พระนครศรีอยุธยา - พระสหายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เดินทางเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 09.50 น. นายไมเคิล เฌอเฟอร์ พระสหายในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และครอบครัวเข้าเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาวังช้างอยุธยาแลเพนียด วิหารพระมงคลบพิตร และพระราชวังบางปะอิน โดยการนำของ ร.อ.ไพบูลย์ สุขเจตนี ผู้แทนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มีนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายไมเคิล เฌอเฟอร์ และครอบครัวได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2556 ในฐานะพระสหาย และใช้โอกาสนี้เยี่ยมชมเมืองมรดกโลก และเมืองประวัติศาสตร์ โดยจุดแรกที่เข้าเยี่ยมชมคือศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
สำหรับศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักวิชาการไทย และญี่ปุ่น จัดตั้งขึ้นในปี 2529 โดยเห็นว่า จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของสยามที่มีอายุยืนยาวถึง 417 ปี และได้วางรากฐานทางวัฒนธรรมให้แก่ประเทศไทยสมัยใหม่แล้ว ยังเคยเป็นศูนย์กลางการค้าในอุษาคเนย์ในระยะเวลาหนึ่งด้วย และความตั้งใจของนักวิชาการไทยและญี่ปุ่น ได้ก่อให้เกิดการปรับปรุงบริเวณที่เคยเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญี่ปุ่น มาเป็นการจัดตั้งศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา และมีความตกลงร่วมกันในระดับรัฐบาล โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ประมาณ 170 ล้านบาท เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี 2530 และเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่มิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ดำเนินมา ครบ 600 ปี
จากนั้น คณะพระสหายได้เดินทางไปยังวังช้างอยุธยาแลเพนียด พร้อมกับนั่งช้างท่องเที่ยววังช้าง ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธุ์ 2540 โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมศิลปากร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นสถานที่ทำงานของช้าง และดูแลเพนียดคล้องช้างบนพื้นที่ 2 ไร่ ทิศเหนือติดกับบึงน้ำโบราณข้างคุ้มขุนแผน ทิศใต้ติดริมถนนป่าโทน ทิศตะวันออกติดกับสระน้ำวัดเกษ ทิศตะวันตกติดกับโครงการตลาดน้ำเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้เดินทางไปยังวิหารพระมงคลบพิตร วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังบางปะอิน
วันนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 09.50 น. นายไมเคิล เฌอเฟอร์ พระสหายในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และครอบครัวเข้าเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาวังช้างอยุธยาแลเพนียด วิหารพระมงคลบพิตร และพระราชวังบางปะอิน โดยการนำของ ร.อ.ไพบูลย์ สุขเจตนี ผู้แทนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มีนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายไมเคิล เฌอเฟอร์ และครอบครัวได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2556 ในฐานะพระสหาย และใช้โอกาสนี้เยี่ยมชมเมืองมรดกโลก และเมืองประวัติศาสตร์ โดยจุดแรกที่เข้าเยี่ยมชมคือศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
สำหรับศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักวิชาการไทย และญี่ปุ่น จัดตั้งขึ้นในปี 2529 โดยเห็นว่า จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของสยามที่มีอายุยืนยาวถึง 417 ปี และได้วางรากฐานทางวัฒนธรรมให้แก่ประเทศไทยสมัยใหม่แล้ว ยังเคยเป็นศูนย์กลางการค้าในอุษาคเนย์ในระยะเวลาหนึ่งด้วย และความตั้งใจของนักวิชาการไทยและญี่ปุ่น ได้ก่อให้เกิดการปรับปรุงบริเวณที่เคยเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญี่ปุ่น มาเป็นการจัดตั้งศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา และมีความตกลงร่วมกันในระดับรัฐบาล โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ประมาณ 170 ล้านบาท เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี 2530 และเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่มิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ดำเนินมา ครบ 600 ปี
จากนั้น คณะพระสหายได้เดินทางไปยังวังช้างอยุธยาแลเพนียด พร้อมกับนั่งช้างท่องเที่ยววังช้าง ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธุ์ 2540 โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมศิลปากร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นสถานที่ทำงานของช้าง และดูแลเพนียดคล้องช้างบนพื้นที่ 2 ไร่ ทิศเหนือติดกับบึงน้ำโบราณข้างคุ้มขุนแผน ทิศใต้ติดริมถนนป่าโทน ทิศตะวันออกติดกับสระน้ำวัดเกษ ทิศตะวันตกติดกับโครงการตลาดน้ำเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้เดินทางไปยังวิหารพระมงคลบพิตร วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังบางปะอิน
