พระนครศรีอยุธยา - ขยะล้นเมืองพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านร้อง DSI ลงพื้นที่ตรวจสอบถึงกับตะลึง ขยะกองเป็นภูเขาเท่าตึกสูง 8 ชั้นกว่า 3 แสนตัน ส่งกลิ่นเหม็น ทำน้ำเน่าเสีย ควันไฟ และเศษขยะปลิวว่อนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 10 คน นายมานพ บุญแจ่ม นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปรีชา ขันธไพรศรี รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา นายเพชรวุฒิ ชูอำนาจ นายก อบต.บ้านป้อม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
พร้อมชาวบ้านที่เดือดร้อนเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับมีชาวบ้านหมู่ 8 และหมู่ 11 ที่ได้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ได้รับความเดือดร้อนจากกองขยะจำนวนมหาศาลกว่า 3 แสนตัน กองสูงเป็นภูเขา อยู่กลางทุ่งนาในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านป้อม ห่างจากถนนสายอยุธยา-เสนา ประมาณ 1 กิโลเมตร ห่างจากทุ่งมะขามหย่อง สถานที่ประวัติศาสตร์ประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากตำหนักสิริยาลัย ประมาณ 2 กิโลเมตร ส่งกลิ่นเหม็น น้ำเน่าเสีย ควันไฟ และเศษขยะปลิวว่อนใช้เวลา ประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทั้งหมดพร้อมสื่อมวลชนได้เดินทางไปตรวจสถานที่กองขยะ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอถึงกับตะลึงสูงเท่าตึก 8 ชั้น
นายสนิท จันทร์กระจ่าง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา บอกว่า น้ำเน่าเสียจากกองขยะได้ไหลเข้าคลองผ่านหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมานานหลายปี ใช้อาบใช้ปลูกผักก็ไม่ได้ และบางครั้งมีกลิ่นเหม็นแจ้งเจ้าหน้าที่ทั้ง อบต. และเทศบาลก็ไม่มีใครมาแก้ไข
นายโสภณ คชวงศ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/6 หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา บอกว่า ตนมีอาชีพทำนาอยู่ใกล้กองขยะ จำนวน 30 ไร่ น้ำเน่าเสียจากกองขยะไหลเข้ามาในนาทำให้ต้นข้าวล้มตายเสียหายไม่มีเจ้าหน้าที่มาเหลียวแล อยากให้จัดการกับกองขยะ อย่าให้ชาวบ้านเดือดร้อน
นายปรีชา ขันธไพรศรี รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา บอกว่า ทางเทศบาลได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมากว่า 40 ปี รวมเนื้อที่ 31 ไร่ ได้ใช้เป็นที่กองขยะนอกเกาะเมือง ซึ่งปัจจุบัน อบต. เทศบาลต่างๆ ในจังหวัดได้นำขยะมาทิ้งรวมด้วย รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มจำนวนมาก ส่วนกองขยะที่ปากทางเข้านั้นเป็นขยะหลังจากน้ำท่วมรถบรรทุกขยะเข้าไปทิ้งด้านในไม่ได้จึงได้กองไว้ริมถนนสายอยุธยา-เสนา ทางเทศบาลได้เร่งกำจัดขนย้ายเกือบหมดแล้ว ที่เหลือแทบเป็นดินแล้ว
ทางเทศบาลได้เตรียมแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมและเบ็ดเสร็จ โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ชำนาญได้ศึกษาความเป็นไปได้ที่เปลี่ยนจากขยะให้เป็นพลังงานไฟฟ้าซึ่งจะทำลายขยะ และผลิตกระแสไฟฟ้าโดยมีหลายบริษัทเข้ามาศึกษาจะกำจัดขยะคาดว่า ภายในปี 2556 จะเริ่มทำได้ ใช้เวลาไม่เกิน 5 ปี และในเบื้องต้น ทางเทศบาลจะรอให้ฝนหยุดตก ถนนทางเข้ากองขยะแห้งนำรถไปปรับพื้นถนน และเทหินคลุกให้ทางเข้าออกเรียบ
สำหรับน้ำเสียที่ไหลจากกองขยะทางเทศบาลได้ขุดคูคลองกั้นไว้แล้วชั้นหนึ่งไม่ให้ไหลไปนาข้าว และบ้านเรือนประชาชน แต่ช่วงนี้เป็นฤดูฝนน้ำมากอาจจะมีไหลไปบ้าง เทศบาลจะรีบแก้ไขขุดลอกให้กว้าง และลึกอีกเพื่อป้องกันการรั่วไหล
พ.ต.ท.ทศพร ณ หนองคาย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) บอกว่า จากประสบการณ์ที่ตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหากองขยะ มาพบที่อยุธยากองมหาศาลจำนวนมากกว่า 3 แสนตัน การมาตรวจครั้งนี้มีชาวบ้านได้ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกองขยะ เมื่อมาตรวจสอบแล้วเบื้องต้นแก้ไขเป็นกระบวนการ ให้จังหวัด ท้องถิ่น เทศบาล อบต.แก้ไข ก่อน และรอผลการตรวจสอบจากกรมมลพิษว่าผิดกฎหมายใดบ้าง และให้ท้องถิ่นแก้ไขกลิ่น น้ำเน่าเสียก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน