อุตรดิตถ์ - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ เมืองแม่ม่าย บุกจับนายทุนบุกรุกป่าสงวนฯ รายวัน คราวนี้พบนายทุนนอกพื้นที่ใช้แบ็กโฮรุกปรับพื้นที่ป่าห้วยเกียงพา-ป่าน้ำไคร้ แถมโค่นประดู่ยักษ์-มีไม้สักแปรรูปในครอบครองอีกเพียบ
นายพัฒนศักดิ์ ภูมิประภาศ หัวหน้าสายตรวจปราบปราม สำนักที่ 11 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ว่า มีนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยเกียงพา-ป่าน้ำไคร้ จึงได้ประสานไปที่ พ.ต.นิพนธ์ แก้วบัวระบัด ทหาร กอ.รมน.จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์, ร.ต.อ.วิญญู พรประทุม ผบ.ร้อย ตชด.316 อำเภอน้ำปาด, ร.ต.ต.พนาดร ปะละสี รองสารวัตรกองกำกับการสิบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบป่าบริเวณบ้านห้วยชำแล้ง หมู่ที่ 7 พบนายทุนนอกพื้นที่เข้ามาสร้างบ้านโดยนำไม้สักและไม้กระยาเลยจากสวนป่าในที่เกิดเหตุมาก่อสร้าง และบริเวณโดยรอบได้ทำการบุกรุกป่าสงวนโดยใช้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่
นอกจากนี้ยังมีบ้านกำลังปลูกสร้างยังไม่แล้วเสร็จเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีนายสุพร วิลาศรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 491/178 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองขาว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าของ และภายในบ้านพบไม้สัก ไม้กระยาเลยแปรรูปจำนวนมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบบนเขา ยังพบไม้สักท่อนถูกโค่นล้มไว้รอการแปรรูปอีกหลายสิบต้น นอกจากนี้ยังสร้างแท็งก์น้ำไว้เพื่อสูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้ใช้ ห่างจากบริเวณบ้านไปประมาณ 100 เมตร พบต้นประดู่ที่ถูกโค่นล้มไว้แล้ว 1 ต้น บางส่วนถูกแปรรูปไปแล้ว ซึ่งมีร่องรอยการแปรรูปไม้ตรงจุดที่ต้นประดู่ล้มอยู่ คาดว่าไม้ประดู่ต้นดังกล่าวจะมีอายุกว่า 300 ปี มีความยาว 3.6 เมตร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ สายรายงานว่ามีรถแบ็กโฮกำลังปรับพื้นที่บนเขาอยู่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงรถคันดังกล่าวได้นำมาจอดไว้นอกเขตป่าสงวนฯ ที่มีพื้นที่อยู่ติดกัน แต่ยังมีร่องรอยของรถแบ็กโฮในเขตป่าอยู่
เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายสุพร รับว่าได้นำรถคันดังกล่าวไปแผ้วถางปรับพื้นที่ป่าจริง ต่อมานายสุพรได้นำโฉนดที่ดินเลขที่ 60966 เล่มที่ 610 หน้า 66 มีเนื้อที่ 8.3 ไร่ มาแสดง และกล่าวว่า ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมาจากนายสุรชัย แสงนวกิจ ราคา 500,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือจับพิกัดทางดาวเทียม GPS มาหาค่า พบว่ามีการบุกรุกป่าเป็นบางส่วน ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ส่วนไม้แปรรูปดังกล่าวบางส่วนมีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้บางคนนำมาขายส่งให้และรับจ้างแปรูปให้ด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไม้สัก 58 แผ่น ไม้กระยาเลย 218 แผ่น ส่ง ร.ต.อ.รัชตะ สร้อยแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ, มีไม้สักและไม้กระยาเลยแปรรูปหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้สักท่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียสภาพป่าสงวนแห่งชาติ