xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ เพชรบุรีแจงย้ายฟ้าผ่า “นอภ.แก่งกระจาน” สั่งเวยคดี “พ.ต.ท.” แก๊งล่าสัตว์ป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี
เพชรบุรี - ผู้ว่าฯ เพชรบุรี นั่งหัวโต๊ะชี้แจงสื่อกรณี “นายอำเภอแก่งกระจาน” ถูกสั่งย้ายฟ้าผ่าเซ่นคำสั่งไม่ฟ้อง “พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี” สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แก๊งล่าสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมสั่งสอบสวนคดีเพิ่มเติม และใช้ 4 มาตรการดูแลคดีล่าสัตว์ป่าแก่งกระจาน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ก.พ.) นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ร่วมด้วย ดร.ไกร บุญบันดาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีที่กรมการปกครอง มีคำสั่งที่ 112/2556 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ให้นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยะศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง โดยพ้นจากอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งเดิม และให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งช่วยราชการเพียงตำแหน่งเดียว มีผลในวันนี้เป็นวันแรก (4 ก.พ.) จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จังหวัดได้มอบหมายให้นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดเพชรบุรี กำกับดูแลการปฏิบัติราชการในอำเภอแก่งกระจาน พร้อมทั้งได้แต่งตั้งให้ นายวิรุฬ ทองสุทธิ์ ปลัดอำเภอแก่งกระจาน รักษาราชการแทนนายอำเภอแก่งกระจานต่อไป

นายมณเฑียร เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยะศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน ที่ขณะนั้นเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ในคดีที่ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพวกอีก 8 คน โดยที่ปรากฏว่า ในสำนวนคดีนายอำเภอแก่งกระจานในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเห็นควรไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคม ทั้งสื่อทีวี และสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก

โดยตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมาดำรงค์ตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และได้มาทราบข่าวจากทางหนังสือพิมพ์ว่า หัวหน้าพนักงานสอบสวนนั้นได้ส่งสำนวนคดีให้แก่อัยการจังหวัด โดยแบ่งเป็น 3 สำนวน ในสำนวนที่ 3 มี พ.ต.ท.ธีรยุทธ เข้าไปร่วมอยู่ในคดี เนื่องจากว่าการจับกุมมีการจับกุมเรือทีละลำ รวม 3 ลำ เพราะฉะนั้น จะต้องแยกสำนวนเป็น 3 สำนวน

สำนวนแรก มีผู้ต้องหา 4 คน สำนวนที่ 2 มีผู้ต้องหา 2 คน และสำนวนที่ 3 มีผู้ต้องหา 2 คน แต่สำนวนที่ 3 ไม่ได้สั่งฟ้องนายตำรวจท่านนั้น โดยมีนายอำเภอเข้าไปควบคุมคดีในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนตามหนังสือเวียนกระทรวงมหาดไทย หากเป็นคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือคดีที่สำคัญ นายอำเภอต้องเข้าไปควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเองในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน นายอำเภอจึงเข้าไปร่วมในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน และส่งสำนวนให้อัยการ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีมาทราบในภายหลัง หลังจากสำนวนดังกล่าวถึงมืออัยการแล้ว แต่ได้สั่งการภายในให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดประสานกับอัยการจังหวัด แต่ไม่ได้ให้ข่าวหนังสือพิมพ์ เป็นการภายใน เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเข้าไปกำกับดูแลชี้แนะเกี่ยวกับคดีอาญาในพื้นที่จังหวัดได้อยู่แล้ว

แต่เมื่อสำนวนดังกล่าวถึงมืออัยการแล้วก็ต้องรอให้อัยการสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ ทางอัยการก็ให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้

ในขณะเดียวกัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็ได้ส่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) มาดูพื้นที่เกิดเหตุ มารวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ ทางอธิบดีกรมการปกครองก็ได้ส่งนิติกร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาของกรมการปกครองมาดูเหตุการณ์ในพื้นที่

ส่วนทางผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ก็ได้มอบหมายให้ ดร.ไกร บุญบันดาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากเคยเป็นปลัดจังหวัดฯ เป็นหัวหน้านายอำเภอมาก่อน มีความรู้เกี่ยวกับอำเภอ และพื้นที่ดี ร่วมกับนิติกรกรมการปกครองเข้าไปดูเหตุการณ์ในพื้นที่ สำนวนเสนออธิบดีกรมการปกครอง จนมีคำสั่งย้ายนายอำเภอแก่งกระจานให้ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครองโดยขาดจากตำแหน่ง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้มอบหมายให้นายวิรุฬ ทองสุทธิ์ ปลัดอาวุโสอำเภอแก่งกระจานรักษาราชการแทน จนกว่านายอำเภอคนใหม่จะได้รับการแต่งตั้ง

แต่เนื่องจากวัยวุฒิ คุณวุฒิอาจยังไม่เหมาะสม จึงได้มอบหมายให้ ดร.ไกร บุญบันดาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดเพชรบุรี และนายมานะ สิมมา ตัวแทนกรมการปกครอง เข้ามากำกับคดีนี้ในฐานะตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี

ส่วนคดีชั้นพนักงานสอบสวนที่อำเภอแก่งกระจาน จะมีหนังสือสั่งการให้นายอำเภอออกคำสั่งให้นายรณรงค์ ทิพยศิริ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบการสอบสวนคดีอาญา ร.ต.อ.หญิง อรุณี อินทรมณี หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา และนายรัฐวิส กิจสุจริตวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 2 สำนักการสอบสวน และนิติการเข้าไปร่วมช่วยเหลือปลัดอาวุโส จนกว่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ

นายมณเฑียร กล่าวต่อว่า การที่พนักงานอัยการมีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ในกรณีที่สงสัยสามารถให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม หรือส่งพยานมาให้ซักถามเพิ่มเติมได้ เป็นอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 143 หลังจากสรุปชั้นอัยการแล้ว จะมีอีกชั้นที่จะถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในการทำความเห็นแย้ง หรือเห็นด้วยกับอัยการ แต่ในชั้นนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งให้นายอำเภอดำเนินการ 4 ประการ คือ

1.ในกรณีที่อัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติม หรือส่งพยานมาให้ซักถามเพิ่มเติม ตามที่ได้แจ้งแล้วตาม ป.วิอาญา มาตรา 143 ให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานอัยการโดยเคร่งครัด ด้วยความละเอียดรอบคอบ ถูกต้อง ครบถ้วน การสอบสวนทุกครั้งต้องทำร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายคือ พนักงานอบสวน และฝ่ายปกครอง

2.เมื่อทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนส่งสำนวน หรือบันทึก หรือพยานหลักฐานให้พนักงานอัยการ ให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบและพนักงานสอบสวนนำสำนวน หรือบันทึก หรือพยานหลักฐานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจพิจารณาความถูกต้องครบถ้วนทุกครั้งก่อนส่งให้พนักงานอัยการ

3.การสอบสวนเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ดร.ไกร บุญบันดาล ปลัดจังหวัดเพชรบุรี นายปราโมทย์ สำเภาเงิน และนายมานะ สิมมา ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา สำนักการสอบสวนและนิติการกรมการปกครอง เป็นคณะที่ปรึกษาแก่หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนฝ่าย

4.ในขณะเดียวกัน คณะผู้ปฏิบัติงานจะให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบพิจารณาแต่งตั้งหนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองจากส่วนกลาง คือ นายรณรงค์ ทิพยศิริ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบการสอบสวนคดีอาญา ร.ต.อ.หญิง อรุณี อินทรมณี หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 3 และนายรัชวิท กิจสุจริตวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา

แต่หากยังทำได้ไม่ดี ผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะไปสอบสวนได้ด้วยตนเอง เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ในชั้นนี้ขอส่งทีมที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปดูแล ตาม 4 มาตรการที่ได้แจ้งไว้แล้ว ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายตำรวจเองก็ได้เพิ่มพนักงานสอบสวนจากส่วนกลางเข้ามา จึงเป็นทีมใหญ่พอสมควร เป็นจังหวะที่ดีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเข้าไปดูแลได้ตามกฎหมาย จะให้ความเป็นธรรม และน่าจะดำเนินการไปได้ด้วยดี

นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยะศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน
กำลังโหลดความคิดเห็น