เจ้าหน้าที่นำป้ายประกาศมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ด้วยการให้อำนาจเจ้าพนักงาน รื้อถอนและทำลายผลอาสิน ภายใน 60 วัน หากไม่มีบุคคลใดแสดงสิทธิ์ หรือยื่นอุทธรณ์ ไปติดในสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันจำนวน 6 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตก ถนนสายสาม หมู่ 1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ห่างจากที่ตั้งสำนักป่าไม้เขตกระบี่ 1 กิโลเมตร แต่ขณะนี้ผ่านมาประมาณ 2 ปีแล้ว พบการลักลอบเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าดำเนินการรื้อถอน หรือติดตามผู้กระทำผิด ขณะที่หลายคดีจับกุมได้เพียงคนงาน ท่ามกลางข้อสงสัยของผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านใน ต.เขาคราม ว่า มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 3 คน เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งได้ร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และสื่อมวลชนให้ตรวจสอบก่อนหน้านี้
ล่าสุด นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักป่าไม้เขตกระบี่ เข้าสำรวจความเสียหายของผืนป่า ซึ่งพบต้นยางพารากว่า 300 ต้น และปาล์มน้ำมัน กว่า 400 ต้น เนื้อที่กว่า 50 ไร่ พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์
นายอำนาจ ระบุว่า เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตกเนื้อที่กว่า 10,600 ไร่ ปัจจุบันถูกบุกรุกทำลายไป 800 ไร่ แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่า ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา มีการบุกรุกอย่างต่อเนื่องหลายพันไร่ เนื่องจากมีแรงจูงใจทั้งเรื่องของราคายางพารา และปาล์มน้ำมันที่มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์
ล่าสุด นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักป่าไม้เขตกระบี่ เข้าสำรวจความเสียหายของผืนป่า ซึ่งพบต้นยางพารากว่า 300 ต้น และปาล์มน้ำมัน กว่า 400 ต้น เนื้อที่กว่า 50 ไร่ พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์
นายอำนาจ ระบุว่า เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าในช่องฝั่งตะวันตกเนื้อที่กว่า 10,600 ไร่ ปัจจุบันถูกบุกรุกทำลายไป 800 ไร่ แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่า ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา มีการบุกรุกอย่างต่อเนื่องหลายพันไร่ เนื่องจากมีแรงจูงใจทั้งเรื่องของราคายางพารา และปาล์มน้ำมันที่มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์