กระบี่ - นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ จี้ กฟผ.หยุดโกหกชาวบ้านล้มเลิกสำรวจขนส่งถ่านหินทางทะเล ระบุไม่ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม แค่ได้ยินแนวคิดก็เห็นภาพสิ่งแวดล้อมถูกทำลายแล้ว
นายมานิตย์ ดำกุล นายกสมาคมประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่จังหวัดกระบี่ ในโอกาสที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มารับฟังความคิดเห็นจากสมาคมประมงจังหวัดกระบี่ว่า
กรณีที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะทำการก่อสร้างโรงไฟฟ้าโรงใหม่ ที่มีกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ ด้วยการใช้ถ่านหินนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียมายังจังหวัดกระบี่ โดยเข้ามาจอดที่เกาะปอ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และหลังจากนั้น จะมีเรือขนถ่ายอีกครั้งหนึ่งจากเกาะปอมายังท่าเรือสะพานช้าง บ้านคลองหวายเล็ก ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ และจากสะพานช้างไปยังโรงไฟฟ้าลิกไนต์นั้น
ในเบื้องต้น ได้ทราบว่าทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ทำการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปแล้วนั้น ซึ่งเรื่องนี้ตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่มาจากชาวประมงโดยตรง และรวมทั้งคณะกรรมการของสมาคมประมงจังหวัดกระบี่ด้วย ทางคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีความเห็นตรงกันว่า ไม่เห็นด้วยในการสร้างโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื่องจากว่าจะกระทบต่อชาวประมงในพื้นที่ดังกล่าวโดยตรง
นายมานิตย์ กล่าวอีกว่า บริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นอ่าวที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดในฝั่งทะเลอันดามัน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำชุกชุมทุกชนิด ทั้งหอย ปู กุ้ง ปลา ของจังหวัดกระบี่ ที่มีพื้นที่ติดต่อกัน 3 อำเภอ คือ อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะลันตา เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของฝั่งอันดามันที่ชาวประมงพื้นบ้านทำมาหากินกันมาหลายชั่วอายุคน การที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวในการเดินเรือเพื่อขนส่งถ่านหิน ย่อมส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศอย่างแน่นอน
“การไฟฟ้าฯ ไม่ต้องเอานักวิชาการที่ไหนมาศึกษาเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรอก แค่เห็นโครงการของโรงไฟฟ้าเสนอมาก็เห็นภาพแล้ว ในทางที่ดีตนอยากจะให้ทางการไฟฟ้าฯ หยุดคิดเรื่องนี้ไปก่อน อย่าดื้อดึง เราพูดคุยกันในห้องก็พอจะเข้าใจกัน ไม่ต้องออกไปพูดกันข้างนอก ปิดถนนกันเหมือนม็อบสวนปาล์ม มันเสียชื่อจังหวัดกระบี่”
นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมรักเลจังหวัดกระบี่ กล่าวเพิ่มอีกว่า จากการที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มาทำการชี้แจงถึงระบบเทคโนโลยี เรือขนส่งถ่านหินที่ทันสมัย และไม่มีความจำเป็นในการขุดลอกร่องน้ำ ก็สามารถขนส่งถ่านหินจากเกาะปอมาโรงไฟฟ้าได้ โดยที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรื่องนี้ทางการไฟฟ้าฯ อย่ามาโกหกกันเลย บริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณน้ำตื้น เรือขนส่งถ่านหินแต่ละลำหนักกี่ตัน ขนส่งจากเกาะปอมาโรงไฟฟ้าวันละ 7 เที่ยว เดือนหนึ่งรวมกว่า 200 เที่ยว สัตว์น้ำในบริเวณนี้จะเหลืออะไร ปัจจุบัน พื้นที่ตรงนี้เหมือนกับเป็นตลาดสดของชาวบ้าน ถ้าหากปล่อยให้โรงไฟฟ้ามาทำอย่างที่ต้องการ ถามว่าชาวประมงพื้นบ้านจะตกอยู่ในสภาพอย่างไร
