หนองบัวลำภู - ชาวบ้านเขตบ้านหนองบัวคำแสนและบ้านโป่งแค ในเขตตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง สุดทนเข้าร้องสื่อหลังทนกลิ่นเหม็นและควันไฟ พร้อมทั้งมลพิษจากกองขยะขนาดใหญ่ของเทศบาลตำบลนากลางที่ถูกไฟไหม้ลุกลามไม่ไหว สร้างความเดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน
ชาวบ้านเขตบ้านหนองบัวคำแสนและบ้านโป่งแค ที่อาศัยอยู่ในเขต ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู กว่า 50 คน เข้าร้องสื่อถึงปัญหาที่เกิดจากบ่อขยะเกือบ 10 ไร่ ที่ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 210 สายหนองบัวลำภู-เลย ในเขตพื้นที่ ต.ด่านช้าง ซึ่งเป็นของเทศบาลตำบลนากลาง พร้อมวอนขอให้ดำเนินการช่วยเหลือและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล หลังต้องทนรับกับสภาพปัญหาจากบ่อขยะขนาดใหญ่จำนวนมหาศาลที่เทศบาลตำบลนากลาง ดำเนินการจัดสรรให้เป็นแหล่งทิ้งขยะของเทศบาลตำบลนากลาง
แต่การจัดสรรพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการบริหารจัดการที่ดีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จึงสร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบให้มลภาวะเป็นพิษเดือนร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน
จากการสอบถามนางหนูคิด สีแสนตอ อายุ 52ปี ชาวหมู่ 4 บ้านหนองบัวคำแสน ต.ด่านช้าง อ.นากลาง เล่าให้ฟังว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเองพร้อมชาวบ้านหนองบัวคำแสน และบ้านโป่งแค ร่วม 200 หลังคาเรือนทนไม่ไหวกับกลิ่นและควันของกองขยะที่ถูกไฟไหม้ลุกลาม ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยในเขตใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน
โดยเฉพาะช่วงกลางคืนทำให้มีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ นอนไม่ได้และมีลูกหลานหลายคนเป็นโรคภูมิแพ้ เป็นไข้ขาดเรียน สร้างปัญหาให้ชาวบ้านมานานนับ 10 ปีและทุกครั้งที่เกิดเหตุก็จะร้องขอไปยัง อบต.ให้ช่วยดับไฟให้ในเบื้องต้น
ก่อนหน้านี้ได้ร่วมกันลงชื่อพร้อมทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเทศบาลตำบลนากลาง และ อบต.ด่านช้าง แม้แต่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 เกี่ยวกับการกำจัดขยะไม่ถูกวิธี และบ่อขยะมีมลพิษ ส่งผลกระทบต่อชุมชน ทำให้ชุมชนเกิดความเดือดร้อน
ซึ่งสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าไปตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และแจ้งให้ทางผู้ร้องทราบว่าได้สั่งการให้ระงับการใช้บ่อขยะดังกล่าวแล้ว และหากมีการกลับมาใช้อีกก็จะเป็นการละเมิด แต่ก็ไม่ทราบว่าการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปถึงไหนแล้ว
จากการสอบถามทางโทรศัพท์ไปยังนายสุพิศนาคำ นายกนายก อบต.ด่านช้าง ซึ่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงเข้าช่วยฉีดน้ำสกัดไฟให้กับชาวบ้านในเบื้องต้น เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลนากลาง ที่เข้ามาซื้อไว้และถูกจัดสรรให้เป็นทิ้งขยะของเทศบาลมาหลายสิบปีแล้ว และในช่วงนี้มักจะมีปัญหาอันเนื่องมาจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้บ่อขยะแห่งนี้มีอาชีพทำไร่อ้อย มักจะมีการเผาไร่อ้อยก่อนตัดทุกปี และอาจจะเกิดจากลมแรงไฟลุกจึงลามเผาไหม้ไปยังกองขยะของเทศบาลด้วย
จึงส่งผลให้เกิดไฟลุกลามขยะที่กองทับถมทำให้เกิดมลพิษต่อชาวบ้านในละแวกได้รับความเดือดร้อน และที่ผ่านมาองค์การบริหารส่วนตำบลด่านช้าง ก็ประสานงานไปยังเทศบาลตำบลนากลาง ให้เข้ามาแก้ไขแล้วในบางส่วน และทุกครั้งที่เกิดปัญหาไฟไหม้องค์การบริหารส่วนตำบลด่านช้าง ก็ได้นำรถน้ำพร้อม อปพร.เข้าไปช่วยดับไฟทุกครั้ง แต่ก็ยังมีปัญหาเรื้อรังทุกปี และได้มีการประชุมหารือและแนวทางแก้ไขร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ถาวร
