สุรินทร์- ดีเอสไอลงพื้นที่ลุยตรวจสอบติดตามคดีขยะติดเชื้อนับพันตัน ถูกลักลอบทิ้งเกลื่อน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ และ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เผยเฉพาะ อ.ท่าตูม พบขยะจาก 10 โรงพยาบาลในภาคอีสาน ถูกบริษัทรับจ้างกำจัดแสบขนมาทิ้งในป่าถึง 13 แห่ง กว่า 800 ตัน ด้าน อบต.และโรงพยาบาลท่าตูมแจ้งความดำเนินคดีแต่ไม่คืบ
วันนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พงศ์สิทธิ์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีและความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สั่งการให้นายวรพจน์ ไม้หอน และนายณัฐพล เนตรพุกกณะ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ ลงพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เพื่อติดตามการลักลอบนำขยะติดเชื้อ และขยะทางการแพทย์ซึ่งถูกนำไปทิ้งไว้ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งประมาณ 70-100 ตัน โดยบริษัทที่รับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อดังนำมาซุกซ่อนไว้แทนการกำจัดอย่างถูกวิธี โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
ทั้งนี้ พบว่าขยะติดเชื้อดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกรณีการลักลอบขนขยะติดเชื้อไปทิ้งทีชายป่าสวนแห่งชาติพนมดิน ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพราะบริษัทผู้รับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อที่รับขยะจากโรงพยาบาลใน จ.บุรีรัมย์ มานั้นหายไปกว่า 1,000 ตัน ซึ่งคาดว่าขยะติดเชื้อจาก จ.บุรีรัมย์ จะถูกนำมาลักทิ้งในป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เดินทางเข้ามาเก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกภาพกองขยะติดเชื้อ และเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมาก ทั้งเข็มฉีดยา ขวดน้ำเกลือ ถุงบรรจุเลือด ที่ถูกลักลอบนำทิ้งไว้บริเวณชายป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่า มีการเผาทำลายไม่ถูกวิธีตามร่องน้ำธรรมชาติหลายแห่ง บางส่วนถูกวัว ควาย สัตว์เลี้ยงชาวบ้านเหยียบย่ำแตกหักไปเป็นจำนวนมาก
จากนั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าตูม พบกับ นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าตูม นายวาณิช ธนาคุณ นายก อบต.ท่าตูม ซึ่งโรงพยาบาลท่าตูมได้เก็บรวบรวมข้อมูลการลักลอบนำขยะติดเชื้อ และขยะทางการแพทย์มาทิ้ง และเผาทำลายบริเวณป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน และป่าสาธารณประโยชน์ พื้นที่ใกล้เคียง 13 ครั้ง ตั้งแต่เดืเอนพฤษภาคม 2555 เริ่มตั้งแต่ป่าสาธารณประโยชน์บ้านลุงปุง-บ้านหมากมี่ ต.ท่าตูม คาดว่ามีปริมาณรวมกว่า 800 กิโลกรัม และในเดือนมิถุนายน พบขยะติดเชื้อ และขยะทางการแพทย์ถูกลักลอบนำมาทิ้งตามเส้นทางบ้านหนองคู ต.ท่าตูม กระจายทั่วบริเวณ 13 จุด
ขณะที่เมื่อเดือนกรกฎาคม พบการเผาขยะติดเชื้อที่เส้นทางบ้านหนองคูใหญ่ เส้นทางก่อนถึงวัดเขาพนมดิน ต.ท่าตูม เดือนสิงหาคม พบการลักลอบเผาทำลายที่บริเวณทางเข้า ต.บัวโคก อ.ท่าตูม และมีการบันทึกภาพผู้นำขยะมาเผาทำลาย จนทราบว่าเป็นลูกจ้างของบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 183-184 หมู่ 13 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้รับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อไปเผาทำลาย ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่กลับลักลอบนำมาทิ้งในป่าต.ท่าตูม ถึง 13 ครั้ง
นอกจากนั้น จากการเก็บข้อมูลหลักฐานจากขยะติดเชื้อของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่าตูม พบว่า ขยะติดเชื้อดังกล่าวถูกนำมาจากโรงพยาบาลในภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 แห่ง ที่ว่าจ้างให้บริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด เป็นผู้กำจัด โดยนำไปเผาทำลายที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่บริษัทกลับนำมาลักลอบทิ้งที่ป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน และป่าสาธารณประโยชน์บ้านลุงปุง-บ้านหมากมี่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ โรงพยาบาลที่ว่าจ้างบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด เช่น โรงพยาบาลคำตากล้า จ.สกลนคร โรงพยาบาลนามน จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลหนองถุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลพล จ.ขอนแก่น โรงพยาบาลราศีไศล จ.ศรีสะเกษ ว่าจ้างบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด และบริษัท เจริญรุ่ง จำกัด ส่วนโรงพยาบาลสังขะ จ.สุรินทร์ ว่าจ้างบริษัท ส.เจริญรุ่ง จำกัด โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ว่าจ้างบริษัท อาคเนย์กรีนเทค จำกัด เป็นผู้กำจัดขยะ เป็นต้น
สำหรับ บริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 183-184 หมู่ 13 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีนางฟิรนันท์ จารง นางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ และนายอามาน จารง เป็นเจ้าของ บริษัท เจริญรุ่ง จำกัด มีนางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่ที่ 76 หมู่ที่ 4 ต.บ้านเล้า อ.เมือง จ.สุรินทร์ บริษัท ส.เจริญรุ่ง จำกัด มีนางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่ที่ 76 หมู่ที่ 4 ต.บ้านเล้า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บริษัท อาคเนย์กรีนเทค จำกัด มีนายศิริวัฒน์ อุตอามาตร์ เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่เลขที่ 747/1 ถนนหลักเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบริษัทจำจัดขยะติดเชื้อเหล่านี้มีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน และเครือญาติ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อบริษัทเข้ารับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อในแต่ละโรงพยาบาลเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 นายสุรเชษฐ์ เสาทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49-49/1 หมู่ที่ 7 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมานชัย สุจริต พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตูม ให้ดำเนินคดีกับบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ซึ่งรับจ้าง และกำจัดขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาล 10 แห่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด และผู้เกี่ยวข้องว่ากระทำการถ่ายเททิ้ง หรือทำให้มีขึ้นในที่ หรือทางสาธารณะซึ่งสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยนอกจากที่ที่ทางการจัดไว้ให้ เข้าไปกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลาย ทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ หรือก่อให้เกิดมลพิษ และกระทำการอันเป็นการทำให้เสื่อมเสีย เสียหายต่อสภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ เจ้าของบริษัทมาให้ปากคำถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน
นายวรพจน์ ไม้หอน เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากพงศ์สิทธิ์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีและความมั่นคง ดีเอสไอ ให้มาดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการลักลอบนำขยะติดเชื้อมาทิ้ง และเผาทำลายอย่างไม่ถูกวิธี เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอดีเอสไอ ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่ไปเก็บหลักฐานต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาด้านคดีต่อไป
นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าตูม กล่าวว่า ขยะติดเชื้อที่นำมาทิ้งบริเวณบริเวณป่าสวนแห่งชาติพนมดิน ต.ท่าตูม น่าจะเป็นขยะของโรงพยาบาลท่าตูม แต่เมื่อตรวจสอบแล้วเชื่อว่าไม่ใช่ แต่เป็นของโรงพยาบาลต่างๆ ที่บริษัทรับจ้างกำจัดไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ซึ่งล่าสุด นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 ได้มาตรวจสอบจุดลักลอบทิ้งขยะ และได้ประสานกับเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นำไปกำจัดในเตาเผาขยะติดเชื้อที่ได้มาตรฐานแล้ว
ด้านนายวาณิช ธนาคุณ นายก อบต.ท่าตูม กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานต่างๆ มาช่วยกำจัดขยะติดเชื้อจำนวนมาก เพราะเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน ซึ่งจากนี้ไปจะประสานงานกับสมาชิกสภา อบต.ทุกหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเฝ้าระวังการลักลอบนำขยะติดเชื้อมาทิ้งอย่างไม่ถูกวิธีอีก ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเป็นพื้นที่ป่านำมาทิ้งได้ง่าย ส่วนขยะอื่นก็ต้องเร่งเก็บทำลายให้หมดเช่นกัน
วันนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พงศ์สิทธิ์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีและความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สั่งการให้นายวรพจน์ ไม้หอน และนายณัฐพล เนตรพุกกณะ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ ลงพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เพื่อติดตามการลักลอบนำขยะติดเชื้อ และขยะทางการแพทย์ซึ่งถูกนำไปทิ้งไว้ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งประมาณ 70-100 ตัน โดยบริษัทที่รับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อดังนำมาซุกซ่อนไว้แทนการกำจัดอย่างถูกวิธี โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
ทั้งนี้ พบว่าขยะติดเชื้อดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกรณีการลักลอบขนขยะติดเชื้อไปทิ้งทีชายป่าสวนแห่งชาติพนมดิน ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพราะบริษัทผู้รับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อที่รับขยะจากโรงพยาบาลใน จ.บุรีรัมย์ มานั้นหายไปกว่า 1,000 ตัน ซึ่งคาดว่าขยะติดเชื้อจาก จ.บุรีรัมย์ จะถูกนำมาลักทิ้งในป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เดินทางเข้ามาเก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกภาพกองขยะติดเชื้อ และเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมาก ทั้งเข็มฉีดยา ขวดน้ำเกลือ ถุงบรรจุเลือด ที่ถูกลักลอบนำทิ้งไว้บริเวณชายป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่า มีการเผาทำลายไม่ถูกวิธีตามร่องน้ำธรรมชาติหลายแห่ง บางส่วนถูกวัว ควาย สัตว์เลี้ยงชาวบ้านเหยียบย่ำแตกหักไปเป็นจำนวนมาก
จากนั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าตูม พบกับ นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าตูม นายวาณิช ธนาคุณ นายก อบต.ท่าตูม ซึ่งโรงพยาบาลท่าตูมได้เก็บรวบรวมข้อมูลการลักลอบนำขยะติดเชื้อ และขยะทางการแพทย์มาทิ้ง และเผาทำลายบริเวณป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน และป่าสาธารณประโยชน์ พื้นที่ใกล้เคียง 13 ครั้ง ตั้งแต่เดืเอนพฤษภาคม 2555 เริ่มตั้งแต่ป่าสาธารณประโยชน์บ้านลุงปุง-บ้านหมากมี่ ต.ท่าตูม คาดว่ามีปริมาณรวมกว่า 800 กิโลกรัม และในเดือนมิถุนายน พบขยะติดเชื้อ และขยะทางการแพทย์ถูกลักลอบนำมาทิ้งตามเส้นทางบ้านหนองคู ต.ท่าตูม กระจายทั่วบริเวณ 13 จุด
ขณะที่เมื่อเดือนกรกฎาคม พบการเผาขยะติดเชื้อที่เส้นทางบ้านหนองคูใหญ่ เส้นทางก่อนถึงวัดเขาพนมดิน ต.ท่าตูม เดือนสิงหาคม พบการลักลอบเผาทำลายที่บริเวณทางเข้า ต.บัวโคก อ.ท่าตูม และมีการบันทึกภาพผู้นำขยะมาเผาทำลาย จนทราบว่าเป็นลูกจ้างของบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 183-184 หมู่ 13 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้รับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อไปเผาทำลาย ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่กลับลักลอบนำมาทิ้งในป่าต.ท่าตูม ถึง 13 ครั้ง
นอกจากนั้น จากการเก็บข้อมูลหลักฐานจากขยะติดเชื้อของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่าตูม พบว่า ขยะติดเชื้อดังกล่าวถูกนำมาจากโรงพยาบาลในภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 แห่ง ที่ว่าจ้างให้บริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด เป็นผู้กำจัด โดยนำไปเผาทำลายที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่บริษัทกลับนำมาลักลอบทิ้งที่ป่าสงวนแห่งชาติพนมดิน และป่าสาธารณประโยชน์บ้านลุงปุง-บ้านหมากมี่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ โรงพยาบาลที่ว่าจ้างบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด เช่น โรงพยาบาลคำตากล้า จ.สกลนคร โรงพยาบาลนามน จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลหนองถุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลพล จ.ขอนแก่น โรงพยาบาลราศีไศล จ.ศรีสะเกษ ว่าจ้างบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด และบริษัท เจริญรุ่ง จำกัด ส่วนโรงพยาบาลสังขะ จ.สุรินทร์ ว่าจ้างบริษัท ส.เจริญรุ่ง จำกัด โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ว่าจ้างบริษัท อาคเนย์กรีนเทค จำกัด เป็นผู้กำจัดขยะ เป็นต้น
สำหรับ บริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 183-184 หมู่ 13 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีนางฟิรนันท์ จารง นางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ และนายอามาน จารง เป็นเจ้าของ บริษัท เจริญรุ่ง จำกัด มีนางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่ที่ 76 หมู่ที่ 4 ต.บ้านเล้า อ.เมือง จ.สุรินทร์ บริษัท ส.เจริญรุ่ง จำกัด มีนางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่ที่ 76 หมู่ที่ 4 ต.บ้านเล้า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บริษัท อาคเนย์กรีนเทค จำกัด มีนายศิริวัฒน์ อุตอามาตร์ เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่เลขที่ 747/1 ถนนหลักเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบริษัทจำจัดขยะติดเชื้อเหล่านี้มีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน และเครือญาติ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อบริษัทเข้ารับจ้างกำจัดขยะติดเชื้อในแต่ละโรงพยาบาลเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 นายสุรเชษฐ์ เสาทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49-49/1 หมู่ที่ 7 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมานชัย สุจริต พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตูม ให้ดำเนินคดีกับบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ซึ่งรับจ้าง และกำจัดขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาล 10 แห่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาบริษัท จารงเอนเตอไพร้ซ์ จำกัด และผู้เกี่ยวข้องว่ากระทำการถ่ายเททิ้ง หรือทำให้มีขึ้นในที่ หรือทางสาธารณะซึ่งสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยนอกจากที่ที่ทางการจัดไว้ให้ เข้าไปกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลาย ทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ หรือก่อให้เกิดมลพิษ และกระทำการอันเป็นการทำให้เสื่อมเสีย เสียหายต่อสภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนางบุษบา เนคะมานุกรักษ์ เจ้าของบริษัทมาให้ปากคำถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน
นายวรพจน์ ไม้หอน เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากพงศ์สิทธิ์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีและความมั่นคง ดีเอสไอ ให้มาดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการลักลอบนำขยะติดเชื้อมาทิ้ง และเผาทำลายอย่างไม่ถูกวิธี เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอดีเอสไอ ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่ไปเก็บหลักฐานต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาด้านคดีต่อไป
นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าตูม กล่าวว่า ขยะติดเชื้อที่นำมาทิ้งบริเวณบริเวณป่าสวนแห่งชาติพนมดิน ต.ท่าตูม น่าจะเป็นขยะของโรงพยาบาลท่าตูม แต่เมื่อตรวจสอบแล้วเชื่อว่าไม่ใช่ แต่เป็นของโรงพยาบาลต่างๆ ที่บริษัทรับจ้างกำจัดไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ซึ่งล่าสุด นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 ได้มาตรวจสอบจุดลักลอบทิ้งขยะ และได้ประสานกับเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นำไปกำจัดในเตาเผาขยะติดเชื้อที่ได้มาตรฐานแล้ว
ด้านนายวาณิช ธนาคุณ นายก อบต.ท่าตูม กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานต่างๆ มาช่วยกำจัดขยะติดเชื้อจำนวนมาก เพราะเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน ซึ่งจากนี้ไปจะประสานงานกับสมาชิกสภา อบต.ทุกหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเฝ้าระวังการลักลอบนำขยะติดเชื้อมาทิ้งอย่างไม่ถูกวิธีอีก ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเป็นพื้นที่ป่านำมาทิ้งได้ง่าย ส่วนขยะอื่นก็ต้องเร่งเก็บทำลายให้หมดเช่นกัน
