กรมวิทย์จับมือ อภ.เซ็น MOU ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เล็งพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็นในรูปวัคซีนแห้ง และวัคซีนไข้สมองอักเสบที่ผลิตจากสมองหนูให้มีรวดเร็วขึ้นแต่คงประสิทธิภาพ คาดสำเร็จภายใน 1 ปี เชื่อช่วยลดราคาวัคซีนนำเข้าจากต่างประเทศจากเข็มละ 500 บาท เหลือไม่เกินเข็มละ 100 บาท
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนาชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวภายหลังพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์กับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ว่า ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการทำงานร่วมกับ อภ.มาโดยตลอด เช่น การตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาชื่อสามัญที่ อภ.ผลิตและนำเข้า การพัฒนาวัคซีนร่วมกับ อภ. เป็นต้น ซึ่งการเซ็น MOU ในครั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลและ อภ.มีนโยบายที่จะหันมาผลิตวัคซีนใช้เองมากกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในการวิจัยพัฒนา การผลิตระดับกึ่งอุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ
นพ.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความร่วมมือกับ อภ.ในครั้งนี้มีข้อตกลงร่วมกัน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการวิจัยพัฒนา 2. ด้านการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพระดับกึ่งอุตสาหกรรม และ 3. ด้านการพัฒนาบุคลากร โดยทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยพัฒนาเพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศร่วมกัน โดยการสนับสนุนทรัพยากรบุคคล ห้องปฏิบัติการ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ องค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมทั้งแสวงหาทุนสนับสนุนในการศึกษ วิจัยและพัฒนา ทั้งนี้ สิทธิในทืรัพย์สินทางปัญญาและกรรมสิทธิ์ในผลงานทีเกิดขึ้นจากความร่วมมือในการวิจัยพัฒนาและผลิตระดับกึ่งอุตสาหกรรม ทั้งสองฝ่ายจะถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันตามสัดส่วนที่แท้จริงของการดำเนินงานและการลงทุน โดยในเบื้องต้นทั้งสองหน่วยงานจะมีความร่วมมือกันในการพัฒนากรรมวิธีการผลิตวัคซีน 2 โครงการ คือ การนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อป็นให้อยู่ในรูปวัคซีนแห้ง และการพัฒนากระบวนการหลังการผลิต (Downstream Proces) ของวัคซีนไข้สมองอักเสบชนิดที่ผลิตจากสมองหนู
“การเซ็น MOU ในครั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเข้าไปร่วมพัฒนากรรมวิธีการผลิตวัคซีนทั้ง 2 โครงการให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถผลิตได้รวดเร็วขึ้น แต่ยังคงคุณภาพเหมือนเดิม ที่สำคัญสามารถลดการนำเข้าวัคซีนดังกล่าวจากต่างประเทศได้ จากที่เคยนำเข้าเข็มละประมาณ 300-500 บาท จะลดลงเหลือประมาณไม่เกินเข็มละ 100 บาท ซึ่งคาดว่าความร่วมมือการพัฒนากรรมวิธีการผลิตวัคซีนในครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 1 ปี” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว
ด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การเซ็น MOU ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจในประสิทธิภาพของยาที่ อภ.ผลิตเองมากขึ้น และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาของประชาชน เนื่องจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นองค์กรกลางที่มีบทบาทในการศึกษาวิจัยและพัฒนาห้องปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุข
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนาชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวภายหลังพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์กับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ว่า ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการทำงานร่วมกับ อภ.มาโดยตลอด เช่น การตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาชื่อสามัญที่ อภ.ผลิตและนำเข้า การพัฒนาวัคซีนร่วมกับ อภ. เป็นต้น ซึ่งการเซ็น MOU ในครั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลและ อภ.มีนโยบายที่จะหันมาผลิตวัคซีนใช้เองมากกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในการวิจัยพัฒนา การผลิตระดับกึ่งอุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ
นพ.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความร่วมมือกับ อภ.ในครั้งนี้มีข้อตกลงร่วมกัน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการวิจัยพัฒนา 2. ด้านการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพระดับกึ่งอุตสาหกรรม และ 3. ด้านการพัฒนาบุคลากร โดยทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยพัฒนาเพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศร่วมกัน โดยการสนับสนุนทรัพยากรบุคคล ห้องปฏิบัติการ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ องค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมทั้งแสวงหาทุนสนับสนุนในการศึกษ วิจัยและพัฒนา ทั้งนี้ สิทธิในทืรัพย์สินทางปัญญาและกรรมสิทธิ์ในผลงานทีเกิดขึ้นจากความร่วมมือในการวิจัยพัฒนาและผลิตระดับกึ่งอุตสาหกรรม ทั้งสองฝ่ายจะถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันตามสัดส่วนที่แท้จริงของการดำเนินงานและการลงทุน โดยในเบื้องต้นทั้งสองหน่วยงานจะมีความร่วมมือกันในการพัฒนากรรมวิธีการผลิตวัคซีน 2 โครงการ คือ การนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อป็นให้อยู่ในรูปวัคซีนแห้ง และการพัฒนากระบวนการหลังการผลิต (Downstream Proces) ของวัคซีนไข้สมองอักเสบชนิดที่ผลิตจากสมองหนู
“การเซ็น MOU ในครั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเข้าไปร่วมพัฒนากรรมวิธีการผลิตวัคซีนทั้ง 2 โครงการให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถผลิตได้รวดเร็วขึ้น แต่ยังคงคุณภาพเหมือนเดิม ที่สำคัญสามารถลดการนำเข้าวัคซีนดังกล่าวจากต่างประเทศได้ จากที่เคยนำเข้าเข็มละประมาณ 300-500 บาท จะลดลงเหลือประมาณไม่เกินเข็มละ 100 บาท ซึ่งคาดว่าความร่วมมือการพัฒนากรรมวิธีการผลิตวัคซีนในครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 1 ปี” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว
ด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การเซ็น MOU ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจในประสิทธิภาพของยาที่ อภ.ผลิตเองมากขึ้น และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาของประชาชน เนื่องจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นองค์กรกลางที่มีบทบาทในการศึกษาวิจัยและพัฒนาห้องปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุข
