ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน สลัดเสื้อสูทนั่งรถไถนาสาธิตการไถกลบตอซัง ระหว่างเปิดโครงการรณรงค์งดเผาฟางและตอซังพืช เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน ปี 56 ที่บ้านภูเหล็ก อ.บ้านไผ่ เผย จ.ขอนแก่นมีพื้นที่เกษตร 4.2 ล้านไร่แต่ดินส่วนใหญ่ขาดอินทรีย์วัตถุเพราะสูญเสียไปกับการทำเกษตรที่ผิดวิธี
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่บ้านภูเหล็ก อบต.ภูเหล็ก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายเกรียงศักดิ์ หงส์โต อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้อำนวยการเขตทุกเขตทั่วประเทศไทย ร่วมงานรณรงค์โครงการรณรงค์งดเผาฟางและตอซังพืช เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 86 พรรษา เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน ประจำปี 2556
โดยอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินได้นั่งรถไถสาธิตการไถกลบตอซังด้วยตนเอง ซึ่งสมาชิกกลุ่มสตรีแม่บ้านบ้านภูเหล็กได้ถือตะกร้าเมล็ดพันธุ์ปอเทือง ซึ่งเป็นพืชปุ๋ยสดเพื่อให้อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินและคณะได้หว่านเมล็ดพันธุ์
นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 4.2 ล้านไร่ แต่ดินส่วนใหญ่เป็นดินขาดอินทรียวัตถุ ธาตุอาหารที่จะได้รับจากการย่อยสลายของตอซังพืช สูญเสียไปกับการทำการเกษตรที่ผิดวิธี เช่น การเผาตอซังพืช ส่งผลกระทบจนเกิดปัญหาภัยแล้งลุกลามและซ้ำซาก ผลผลิตทางการเกษตรลดลง
ดังนั้น นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวขอนแก่นโดยเฉพาะชาวบ้าน บ้านภูเหล็ก ตำบลภูเหล็ก แห่งนี้ ที่กำลังพัฒนาตนเองด้วยความเป็นชุมชนเข้มแข็ง เพื่อสร้าง “ภูเหล็กซิตี้” นั่นหมายถึงการรวมหัวใจคนภูเหล็กเป็นหนึ่งเดียวในการที่จะพัฒนาเมืองและวิถีชีวิตเกษตรกรชาวตำบลภูเหล็ก เมื่อทางกรมพัฒนาที่ดินโดยสถานีพัฒนาที่ดินจัดโครงการนี้ต่อเนื่อง และอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานด้วยตนเอง จึงถือเป็นขวัญและกำลังใจให้คนในพื้นที่อย่างมาก
ขณะที่อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินกล่าวเสริมว่า รู้สึกมีความสุขที่ได้มาเห็นเกษตรกรที่บ้านภูเหล็กสร้างกระบวนการเรียนรู้และมีผลออกมาเป็นความสำเร็จ จากรายงานในที่ประชุมถึงผลการดำเนินงานของสถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่นซึ่งได้คลุกคลีในพื้นที่จัดโครงการดังกล่าวนี้มาต่อเนื่อง ใช้เวลา 4-5 ปีจนถึงวันนี้ สำหรับตนไม่คิดว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป เพราะกว่าจะเป็นดินที่มีประโยชน์ย่อมต้องใช้เวลาสะสมความอุดมสมบูรณ์ในดิน เช่นเดียวกับการต้องฟื้นฟูดิน โดยเฉพาะประเทศของเราที่ผ่านยุคแรกเริ่มของการโหมใช้เทคโนโลยีปุ๋ยเคมีอย่างหนักมาอย่างยาวนานหลายสิบปี จนเป็นการทำลายดินไปมาก อีกทั้งดินในอีสาน ส่วนใหญ่เป็นดินทรายไม่มีอินทรียวัตถุ ดังนั้น การงดเผาฟางและตอซังข้าวจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการต่อยอดไปในทุกๆ ตำบล ทุกหมู่บ้าน ทั่วประเทศต่อไป
ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนให้เร่งการหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทือง ซึ่งเป็นพืชตระกูลถั่วที่นอกจากให้ความสวยงามกับพื้นที่แล้วยังเพิ่มอินทรียวัตถุในดินเป็นพืชหมุนเวียนที่ดี ตั้งเป้าหมายให้มีการต่อยอดโครงการเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของเกษตรกรให้งดการเผา โดยการไถกลบตอซังพร้อมกับการหว่านพืชปุ๋ยสดแล้วไถกลบ พืชปุ๋ยสดจะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ในดิน ช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มคุณภาพดินให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน จะนำไปสู่การเพิ่มผลผลิต สภาวะแวดล้อมดีขึ้นและช่วยลดภาวะโลกร้อนต่อไป
จากนั้นนายเกรียงศักดิ์ได้มอบเกียรติบัตรเกษตรกรดีเด่นให้แก่เกษตรกรบ้านภูเหล็ก ใน 4 ด้าน ประกอบด้วย เกษตรกรดีเด่นด้านผู้ผลิตอ้อย, ผู้ผลิตมันสำปะหลัง, ผู้ผลิตข้าว และผู้ผลิตปอเทือง ซึ่งเป็นอาชีพเกษตรกรรมหลักของคนในพื้นที่