ศรีสะเกษ - ชาวบ้านในอำเภอขุขันธ์ ศรีสะเกษผวา โร่ร้องสื่อเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกทหารยกพวกนับสิบเข้าบุกตัดโค่นต้นยางพาราในสวนเสียหายยับกว่า 300 ต้น
วันนี้ (4 มี.ค.) นายบัง สาระวัลย์ อายุ 75 ปี อยู่บ้านกฤษณา ต.กฤษณา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนประจำ จ.ศรีสะเกษ ว่าถูกคนมีสีประมาณ 10 คนลักลอบเข้ามาตัดโค่นต้นยางพาราภายในสวนเสียหายกว่า 300 ต้น ที่บริเวณบ้านฮ่องธาตุ หมู่ 8 ต.กฤษณา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและคดีไม่มีความคืบหน้า จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน พร้อมพาเดินทางไปตรวจสอบสวนยางพาราที่เกิดเหตุ พบว่าต้นยางพาราจำนวนมากถูกตัดโค่นล้มระเนระนาดกระจายทั่วบริเวณเกือบหมดทั้งสวน
นายบังกล่าวว่า สวนยางพาราแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ และมีต้นยางพาราประมาณ 400 ต้นสร้างรายได้ให้ครอบครัวตนเดือนละ 20,000 บาท ต่อมาวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคน ประมาณ 10 คนบุกเข้ามาตัดโค่นต้นยางพารา จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ เมื่อตำรวจมาถึงกลุ่มคนดังกล่าวได้ขับรถหลบหนีไป ซึ่งมั่นใจว่าเป็นฝีมือของทหารนายหนึ่งที่เป็นคนในหมู่บ้านและเป็นญาติกันด้วย
ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะมาจากเรื่องที่ดินผืนนี้ที่ต่อสู้กันถึงชั้นศาลมาแล้ว โดยศาลได้ตัดสินยกคำร้องที่มีการฟ้องร้องให้ตนออกจากพื้นที่บริเวณนี้ เนื่องจากเป็นที่ดินมรดก และเรื่องนี้ตนได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.จะกง อ.ขุขันธ์แล้ว
นางคำพันธ์ สาระชาติ ลูกสาวของนายบังกล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อนขนาดเป็นญาติเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ยังทำกันได้ ถือว่าเป็นทหารจะทำอะไรก็ได้หรืออย่างไร ขณะที่ชาวบ้านมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ก็ถูกข่มขู่จนไม่กล้าไปเป็นพยานให้ ตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า จึงได้มาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน
ด้าน ร.ต.อ.สุพิน อินตะนัย ร้อยเวรสอบสวน สภ.จะกง ต.จะกง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า คดีนี้ได้ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าว 2 คน คือ นายเฟื่อย สาระวัลย์ และนายประสิทธ์ สาระวัลย์ มารับฟังข้อกล่าวหาแล้วโดยทั้ง 2 คนได้มารับข้อกล่าวหาแล้วและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ไปกระทำการใดๆ และไม่ได้ไปก่อเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด
ส่วนทหารยศนายสิบนายหนึ่งนั้นกำลังออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเช่นกัน และขณะนี้ได้เรียกพยานมาสอบปากคำแล้วจำนวน 6 คน พร้อมได้ลงไปตรวจสอบสภาพพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่
