นายอำเภอกะปง จ.พังงา สนธิกำลังทุกหน่วยเปิดยุทธการยึดคืนผืนป่าสงวนแห่งชาติโตนปริวรรต

พังงา - นายอำเภอกะปง พร้อมเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดพังงา ใช้มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ระดมพลเปิดยุทธการยึดคืนผืนป่าทำลายต้นปาล์มที่เป็นผลเอกสารสินจากนายทุน และข้าราชการระดับสูงของจังหวัดที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติโตนปริวรรต รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น 16 ไร่ ต้นปาล์มอายุ 3 ปี จำนวนปาล์ม 420 ต้น พบมีคดีป่าสงวนตั้งแต่ปี 2555 ลงไปจนถึงปี 2550 มีการบุกรุกป่าไม้เกือบ 1,000 คดี

วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 09.00 น.นายประกอบ ศรีทวี นายอำเภอกะปง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา นายสมเกียรติ รัววิชา รักษาการหัวหน้าหน่วยป่าไม้ อ.กะปง นายทวี ลือชา สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กระบี่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.กะปง เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดพังงา ศูนย์ประสานงานป่าไม้พังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกะปง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติในจังหวัดพังงา หน่วยงานป่าไม้ท้องที่ทุกหน่วยในสังกัด และประชาชนในพื้นที่ บ้านปากคลอง ม.3 ต.รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา รวมจำนวนกว่า 70 นาย เข้าทำลาย และใส่ยาฆ่าตอไม้ต้นปาล์ม อายุประมาณ 3 ปี ที่ถูกกลุ่มนายทุนได้บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นภูเขาดิน มีเส้นทางน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาปลายโต๊ะ และเขาสก มีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศสูงมาก จำนวน 1 แปลง รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น 16 ไร่ จำนวนปาล์ม 420 ต้น

โดยใช้มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เป็นการทำพิธียุทธการยึดคืนผืนป่า ทำลาย รื้อถอน แก้ไข หรือทำประการอื่นใดแก่พืชผลอาสิน เช่น ต้นปาล์มน้ำมัน ออกไปจากพื้นที่ถูกบุกรุก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าโตนปริวรรต เทือกเขาปลายโต๊ะ และเขาสก ซึ่งหลังจากนี้จะนำเอาพื้นที่ป่าทั้งหมดนี้มาจัดทำโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินีต่อไป

นายประกอบ ศรีทวี นายอำเภอกะปง กล่าวว่า การใช้มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 หลังจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เข้าตรวจสอบ และพบว่า มีกลุ่มนายทุนในพื้นที่ และต่างจังหวัดเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโตนปริวรรต เทือกเขาปลายโต๊ะและเขาสก ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ จากนั้นจึงได้สนธิกำลังจำนวนกว่า 300 นาย เข้าทำลาย เข้าแต่ละจุดในพื้นที่จำนวน 1 แปลง เพื่อทำลายผลอาสินให้สิ้นซากจะได้ไม่กล้าที่จะบุกรุกอีก และจะนำพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่จัดโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 กล้า 80 พรรษา ถวายแด่พระราชินีต่อไป โดยพบว่า ในพื้นที่อำเภอกะปง มีนายทุนเข้ามาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติจำนวนหลายไร่ และยังมีอีก 16 แปลง ที่กำลังจะเข้าไปยืดพื้นป่าสงวนที่มีการปลูกยางพารา และต้นปาล์มทั้งหมด

ด้าน พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากที่มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพังงา จะทำการตรวจยึดพื้นป่าสงวนแห่งชาติที่กลุ่มนายทุนเข้าบุกรุกปลูกปาล์ม และยางพารา โดยใช้มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และตรวจสอบเลขคดีเก่าจากปี 2555 ลงไปจนถึงปี 2550 ก็พบว่า มีการบุกรุกป่าไม้เกือบ 1,000 คดี ซึ่งจะมีการย้อนไปอีกว่า ป่าไม้ที่มีการแจ้งความไว้แล้วว่ามีการดำเนินการไปถึงไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด ทำการสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อยึดพื้นที่ป่าคืน ที่มีการปลูกปาล์ม หรือยางพาราพร้อมทั้งปลูกป่าขึ้นมาทดแทนใหม่เพื่อความอุดมสมบูรณ์