กระบี่ - ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นำทีมตรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องฝั่งตะวันตก ถนนสายสาม อ.เมือง จ.กระบี่ หลังได้ยึดพื้นที่คืนจากนายทุนรวม 8 แปลง กว่า 100 ไร่ แต่หลังครบกำหนดทำลายอาสินในพื้นที่ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ปล่อยให้นายทุนเข้าทำประโยชน์ต่อเนื่อง ด้านประธานชมรมอนุรักษ์ป่า จ.กระบี่ ระบุเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีส่วนรู้เห็น
วันนี้ (7 ต.ค.) นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุคนธ์ บัวกิ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.8 พร้อมด้วย ร.ต.ต.ระวิ แพรกปาน ประธานชมรมอนุรักษ์ป่าจังหวัดกระบี่ เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในช่องฝั่งตะวันตก ถนนสายสาม ม.1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ภายหลังได้มีการตรวจยึดพื้นที่คืนจากนายทุน ตั้งแต่ปี 2553 รวมจำนวน 8 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวยังมีจำนวน 7 แปลง ที่ครบกำหนดประกาศตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ เพื่อรื้อถอนทำลายอาสินในพื้นที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการรื้อถอนอาสิน
โดย ร.ต.ต.ระวิ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าพื้นราบผืนสุดท้ายของจังหวัดกระบี่ และเป็นป่าต้นน้ำลำธารของคลองท่าปอมคลองสองน้ำ อันซีนไทยแลนด์ ถูกบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2550 จนกระทั่งมีการตรวจยึดพื้นที่คืนมาได้จำนวนหลายแปลง โดยมีแปลงที่มีการประกาศใช้มาตรา 25 แล้ว จำนวน 8 แปลง ครบกำหนดตามมาตรา 25 แล้ว จำนวน 7 แปลง แต่ยังคงมีการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ต่อเนื่อง กระทั่งปาล์มน้ำมันมีอายุหลายปี สามารถเก็บผลอาสินได้ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีส่วนรู้เห็น จึงได้แจ้งให้ทาง ผอ.สำนักจัดการป่าไม้เข้าทำการตรวจสอบด้วยตัวเอง
ด้านนายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้มามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าในช่องนั้น ตนจะตรวจสอบในเชิงลึก และวันนี้จะเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่มาประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ไม่ดำเนินการ ตาม ม.25 ซึ่งส่วนป้องกันต้องรายงานให้ทราบ และหลังจากนี้ จะสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในจังหวัดกระบี่เข้าทำลายผลอาสินทั้งหมดในพื้นที่บุกรุกที่ครบกำหนดประกาศใช้ มาตรา 25 ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ และหากตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด