ศูนย์ข่าวศรีราชา - เผยผลประกอบการปี 55 โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เติบโตทั้งยอดรายได้ และผู้ป่วย มีรายได้สูงถึง 3.2 พันล้านบาท โตกว่าปีก่อน 14% และทำรายได้สูงเป็นอันดับ 4 ของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศ พร้อมประกาศเดินหน้าแผนพัฒนา 3 ปี เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยชาวไทย และรัสเซีย
วันนี้ (17 ม.ค.) นพ.พิชิต กังวลกิจ รองประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 3 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จ.ชลบุรี แถลงผลประกอบการของโรงพยาบาลในรอบปี 2555 ว่า มีรายได้ประมาณ 3.2 พันล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อน 14% กำไรสุทธิเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 17% ของผลประกอบการ ขณะที่ยอดคนไข้ใน และนอกมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 7% ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนอันดับ 4 ของประเทศที่ทำรายได้สูุงสุด สำหรับกลุ่มคนไข้หลักนอกจากจะเป็นชาวไทยในเมืองพัทยาแล้ว ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากแถบยุโรป และรัสเซียที่เข้ามาพักอาศัย และยังมีแนวโน้มว่ากลุ่มคนไข้ชาวรัสเซียจะขยับขึ้นมามากเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มคนไข้ชาวอังกฤษ และเยอรมนี
“ปี 2556 คาดว่าผลประกอบการจะอยู่ที่ประมาณ 3.6 พันล้านบาท เติบโตไม่มากนัก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของโรงพยาบาลที่จะไม่ปรับค่ารักษาพยาบาล แต่จะเพิ่มขีดความสามารถในการรักษา เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นของค่าครองชีพ”
นพ.พิชิต กล่าวว่า ปี 2556 มีแผนพัฒนาโรงพยาบาลด้วยการทุ่มงบประมาณลงทุนด้านเทคโนโลยีการแพทย์ เช่น การจัดซื้อเครื่องไตเทียมออนไลน์ ที่สามารถขจัดของเสียโมเลกุลใหญ่ออกจากร่างกาย ลดภาวะโรคแทรกซ้อน และลดการใช้ยาของคนไข้ใน ราคาเครื่องละ 1.5 ล้านบาท โดยจะทยอยเปลี่ยนจนครบ 13 เครื่อง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งพัฒนาซอฟต์แวร์โปรแกรม Smart I.C.U. เพิ่มขีดความสามารถในการรวบรวมข้อมูลสัญญาณชีพในห้อง I.C.U. และ C.C.U. ทั้งหมด 30 ห้อง โดยจะใช้เงิน 30-40 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการเพิ่มยูนิตศูนย์รักษาผู้ป่วยทารกแรกเกิดจาก 4 ยูนิตเป็น 8 ยูนิต จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และเครื่องมือต่างๆ ภายใต้งบประมาณ 20 ล้านบาท
“ในส่วนของศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางที่เปิดให้บริการในปี 2555 จะเพิ่มความโดดเด่นทางการรักษาให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะศูนย์หัวใจ ศูนย์โรคกระดูกและข้อ และศูนย์ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ รวมทั้งศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ที่มีคนไข้ต่างชาติเข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
นพ.พิชิต กล่าวว่า โรงพยาบาลยังตั้งเป้าแผนพัฒนาระยะ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2556 ตั้งเป้ารายได้รวมไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท เพราะจำนวนผู้ป่วยต่างชาติจะเพิ่มขึ้น หลังไทยเปิดประเทศสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่คาดว่ากลุ่มคนไข้แถบอาเซียนจะเติบโตขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำลังซื้อ และประชากรจำนวนมาก ทั้งยังมีการเปิดน่านฟ้าเสรี จะทำให้มีเที่ยวบินจากประเทศต่างๆ เข้ามายังไทยง่ายขึ้น
“เป้าหมายสำคัญของแผน 3 ปี คือ การยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาล ให้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยชาวไทย และรัสเซีย เพราะได้เดินทางไปเปิดบูทประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลในงาน Matiw-Leisure 2012 ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัสเซีย จึงคาดว่าจะทำให้มีกลุ่มคนไข้เดินทางเข้ามารักษาพยาบาลมากขึ้น”