าเชื่อแน่ว่าคนลาวต้องรับกรรมไป”