ลำปาง - พบบ่อบาดาลลึกไม่เกิน 10 เมตร ทั่ว 8 จังหวัดภาคเหนือ เสี่ยงเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลังมหาอุทกภัยปลายปี 54 ล่าสุดต้องเป่าล้าง-สั่งปิดบ่อถาวรแล้วกว่า 1 พันบ่อ หลังตรวจพบอีโคไลปนเปื้อน 380 บ่อ ฟื้นฟูได้แล้ว 212 บ่อ
วันนี้ (21 มี.ค.) สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1 ลำปาง กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้จัดการอบรมสัมมนาเผยแพร่ผลงานทางวิชาการน้ำบาดาลในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำบาดาลที่ถูกปนเปื้อนจากเหตุอุทกภัยต่อประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 โดยมีนายอดิสัย จารุรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นประธานเปิดงาน ท่ามกลางผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 400 คน
นายอดิสัยเปิดเผยว่า หลังจากหลายพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 54 และในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือที่มีแหล่งน้ำบาดาลมากกว่า 1 พันแห่งที่ถูกน้ำท่วม ทางสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1 ลำปาง จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบคุณภาพน้ำ จนพบว่าบ่อบาดาลหลายแห่งพบการปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆ จึงได้ทำการปิดบ่อและฆ่าเชื้อเพื่อที่จะให้ประชาชนได้ใช้น้ำได้อย่างปลอดภัย
แต่ที่ยังเป็นห่วงคือ บ่อน้ำของชาวบ้านที่เจาะโดยใช้ปั๊มน้ำสูบขึ้นมา หรือขุดเจาะกันเองที่ความลึกแค่ 10 เมตร บ่อในลักษณะนี้น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนต่างๆ สามารถแทรกซึมและไหลลงบ่อได้ง่าย ยากแก่การควบคุม และคาดว่าบ่อน้ำตื้นเหล่านี้จะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและสารปนเปื้อนต่างๆ หากนำมาใช้บริโภคหรือปล่อยให้มีการใช้น้ำจากแหล่งดังกล่าวเป็นเวลานานอาจเกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างมาก
“ตอนนี้ได้สั่งให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและสำรวจแหล่งบ่อน้ำตื้นเหล่านี้แล้ว เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีการสำรวจเลย”
อนึ่ง ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำของสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1 ลำปาง ระยะที่ผ่านมานั้น ได้มีการเป่าล้างบ่อบาดาลที่ถูกท่วมขัง และปิดปากบ่อบาดาลด้วยอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมถาวร จำนวน 1,118 บ่อ
จากการเก็บตัวอย่างน้ำ ไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางเคมีทั้งก่อนและหลังการเป่าล้างพบเชื้ออีโคไล จำนวน 380 บ่อ และสามารถพื้นฟูได้แล้ว 212 บ่อ คิดเป็นร้อยละ 55.78 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการคาดจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้
