เพชรบุรี - “ผบ.ตร.” ส่งทีมตำรวจลงพื้นที่เพชรบุรี ร่วมกันตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเก็บหลักฐาน และเก็บภาพประกอบข้อเท็จจริงเพื่อนำมายืนยันรายละเอียดเพิ่มเติมในสำนวนการสอบสวน หลังสั่งไม่ฟ้อง “พ.ต.ท.ธีรยุทธ” แก๊งล่าสัตว์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน “รอง ผบช.ภ.7” เผยน่าจะมีน้ำหนักเพียงพอที่ยืนยันการกระทำความผิดของ “พ.ต.ท.” กับพวกได้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) พล.ต.ต.พีระชาติ รื่นเริง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) เพชรบุรี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผกก.6 บก.ปทส.ได้เข้าประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม กรณีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเพิ่มเติมในคดีที่สั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพวกอีก 8 คน โดยต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้เข้าไปตรวจสถานที่เกิดเหตุทุกจุด ทั้งจุดที่ 1 ที่พยานเดินเท้าติดตามผู้ต้องหาไปตามที่ได้รับแจ้ง และพักแรมในวันที่ 8 พ.ย.55 จุดที่ 2 ที่พยานที่จับกุมได้พบซากของกระจง ขนเม่น ซากกบทูต ขวดสุราต่างๆ ซึ่งเป็นจุดพักค้างแรมในวันที่ 9 พ.ย.55 และจุดที่ 3 ที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยพนักงานสอบสวนจะต้องมีการจดบันทึกการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และจัดทำแผนที่ที่เกิดเหตุให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ชัดเจน พร้อมกับถ่ายภาพประกอบข้อเท็จจริงโดยให้ปรากฏพิกัดละติจูด ลองจิจูดใด เพื่อนำมาเป็นจุดกำหนดตำแหน่งในแผนที่ และหาระยะของแต่ละจุดจากพิกัดดังกล่าวโดยละเอียด อีกทั้งพนักงานสอบสวนจะต้องนำภาพถ่ายทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวที่มีอยู่แสดงให้เห็นจุดตำแหน่งสถานที่ที่ชัดเจนว่าเป็นภาพที่ถ่ายจากจุดตำแหน่งใดแล้วให้ถ่ายภาพตรงตำแหน่งนั้นให้มีพื้นที่ด้านหลังภาพเหมือนกันเพื่อนำมาเปรียบเทียบพร้อมทั้งหาพิกัดว่าตำแหน่งดังกล่าวอยู่บริเวณใดเพื่อนำมาเปรียบเทียบ
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.เป็นผู้กำกับควบคุมดูแล ซึ่งตน และทีมงานจะเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งที่พนักงานอัยการได้มอบหมายให้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อความละเอียดรอบคอบ โดยมีคณะทำงานจากหลายหน่วยงาน มีทั้งจากป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานของตำรวจ ร่วมกันตรวจสอบยืนยันรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพถ่ายวิดีโอที่เดิมทีพนักงานสอบสวนไม่อาจยืนยันได้จนเป็นเหตุให้มีการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตรงนี้หลังจากที่ตรวจสอบทางลึกแล้วพบว่า ข้อมูลมีไฟล์ซ่อนอยู่ซึ่งสามารถจะปรากฏวัน เวลา สถานที่ที่ถ่ายภาพนั้นๆ ได้
“ในส่วนนี้น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอที่ยืนยันการกระทำความผิดของ พ.ต.ท.ธีรยุทธ กับพวกได้ แต่ก็ต้องไปดูสภาพในพื้นที่จริงอีกครั้ง และสอบสวนปากคำทางฝ่ายอุทยานแห่งชาติฝ่ายผู้กล่าวหา พยานต่างๆ ประกอบให้แก่พนักงานอัยการตามที่ร้องขอ” พล.ต.ต.วิทยา กล่าวและว่า
ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งสายการทำงานออกเป็น 2 ชุดด้วยกันเพื่อให้ลงพื้นที่ 2 จุด คือ จุดท่าลิงลม เพื่อหา GPS และจุดที่ต้องเข้าไปตรวจสอบใหม่ที่ยังไม่ได้เข้าไปเพื่อเก็บพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบประกอบภาพถ่ายในพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมดเพื่อนำมาเปรียบเทียบ โดยหลังประชุมแบ่งสายงานเสร็จสิ้นได้แบ่งกำลังลงพื้นที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในทันที