ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาถกปัญหาเจ็ตสกีนัดสุดท้าย สรุปชัดบังคับทำประกันภัยแก้ปัญหาขูดรีด พร้อมสนธิกำลังจัดการเด็ดขาดกลุ่มนอกแถว หากยังดื้อไม่เข้าระบบ
วันนี้ (5 ม.ค.) หลังจากเมืองพัทยาประสบปัญหาด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างรุนแรง จากกลุ่มผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีให้เช่าบางรายที่มักมีพฤติกรรมข่มขู่ ขูดรีดทรัพย์สินจากนักท่องเที่ยวอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะเมื่อเกิดการเฉี่ยวชนกลางทะเล จนมีการร้องเรียนจากสถานทูตเพื่อให้หามาตรการแก้ไขอย่างจริงจังนั้น
ล่าสุด นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปก่อนออกมาตรการดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ได้พิจารณาเรื่องการทำประกันภัยเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ กำหนดให้เรือเจ็ตสกีให้เช่าทุกลำที่ลงทะเบียนกับเมืองพัทยารวม 467 ลำ ต้องทำประกันภัยตามข้อบังคับ หากพบว่าไม่เข้าสู่ระบบ จะมีมาตรการบังคับทางกฎหมายสั่งห้ามบริการในเมืองพัทยาโดยเด็ดขาด
นายรณกิจ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาคาราคาซังมานาน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นที่เกาะล้าน สถานทูตอินเดียประสานงานมายังรัฐบาล กรณีที่ผู้ประกอบการข่มขู่ ขูดรีดทรัพย์สินอย่างไม่เป็นธรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น เมืองพัทยาได้เร่งหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งข้อสรุป คือ กำหนดให้เรือทุกลำต้องทำประกันภัย โดยจะเปิดเสรีสำหรับบริษัทประกันภัย เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบ หรืออัตราตามร่างกฎกระทรวงของเจ้าท่าที่กำหนดไว้ กล่าวคือ ต้องชดเชยค่าเสียไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อครั้ง และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 15,000 ต่อครั้ง ซึ่งปัจจุบัน มีหลายบริษัทที่เสนอแผนคุ้มครองมาแล้ว
“กรณีเรือที่ไม่เข้าสู่ระบบด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีกฎหมายบังคับ จะใช้กฎหมายที่กำหนดให้เมืองพัทยาเป็นพื้นที่คุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดว่าอ่าวเมืองพัทยาและสัตหีบไม่ให้นำเรือเจ็ตสกีมาแล่นตามแนวชายฝั่งได้มาบังคับใช้ อีกทั้งเรือเจ็ตสกีตามกฎหมายนั้น ยังระบุว่า เป็นเรือสำราญทางกีฬา ไม่สามารถบริการให้เช่าได้ โดยเมืองพัทยาจะทำสัญลักษณ์สำหรับเรือที่เข้าร่วม หากพบเรือฝ่าฝืนก็จะสนธิกำลังกับเจ้าท่าส่วนภูมิภาค และตำรวจจับกุมทันที”
นายรณกิจ กล่าวว่า จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการอีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อชี้แจงถึงเหตุผล ของการทำประกันภัย จากนั้นจะกำหนดระยะเวลาบังคับใช้ให้เป็นรูปธรรมต่อไป
วันนี้ (5 ม.ค.) หลังจากเมืองพัทยาประสบปัญหาด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างรุนแรง จากกลุ่มผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีให้เช่าบางรายที่มักมีพฤติกรรมข่มขู่ ขูดรีดทรัพย์สินจากนักท่องเที่ยวอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะเมื่อเกิดการเฉี่ยวชนกลางทะเล จนมีการร้องเรียนจากสถานทูตเพื่อให้หามาตรการแก้ไขอย่างจริงจังนั้น
ล่าสุด นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปก่อนออกมาตรการดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ได้พิจารณาเรื่องการทำประกันภัยเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ กำหนดให้เรือเจ็ตสกีให้เช่าทุกลำที่ลงทะเบียนกับเมืองพัทยารวม 467 ลำ ต้องทำประกันภัยตามข้อบังคับ หากพบว่าไม่เข้าสู่ระบบ จะมีมาตรการบังคับทางกฎหมายสั่งห้ามบริการในเมืองพัทยาโดยเด็ดขาด
นายรณกิจ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาคาราคาซังมานาน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นที่เกาะล้าน สถานทูตอินเดียประสานงานมายังรัฐบาล กรณีที่ผู้ประกอบการข่มขู่ ขูดรีดทรัพย์สินอย่างไม่เป็นธรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น เมืองพัทยาได้เร่งหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งข้อสรุป คือ กำหนดให้เรือทุกลำต้องทำประกันภัย โดยจะเปิดเสรีสำหรับบริษัทประกันภัย เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบ หรืออัตราตามร่างกฎกระทรวงของเจ้าท่าที่กำหนดไว้ กล่าวคือ ต้องชดเชยค่าเสียไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อครั้ง และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 15,000 ต่อครั้ง ซึ่งปัจจุบัน มีหลายบริษัทที่เสนอแผนคุ้มครองมาแล้ว
“กรณีเรือที่ไม่เข้าสู่ระบบด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีกฎหมายบังคับ จะใช้กฎหมายที่กำหนดให้เมืองพัทยาเป็นพื้นที่คุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดว่าอ่าวเมืองพัทยาและสัตหีบไม่ให้นำเรือเจ็ตสกีมาแล่นตามแนวชายฝั่งได้มาบังคับใช้ อีกทั้งเรือเจ็ตสกีตามกฎหมายนั้น ยังระบุว่า เป็นเรือสำราญทางกีฬา ไม่สามารถบริการให้เช่าได้ โดยเมืองพัทยาจะทำสัญลักษณ์สำหรับเรือที่เข้าร่วม หากพบเรือฝ่าฝืนก็จะสนธิกำลังกับเจ้าท่าส่วนภูมิภาค และตำรวจจับกุมทันที”
นายรณกิจ กล่าวว่า จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการอีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อชี้แจงถึงเหตุผล ของการทำประกันภัย จากนั้นจะกำหนดระยะเวลาบังคับใช้ให้เป็นรูปธรรมต่อไป