กาญจนบุรี - ฮือฮา “หมอเณร” หมอสมุนไพรชื่อดังเมืองกาญจนบุรี ลงทุนแต่งเพลง-ร้องเอง เนื้อหาประชดรัฐ เผยแพร่ทาง “ยูทิวบ์” พร้อมฝากถึงรัฐบาล “ปู-ยิ่งลักษณ์” หันมาสนใจในเรื่องของสมุนไพร และให้การสนับสนุน เพราะสมุนไพรของไทยสามารถรักษาโรคร้ายให้หายขาดได้ เชื่อถ้านายกฯ สนับสนุนยาสมุนไพรไทยก็จะเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติแน่นอน และชาวโลกจะต้องทึ่งในความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทยที่ทรงคุณค่ามหาศาล
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (6 มี.ค.) นายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร หมอยาสมุนไพรชื่อดัง เปิดเผยว่า ตนคลุกคลีอยู่กับวงการยาสมุนไพรมานานกว่า 30 ปี สามารถผลิตคิดค้นยาสมุนไพรตามตำราที่มีอยู่ด้วยตนเองจนสามารถนำยาสมุนไพรชนิดต่างๆ ให้ผู้ป่วยนำไปรับประทานจนหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคหัวใจรั่ว หรือแม้กระทั่งโรคเอดส์ที่เคยระบาดอย่างหนักในห้วงหลายปีก่อน จนทำให้ไม่สามารถผลิตยาสมุนไพรเพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยแทบไม่ทัน
อีกทั้งผู้ป่วยที่เดินทางมาให้ตนรักษาต้องยอมรับว่า มาจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยชาวต่างชาติก็มีมาก และต้องยอมรับว่า ผู้ป่วยแต่ละรายที่มารับยาสมุนไพรนั้นต่างก็มีอาการป่วยที่หนักหนาสาหัสทั้งนั้น และทุกคนที่ป่วยได้ผ่านการรักษาจากโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงต่างๆ ของประเทศไทยมาด้วยกันทั้งนั้นเช่นกัน ผู้ป่วยบางรายญาติได้นำพามาที่สวนสมุนไพรเพราะเห็นว่ายาสมุนไพรเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเขา ที่อาจจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ ผู้ป่วยจำนวนมากหลังจากได้รับประทานยายาสมุนไพรตามขั้นตอน ก็ได้หายป่วยจนเป็นปกติ ชาวบ้านต่างก็ทราบกันดี
แต่ปัจจุบัน ตนต้องมาต่อสู้เพียงลำพัง ต่อสู้กับหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับยาสมุนไพร หรือสมุนไพรไทยที่ต่อสู้กับหน่วยงานเหล่านี้ ก็เพื่อต้องการให้หน่วยงานภาครัฐหันมาใส่ใจสนใจ หันมาทำความเข้าใจ หันมาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับคุณค่าของสมุนไพรไทยให้ลึกซึ้งมากกว่าที่เป็นอยู่ และหันมาให้การสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการคิดค้น และผลิตยาสมุนไพรจากตำราโบราณที่เขามีอยู่ แต่ปัจจุบัน ทั้งๆ ที่ต่างก็มีทีท่าว่าจะให้การสนับสนุน แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นได้แค่เพียงนโยบายลมๆ แล้งๆ นอกจากไม่สนับสนุนแล้ว ยังมากีดกัน และกลั่นแกล้งกันอีก
นายชัยรัตน์ ยังได้กล่าวฝากไปถึงรัฐบาลให้ช่วยหันมาสนใจในเรื่องของสมุนไพร และให้การสนับสนุนด้วยจะได้ไม่ต้องไปซื้อเครื่องกระตุ้นหัวใจ และหัวใจเทียมจากต่างประเทศปีละนับพันล้านบาท เพราะสมุนไพรของไทยเรานั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ และอย่าไปเชื่อนักวิจัยให้มากจนเกินไป เพราะว่าเพิ่งจะมาทำกันเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง ส่วนสมุนไพรยาโบราณนั้นมีมาเป็นพันๆ ปีแล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนผลงาน และยาสมุนไพรไทยก็จะเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติแน่นอน และชาวโลกจะต้องทึ่งในความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทยที่ทรงคุณค่ามหาศาล
ส่วนที่ชาวบ้านเรียกตนว่า “หมอเณร” นั้น ก็เพระว่าตนเคยบวชเป็นเณรมาก่อน ซึ่งตนเป็นคนจังหวัดปทุมธานี แต่ได้ย้ายมาซื้อที่ดินเพื่อปลูก และสร้างสวนสมุนไพรที่ จ.กาญจนบุรี ที่สวนจะมีสมุนไพรกว่าร้อยชนิด บางชนิดไม่มีขายกันในท้องตลาด เช่น หำรอด คองแมว สมุนไพร 2 ชนิดนี้ จะใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ การรักษาด้วยสมุนไพรเป็นยาสูตรมีทั้งยาหม้อ ยาผง ไม่ใช่ยาเดี่ยวจึงต้องใช้สมุนไพรหลายชนิด จึงต้องไปหาเพิ่มเติมมาจากที่อื่นๆ
ครั้งอดีตตนได้ดำเนินการเรื่องส่งยาสมุนไพรไปจำหน่ายยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ทวีปแอฟริกา ครั้งนั้นได้รับการสนับสนุนจากสมาคมแพทย์แผนไทย ให้ช่วยรับรองตัวยาสมุนไพร ต่อมา ได้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลจากประเทศลาว มาสั่งซื้อสมุนไพรจากตน เพื่อนำไปรักษาคนไข้ที่ป่วย และรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้รับใบประกอบโรคศิลปะ แต่ทว่าความรู้ความสามารถของตนที่มีอยู่ก็สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยให้รอดตายจากโรคแปลกๆ จำนวนมากแล้ว โดยตนรับรักษาคนไข้ด้วยยาสมุนไพรไทยที่ได้ศึกษามาจากบรรพบุรุษมาตั้งแต่อายุ 15 ปี มีชื่อเสียงทั้งใน และต่างประเทศมาตลอด และหากว่ายาสมุนไพรที่มีอยู่นั้นไม่มีคุณภาพดีจริง คนป่วยที่มารักษากับตนคงไม่หายจากอาการป่วยอย่างแน่นอน หรือไม่ตนก็คงถูกประชาชนประณามไปนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อเพลงที่หมอเณรร้อง และเผยแพร่ลงทาง YouTube (ยูทิวบ์) ทั้งหมดนั้น หมอเณรแต่งขึ้นมาเอง และร้องเอง โดยแต่งเพลงขึ้นมาจากสถานการณ์ความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยหมอเณรให้เหตุุผลว่า ที่แต่งเพลงขึ้นมาเผยแพร่เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ค่อยให้การสนับสนุนวงการแพทย์แผนโบราณที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปี และยิ่งนับวัน สมุนไพรไทยก็เริ่มจะหดหายไปจากวงการ หากหน่วยงานรัฐยังนิ่งเฉยอย่างนี้อยู่ต่อไป และหากยังเป็นเช่นนี้ตนก็จะประกาศขายสวนสมุนไพรที่มีอยู่ประมาณ 100 ไร่ทิ้ง แล้วกลับไปอยู่บ้านแบบสบายๆ จะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเพลงของหมอเณรถูกเผยแพร่ลงทาง YouTube (ยูทิวบ์) ได้ไม่นานปรากฏว่า ได้มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับคลิปที่หมอเณรนำไปเผยแพร่จนได้รับความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่เคยมารักษาที่สวนสมุนไพร โดยหมอเณรได้เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจเผยแพร่คลิปดังกล่าวเมื่อประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมาโดยใช้ชื่อว่า “มรดกไทย หมอเณร” หรือ http://www.youtube.com/watch?v=OtIKpdSjqhg
คลิกเพื่อชมคลิป: