ระนอง - ทหารชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทรัพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าจำนวน 8 ไร่ ในเขตที่ป่าสงวนที่กำลังมีการนำรถเเบ็กโฮขุดปรับหน้าดิน บางส่วนรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด
วันนี้ (18 ต.ค.) พ.อ.อุทิศ อนันตนานท์ รองผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ร่วมกับ นายมนู อานันทสฤษฏ์ หัวหน้าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง นำกำลังเข้าตรวจสอบการการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด ม.5 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดกำลังเข้าพื้นที่ พบรถแบ็กโฮกำลังไถปรับดินในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนขับรถได้ทิ้งรถหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ
พ.อ.อุทิศ กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีการบุกรุกป่าอย่างอุกอาจ เพราะอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมไม่มากนัก ขับรถบนถนนก็สามารถเห็นได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แนวป่าที่มีการปรับสภาพดินแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกที่อยู่ด้านล่าง เนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ อยู่นอกพื้นที่ป่า แต่เมื่อเดินทางขึ้นไปบนยอดเข้าที่มีรถตัก ในเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ จากการตรวจวัดของเจ้าหน้าที่ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนองพบว่า ในจุดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด
อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังตรวจสอบได้มีผู้มาแสดงตนพร้อมนำหลักฐานเป็นหนังสือประจำตัวผู้ได้รับการสงเคราะห์ปลูกแทน กองทุนสวนยางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 2 ฉบับ ระบุชื่อผู้ครอบครองชื่อ นางขจี ชูความดี เล่มแรกครอบครองเนื้อที่จำนวน 11 ไร่ เล่มที่ 2 แสดงครอบครองเนื้อที่จำนวน 8 ไร่ ซึ่งจากการให้เจ้าที่ตรวจสอบพบว่า เนื้อที่ 11 ไร่ไม่มีปัญหาถูกต้อง แต่เนื้อที่ 8 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด จึงต้องนำของกลางส่งเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (18 ต.ค.) พ.อ.อุทิศ อนันตนานท์ รองผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ร่วมกับ นายมนู อานันทสฤษฏ์ หัวหน้าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง นำกำลังเข้าตรวจสอบการการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด ม.5 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดกำลังเข้าพื้นที่ พบรถแบ็กโฮกำลังไถปรับดินในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนขับรถได้ทิ้งรถหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ
พ.อ.อุทิศ กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีการบุกรุกป่าอย่างอุกอาจ เพราะอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมไม่มากนัก ขับรถบนถนนก็สามารถเห็นได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แนวป่าที่มีการปรับสภาพดินแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกที่อยู่ด้านล่าง เนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ อยู่นอกพื้นที่ป่า แต่เมื่อเดินทางขึ้นไปบนยอดเข้าที่มีรถตัก ในเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ จากการตรวจวัดของเจ้าหน้าที่ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนองพบว่า ในจุดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด
อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังตรวจสอบได้มีผู้มาแสดงตนพร้อมนำหลักฐานเป็นหนังสือประจำตัวผู้ได้รับการสงเคราะห์ปลูกแทน กองทุนสวนยางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 2 ฉบับ ระบุชื่อผู้ครอบครองชื่อ นางขจี ชูความดี เล่มแรกครอบครองเนื้อที่จำนวน 11 ไร่ เล่มที่ 2 แสดงครอบครองเนื้อที่จำนวน 8 ไร่ ซึ่งจากการให้เจ้าที่ตรวจสอบพบว่า เนื้อที่ 11 ไร่ไม่มีปัญหาถูกต้อง แต่เนื้อที่ 8 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ราชกรูด จึงต้องนำของกลางส่งเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
