เพชรบุรี - นักท่องเที่ยวแห่เช่าเหมาเรือประมงนับ 10 ลำออกทะเลชม “วาฬบรูด้า” ที่เข้ามาหากินในพื้นที่เพชรบุรี ชาวประมงเผย พบฝูงวาฬบรูด้าเข้ามาหากินอยู่ในแถบน่านน้ำตั้งแต่เขตรอยต่อสมุทรสงคราม ต.บางตะบูน จนถึง ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว โดยสามารถพบเห็นได้ตลอด และทุกวันในช่วงระยะเวลานี้ โดยบางฝูงมีมากถึง 10 ตัวเลยทีเดียว
วันนี้ (10 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เพชรบุรี ว่า มีนักท่องเที่ยวกว่า 100 คน ได้เช่าเหมาเรือประมงร่วม 10 ลำมุ่งหน้าไปยังจุดที่พบฝูงวาฬบรูด้าโผล่ขึ้นมาเล่นน้ำ และหากินปลากระตักในทะเลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้สร้างความฮือฮา และความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากวาฬบรูด้าจะโผล่ตัวขึ้นมาเหนือน้ำใกล้ๆ กับเรือของนักท่องเที่ยว และหากโชคดีจะได้พบเห็นภาพของวาฬบรูด้าอ้าปากกินปลากระตักอยู่กลางทะเล โดยจะมีนกนางนวลนับร้อยตัวบินรุมอยู่ตรงจุดที่วาฬบรูด้าจะโผล่ขึ้นมากินปลากระตัก ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก
ทั้งนี้ จากการบอกเล่าของเรือประมงในพื้นที่ที่ออกทะเลบอกว่า ขณะนี้ พบฝูงวาฬบรูด้าได้เข้ามาหากินอยู่ในแถบน่านน้ำตั้งแต่เขตรอยต่อ จ.สมุทรสงคราม ต.บางตะบูน จนถึง ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว โดยสามารถพบเห็นได้ตลอด และทุกวันในช่วงระยะเวลานี้ โดยบางฝูงมีมากถึง 10 ตัวเลยทีเดียว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจและเก็บภาพฝูงวาฬบรูด้าดังกล่าว โดยนั่งเรือออกไปจากท่าเทียบเรือ ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ทะเลแถวๆ เขตรอยต่อ จ.สมุทรสงคราม ตามจุดที่ชาวประมงวิทยุสื่อสารกันว่าพบฝูงวาฬบรูด้ากว่า 10 ตัว และมีลูกน้อยอีก 1 ตัวโผล่ขึ้นหากินปลากระตักอยู่บริเวณรอยต่อดังกล่าว โดยใช้เวลาในการเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไปถึงยังจุดที่รับแจ้ง และได้พบกับฝูงวาฬบรูด้าตามที่เรือประมงแจ้งจริง แต่พบเพียง 4 ตัว ที่โผล่ขึ้นมาโชว์ตัวเล่นน้ำเท่านั้น และห่างออกไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ก็ได้พบวาฬบรูด้าที่กำลังหากินอีก 1 คู่
นอกจากนี้ ยังพบฝูงโลมาหัวบาตรกว่า 10 ตัว ที่กำลังกระโดดเล่นน้ำหากินอยู่ใกล้ๆ แถบแนวน้ำตื้นที่ชาวประมงใช้เป็นที่สำหรับตั้งอวนดักปลาอีกด้วย โดยภาพที่เห็นบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีมากขึ้น เพราะหากไม่มีฝูงปลาเล็กในพื้นที่ฝูงวาฬเหล่านี้ก็จะไม่เข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยช่วงเวลาที่จะพบฝูงปลาวาฬบรูด้าได้เป็นช่วงเวลาน้ำขึ้น มีฝูงปลาเล็กอยู่ใกล้ฝั่งจำนวนมาก ลมทะเลไม่แรงเกินไป และสภาพน้ำต้องดีอีกด้วย โดยการปรากฏตัวของวาฬบรูด้า จะมาทุกปีในช่วงที่น้ำขึ้น และมีปลากระตักจำนวนมาก และเมื่อปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวต่างฮือฮาพากันเดินทางมาชมวาฬบรูด้ากันเป็นจำนวนมากซึ่งไม่แตกต่างจากปีนี้เลยทีเดียว
สำหรับวาฬบรูด้า เป็นสัตว์ห้ามค้าระหว่างประเทศ ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของไทย และเป็นสัตว์ที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ลักษณะทั่วๆ ไปของวาฬบรูด้า เป็นวาฬขนาดปานกลาง มีรูปร่างค่อนข้างเพรียว ลำตัวของวาฬชนิดนี้สีเทาเข้ม มีลายแต้มสีขาวประปรายตรงใต้คาง และใต้คอ บางตัวพบมีแถบสีจางบนแผ่นหลัง บางตัวก็มีจุดสีจางทั้งตัวคล้ายสีเทาลายกระสีขาว เวลาอยู่ในทะเลจะสังเกตเห็นสัน 3 สันเด่นชัดด้านบนของปาก ซึ่งจะวางตัวขนานกันจากปลายปากจนถึงตำแหน่งของรูหายใจ ในขณะที่วาฬชนิดอื่นๆ มีสันตรงกึ่งกลางปากเพียงสันเดียว เวลาผุดขึ้นหายใจเหนือผิวน้ำ จะเห็นหัว และน้ำพุที่หายใจออกมาเป็นเวลานานสักครู่ก่อนจะเห็นครีบหลังตามมา
จุดเด่นของวาฬบรูด้า คือ ครีบหลังที่มีรูปโค้งอยู่ค่อนไปทางด้านปลายหาง แพนหางวางตัวตามแนวราบ และมีรอยเว้าเข้าตรงกึ่งกลาง ครีบคู่หน้ามีปลายแหลม และมีความยาวเป็น 10% ของความยาวลำตัว ใต้ปากล่างมีร่องตามยาวประมาณ 40-70 ร่อง ซึ่งพาดจากใต้ปากจนถึงตำแหน่งสะดือ แผ่นกรองที่ห้อยลงมาจากปากบนมีจำนวน 250-370 แผ่น แผ่นที่ยาวที่สุดยาว 60 เซนติเมตร ซี่บนแผ่นกรองค่อนข้างหยาบ
วาฬบรูด้า เมื่อโตเต็มที่จะยาว 14-15.5 เมตร หนัก 20-25 ตัน กินอาหารโดยการกรอง เนื่องจากวาฬบรูด้าเป็นวาฬชนิดไม่มีฟันแต่มีบาลีน เป็นแผ่นกรองคล้ายหวี สีเทา 250-370 ซี่ ใช้กรองแพลงก์ตอน และฝูงปลากินเป็นอาหาร เช่น ปลาหมึก ปลาทู ปลากะตัก เป็นต้น พบแพร่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อน และเขตกึ่งร้อน ในเขตละติจูด 40 องศาเหนือถึงใต้ ไม่พบการอพยพย้ายถิ่นฐานเป็นระยะทางไกล โดยมากมักพบครั้งละ 1-2 ตัว วัยเจริญพันธุ์ ในช่วงอายุ 9-13 ปี วาฬบรูด้าจะให้ลูกครั้งละ 1 ตัว ทุก 2 ปี ตั้งท้องนาน 10-12 เดือน ระยะให้นมน้อยกว่า 12 เดือน ลูกวาฬแรกเกิดจะมีความยาวประมาณ 3-4 เมตร วาฬบรูด้าอายุยืนถึง 50 ปี เวลาจมตัวดำน้ำจะโผล่หัวเล็กน้อยแล้วทิ้งตัวจมหายไปไม่โผล่ส่วนหางขึ้นมาเหนือน้ำ
อย่างไรก็ตาม วาฬบรูด้า เป็นวาฬเพียงชนิดเดียวที่พบว่าอาศัยอยู่ประจำถิ่นในอ่าวไทย และมีขนาดเล็กกว่าที่พบจากแหล่งอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์ต่างชาติหลายท่านพยายามศึกษา และตั้งชื่อวาฬบรูด้าในอ่าวไทยให้เป็นวาฬชนิดใหม่ของโลก ปัจจุบัน แต่จะพบบ่อยที่ทะเลบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์