กระบี่ - ชาวตำบลปกาสัย จ.กระบี่กว่า 500 คน บุกศาลากลางจังหวัดกระบี่ ยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ระบุโรงงานเก่า ชาวบ้านกระทบหนักอยู่แล้ว ทั้งป่วยเป็นโรค แต่ก็ยังไม่ได้รับเยียวยา
เวลา 14.00 น.วันนี้ (11 ก.พ.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ชาวบ้านจากตำบลปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ จำนวนกว่า 500 คน นำโดยนายสมยศ ขันทอง นายชลิต สุขโหตุ แกนนำชาวบ้าน และผู้นำในพื้นที่เดินทางมารวมตัวกันที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ต่างพร้อมใจใส่เสื้อสีเขียว และมีการนำป้ายเขียนข้อความคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินต่างๆ เช่น ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ถ่านหินนำความหายนะ เป็นต้น เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านต่อนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ คัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเครื่องขยายเสียงบนรถ 6 ล้อ โดยที่แกนนำผลัดเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวปราศรัยถึงผลกระทบที่จะตามมาหากมีโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเกิดขึ้นในพื้นที่ จากนั้น นายสมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เดินลงมารับหนังสือร้องเรียน
ทั้งนี้ ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า การที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กำลังจะศึกษาผลกระทบการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอยู่ในขั้นตอน ค.3 ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หากไม่มีการคัดค้าน ทางการไฟฟ้าฯ จะทำการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินลิกไนต์ที่ ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมันเตาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขนาดกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างมาก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ได้มีการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมาแล้วเมื่อปี 2507 ถึงปี 2538 ซึ่งชาวบ้านกระทบมาต่อเนื่อง เป็นโรคต่างๆ ต่อมา ได้เปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าน้ำมันเตามีกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ ทำให้ผลกระทบลดลง แต่ขณะนี้จะกลับมาใช้พลังงานถ่านหินอีก ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ เพราะจะกระทบหนักเช่นเดิม
นายชลิต สุขโหตุ ตัวแทนชาวบ้าน ต.ปกาสัย กล่าวว่า ตั้งแต่โรงไฟฟ้าเข้ามาตั้งในพื้นที่ ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านได้เปลี่ยนไป มีความเป็นอยู่ด้านสุขภาพที่แย่ลง บางคนเป็นโรคทางเดินหายใจ บางคนเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินขนาดใหญ่ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาพลังงานไฟฟ้าไม่พอได้อย่างยั่งยืน ทางที่ดีควรที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ และควรใช้พลังงานอื่นทดแทน เช่น พลังงานลม แสงอาทิตย์ หรือน้ำมันปาล์ม ซึ่งน้ำมันปาล์มนั้นหากนำมาผลิตไฟฟ้าก็จะส่งผลดีต่อชาวบ้านที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ผลผลกระทบที่ตามมาก็น้อย และขณะนี้ในต่างประเทศก็มีการดำเนินการแล้ว จึงขอให้ยุติการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว และว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินถ้าดีจริงคงจะไม่มาถึงกระบี่อย่างแน่นอน
นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินยังไม่มีการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ อยู่ในตอนเตรียม ทำ ค.3 ซึ่งได้ผ่านการทำ ค.1 และ ค.2 แล้ว ส่วนข้อร้องเรียนที่ชาวบ้านเกรงว่าเมื่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วจะได้รับผลกระทบ ตนจะนำเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบต่อไป ชาวบ้านพอใจ และได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
