เสน่ห์ไร่สตรอเบอร์รีเหมือนมีมนต์ขลัง ไม่ว่าจะเดินทางไปเยือนสักกี่ครั้งก็ยังอดประทับใจไม่ได้ โดยเฉพาะแหล่งปลูกสตรอเบอร์รีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ พื้นที่อุดมสมบูรณ์คงความเป็นธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย และกลายเป็นที่มาของ “ศูนย์การเรียนรู้ผู้ผลิตสตรอเบอร์รีปลอดภัย สวนดอยแก้ว” หนึ่งในภารกิจของกระทรวงมหาดไทยที่ให้การสนับสนุนตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง
รสชาติหวานฉ่ำของสตรอเบอร์รีลูกเล็กพันธุ์พระราชทาน 80 กำลังเป็นที่ต้องการมากกว่าพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมอย่างพันธุ์ 329 ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศอิสราเอล เป็นคำบอกเล่าของเลขาธิการกรมการปกครอง “นายดำรงค์ สิริวิชัย อิ่มวิเศษ” ที่ได้ติดตามช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยยึดตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหนึ่งในนั้นคือ การสร้างอาชีพที่ยั่งยืนแก่เกษตรกร โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่อำเภอสะเมิงให้เป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดของไทย ต่อมาพัฒนาเป็นสินค้าโอทอปเลื่องชื่อ จากการนำสตรอเบอร์รีสดมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อบแห้ง แช่อิ่ม และแยมสตรอเบอร์รี
“ปัจจุบันอำเภอสะเมิงมีเนื้อที่ปลูกไร่สตรอเบอร์รีมากกว่า 3 พันไร่ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในอำเภอสะเมิงกว่า 300-400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะมีไร่ตัวอย่างของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการปลูกสตรอเบอร์รี อย่างไร่สวนดอยแก้ว ที่เปิดให้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร มีการพัฒนารูปแบบการปลูกสตรอเบอร์รีจนประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรผู้สนใจได้เข้ามาศึกษา”
เมื่อพื้นที่และสภาพภูมิอากาศเหมาะแก่การปลูกสตรอเบอร์รี ทำให้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี อำเภอสะเมิงมีการจัดเทศกาลสตรอเบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ซึ่ง “นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล” นายอำเภอสะเมิง ฉายภาพงานดังกล่าวให้ฟังว่า เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมสตรอเบอร์รีสะเมิงให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสตรอเบอร์รีปลอดภัยจากสารเคมี เพราะ อ.สะเมิงมีพื้นที่ปลูกสตรอเบอร์รีกว่า 3 พันไร่ ถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย
ส่งผลให้ปีหนึ่งๆ ทำรายได้เข้าจังหวัดมากกว่า 400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนได้นำผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปที่มีชื่อเสียงมาจำหน่าย และยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติของอำเภอสะเมิงให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย พร้อมเชื่อมโยงไร่สตรอเบอร์รีกับธุรกิจการท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีชาวพื้นเมืองและชนเผ่าต่างๆ อีกด้วย
พื้นที่ อ.สะเมิง นอกจากสภาพอากาศเหมาะสมในการปลูกสตรอเบอร์รีแล้ว วิธีการปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตดี ปราศจากสารเคมี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องควบคู่กันไป “นายวิทยา นาระต๊ะ” ปราชญ์ชาวบ้าน และเกษตรกรตัวอย่าง ด้านการเกษตร การปลูกสตรอเบอร์รีและไม้ผลเมืองหนาว ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกสตรอเบอร์รีแบบปลอดสารพิษ ว่า ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบการปลูกสตรอเบอร์รีจนประสบความสำเร็จโดยเฉพาะการปลูกสตรอเบอร์รีเชิงเดี่ยว ทำให้ไม่มีโรคและแมลง ซึ่งการดำเนินการจะไม่ใช้สารเคมีในการปลูกพืชแต่จะหันมาใช้เกษตรอินทรีย์แทนทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งจะใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ผลิตขึ้นมาเอง และสารกำจัดศัตรูพืช ดังนั้นผลผลิตสตรอเบอร์รีจากสวนทุกลูกมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากสารเคมี 100%
“ขณะนี้การปลูกสตรอเบอร์รี 1 ไร่จะให้ผลผลิตมากกว่า 3 พันกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีรายได้อยู่ที่ 1.2-1.4 แสนบาทต่อไร่ และได้ราคาดีกว่าการปลูกโดยใช้ปุ๋ยเคมี ทั้งนี้ ผลผลิตส่วนใหญ่จะมีการรวมกลุ่มเพื่อนำผลผลิตที่ได้มาตรฐานจีเอพี ส่งไปจำหน่ายยังโครงการหลวงเพื่อนำไปจำหน่ายต่อไป รวมถึงการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ อย่าง น้ำสตรอเบอร์รี ไวน์และแยมสตรอเบอร์รี ผลิตภัณฑ์สตรอเบอร์รีอบแห้ง” เกษตรกรตัวอย่างกล่าว
เห็นความตั้งใจของทุกภาคส่วนในการพัฒนาสตรอเบอร์รีคุณภาพ ปราศจากสารเคมีอย่างนี้แล้ว ใครที่ผ่านแถว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ อย่าลืมแวะไปอุดหนุน และให้กำลังใจชาวบ้าน เพราะเชื่อแน่ว่าแรงใจเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกษตรกรพัฒนาผลผลิตที่ดีออกสู่ตลาดให้คนไทยได้ลิ้มลองแบบไม่หยุดยั้ง
***ติดต่อเพื่อเที่ยวชมสวนสตรอเบอร์รีเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ เก็บสตรอเบอร์รีสดจากสวน พร้อมจำหน่ายสตรอเบอร์รีสด และผลิตภัณฑ์สตรอเบอร์รีแปรรูป โทร.08-4803-9905***