xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบุรีรัมย์ผวาขยะติดเชื้อ 100 ตัน ทิ้งโกดังร้าง - ลือตาย 2 วอนขนย้ายด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จนท. สสจ.บุรีรัมย์ และผู้ใหญ่บ้าน  ลงพื้นที่ตรวจสอบขยะติดเชื้อที่บริษัทรับจ้างกำจัดขยะ ลอบนำมาทิ้งในโกดังร้างใกล้หมู่บ้านโยนช้า ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ 1,000 ตัน พบยังหลงเหลืออยู่กว่า 100 ตัน วันนี้ (25ธ.ค.)
บุรีรัมย์- เจ้าหน้าที่ สสจ.บุรีรัมย์ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบขยะติดเชื้อที่บริษัทรับจ้างกำจัดขยะ ลอบนำมาทิ้งในโกดังร้างใกล้หมู่บ้านกว่า 1,000 ตัน พบยังหลงเหลืออยู่กว่า 100 ตัน ขณะชาวบ้านผวาไม่กล้านำน้ำหรือปูปลา พืชผักในพื้นที่ใกล้เคียงไปบริโภคหวั่นอันตราย พร้อมเรียกร้องเร่งขนย้ายไปกำจัดด่วน ลือชาวบ้านใกล้โกดังตายแล้ว 2 ราย สาเหตุจากขยะแพร่เชื้อโรค

วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ดร.สมศักดิ์ ศรีภักดี นักวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ้านด่าน และผู้ใหญ่บ้านโยนช้า หมู่ 7 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังร้างแห่งหนึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ายังมีขยะติดเชื้อ หรือขยะทางการแพทย์จากโรงพยาบาลหลายแห่งในเขตพื้นที่ภาคอีสาน ที่บริษัท จารง เอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ผู้รับจ้างกำจัดขยะ ลักลอบนำมาทิ้งหรือซุกซ่อนไว้แทนการกำจัดอย่างถูกวิธี ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ ไม่มีการขนย้ายออกไปกำจัดทำลาย ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาเพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากขยะดังกล่าว

จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่า ยังมีขยะติดเชื้อหลงเหลืออยู่ภายในโกดังอีกประมาณกว่า 100 ตัน ทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ขณะชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างหวาดผวาไม่กล้านำน้ำ หรือจับ หอย ปู ปลา และเก็บพืชผักบริเวณใกล้เคียงไปบริโภค เพราะเกรงจะเป็นอันตรายจากขยะติดเชื้อ

ดร.สมศักดิ์ ศรีภักดี นักวิชาการ สสจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เมื่อเดือน ก.ย. 2554 ปีที่ผ่านมา บริษัท จารง เอนเตอไพร้ซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับจ้างกำจัดขยะได้ลักลอบนำขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลหลายแห่งในเขตพื้นที่ภาคอีสาน มาทิ้งไว้ในโกดังร้างดังกล่าวประมาณ 1,000 ตัน โดยอ้างว่าโรงงานกำจัดขยะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมไม่สามารถนำไปกำจัดได้ จึงได้นำมาทิ้งไว้ในโกดังร้างแห่งนี้ โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทางเทศบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับทราบ

เทศบาลตำบลบ้านด่าน จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านด่าน ให้เอาผิดกับ บริษัท จารง เอนเตอร์ไพร้ซ์ จำกัด ฐาน “กระทำการถ่ายเททิ้งหรือทำให้มีขึ้นในที่หรือทางสาธารณะซึ่งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยนอกจากที่ที่ทางการจัดไว้ให้ เข้าไปกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลาย ทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ หรือก่อให้เกิดมลพิษ และกระทำการอันเป็นการทำให้เสื่อมเสีย เสียหายต่อสภาพป่าสงวนแห่งชาติ”

ที่ผ่านมาบริษัทผู้รับจ้างทิ้งขยะได้ทยอยขนย้ายขยะติดเชื้อไปกำจัด แต่ยังไม่หมด ขณะนี้ยังมีหลงเหลืออยู่กว่า 100 ตัน ส่วนแนวทางการแก้ไขขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดฯ กำลังเร่งเจรจากับเทศบาลวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีเตาเผากำจัดขยะที่มีศักยภาพสามารถนำขยะติดเชื้อดังกล่าวไปเผาทำลายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยคาดว่าต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการ 2 ล้านบาท และคาดว่าจะได้รับคำตอบในเร็วๆ นี้

ด้านนายธนศักดิ์ ปะโคธานัง ผู้ใหญ่บ้านบ้านโยนช้า หมู่ 7 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านทราบว่ามีคนนำขยะติดเชื้อมาทิ้งในโกดังร้างใกล้หมู่บ้าน ได้เกิดความหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนโกดังไม่มีหลังคาปิดน้ำฝนก็ชะล้างขยะไหลเข้าไปในหมู่บ้านและลงสู่สระน้ำกลางหมู่บ้านที่ใช้ทำประปา โชคดีที่ปีนี้ฝนไม่ดีจึงไม่อันตราย แต่มีคนมาร้องเรียนว่ามีสุนัขไปคาบเศษขยะติดเชื้อจากโกดังเข้าไปในหมู่บ้าน ชาวบ้านก็เกิดความกลัวหวั่นแพร่เชื้อโรค

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านด่าน ได้มาช่วยจัดการเอาตาข่ายมาปิดกั้นโดยรอบโกดัง เพื่อป้องกันสุนัขและเศษขยะติเชื้อปลิวฟุ้งกระจายออกมาบริเวณนอกโกดัง

นายธนศักดิ์กล่าวต่อว่า อยากให้ทางราชการรีบดำเนินการขนย้ายขยะติดเชื้อออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว เพราะชาวบ้านกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อโรค อีกทั้งหมู่บ้านอยู่ใกล้โกดังมีคนตายไปแล้ว 2 คน ทำให้ลือว่าอาจจะเกิดจากขยะติดเชื้อตรงนี้ ชาวบ้านยิ่งเกิดความกลัวมากขึ้น จึงอยากวิงวอนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านยังหวาดผวานอนไม่หลับ รวมทั้งชาวบ้านปลูกพืชผักใกล้โกดัง กลัวน้ำจะไหลลงไปและเกิดติดเชื้อโรคจากกองขยะนี้

“อยากฝากถึงเจ้าของกิจการหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการนำขยะติดเชื้อเหล่านี้ไปกำจัด ขอให้มีความรับผิดชอบและคำนึงถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับชาวบ้านเพราะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย หากฝนตกหนักน้ำไหลชะล้างขยะลงไปในทุ่งนา สระน้ำหมู่บ้าน และปลูกพืชผักชาวบ้านก็ไม่กล้ากินหรือนำไปขายก็ไม่ใครซื้อ ทั้งที่ชาวบ้านได้ทำกินตรงนี้มาก่อนแล้ว จึงอยากวอนขอให้มีจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยด้วย” นายธนศักดิ์กล่าว











กำลังโหลดความคิดเห็น