แม่ค้ายะลาร้องสื่อ จนท.บุกค้นบ้านทำภาพลักษณ์เสียหาย รายได้ชะงัก

ยะลา - แม่ค้าลองกองที่ยะลาร้องสื่อ หลังถูก จนท.ชุดปราบปรามยาเสพติดบุกค้นบ้านจนมีภาพแพร่ออกสื่อทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย รายได้หยุดชะงัก ลูกค้าเข้าใจผิดว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดจนไม่กล้าสั่งของ ยืนยันทำงานสุจริตไม่เกี่ยวข้องสิ่งผิดกฎหมาย

วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเรณู วันแอเลาะ อยู่บ้านเลขที่ 97/147 ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน 1 ใน 7 หลังที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และชุดปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งทหาร บุกเข้าตรวจค้นเมื่อรุ่งเช้าของวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมกับบ้านเป้าหมายอื่นๆ รวม 7 หลัง

นางเรณู วันแอเลาะ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ประกอบการที่มาจากต่างถิ่น มารับซื้อผลไม้ในพื้นที่ และเมื่อวันที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่บ้านนั้นตนเองก็รู้สึกตกใจว่าเพื่อนเพิ่งจะโดนยิงที่ อ.กรงปินัง และตอนนั้นลูกค้าก็เยอะ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาก็แจ้งว่าจะขอตรวจค้น แต่ด้วยสาเหตุใดก็ไม่บอก ก็รู้สึกตกใจ แต่ถ้าต้องการจะค้น ตนเองก็อนุญาตให้ค้น เพราะไม่มีสิ่งผิดกฎหมายอะไร แต่เมื่อค้นเสร็จแล้วก็มีภาพข่าวออกไปทางสื่อมวลชน ในวันนี้จึงเดินทางมาขอพบท่านผู้ว่าราชการจังหวีดยะลา เพื่อให้ช่วยแก้ไข เนื่องจากได้รับผลกระทบลูกค้าก็ไม่กล้าสั่งของ ทั้งหมด 20 กว่าปีที่ทำงานมา เงินทุกบาทที่ได้มาก็เป็นเรื่องของการทำงานที่ถูกกฎหมายทั้งสิ้น

“วันนี้ไม่ได้มาเรียกร้องเงินทองอะไร เพียงแต่อยากจะเรียกร้องสิทธิของตัวเองคืนมา ตนเองขอยืนยันว่า ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเครือข่ายยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด สามารถสืบประวัติได้ ตนเองเป็นผู้ประกอบการที่ทำประโยชน์ให้แก่ จ.ยะลา ผลักดันสินค้าโดยเฉพาะผลไม้ วันละประมาณ 5-6 คันรถสิบล้อ ตอนนี้กิจการก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะลูกค้ากลัว ไม่กล้าจะสั่งของเรา เป็นผลกระทบไปหมด ก็อยากจะขอชี้แจงว่า ตนเอง และกิจการค้าของตนเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด” นางเรณูกล่าว

นางเรณู วันแอเลาะ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเช้าวันที่เกิดเหตุนั้น ตนเองเพิ่งทำพิธีละหมาดช่วงเช้ามืดเสร็จ จากนั้นก็ลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน เพราะมีลูกน้องเรียก บอกว่ามีกลุ่มคนเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนเองคิดว่าจะโชคร้ายเหมือนพ่อค้าลองกองที่ถูกทำร้ายที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อวันก่อน แต่เมื่อลงมาก็พบว่า มีกลุ่มชายใส่ชุดดำ ตนเองก็สังเกต เมื่อเห็นสื่อมวลชนก็โล่งใจว่าไม่ใช่กลุ่มคนร้ายแน่นอน แต่กระนั้นก็ตาม เมื่อข่าวออกไปแล้วตนเองก็เป็นภาพตามข่าวที่ถูกนำเสนอ ทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย เพื่อนๆ โทร.มาถามกันวุ่นวาย ลูกค้า เพื่อนพ่อค้าแม่ค้าก็หยุดสั่งซื้อสินค้าผลผลิต เพราะเกรงว่าจะตกเป็นเหยื่อของเครือข่ายยาเสพติด ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเครือข่ายอะไรทั้งนั้น ตนเองทำงานสุจริตมาโดยตลอด