โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
พูดถึง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราชแล้ว วันนี้ทะเลขนอมกำลังมาแรงมาก ที่นี่มีหาดทรายชายทะเลสวยงาม มีอ่าวขนอมเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจกับ 3 สิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทย นั่นก็คือ เขาหินพับผ้าที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก รอยเท้าหลวงปู่ทวดที่เป็นบ่อน้ำจืดเล็กกลางทะเลอันน่าอัศจรรย์กับตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอันลือลั่น และเจ้าโลมาสีชมพูที่ถือเป็นดาวเด่นของฝูงโลมาในอ่าวขนอม
อย่างไรก็ดี อ.ขนอมใช่มีดีเฉพาะทะเลเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมี“ถ้ำเขาวังทอง” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ขณะที่กิจกรรมที่มากำลังแรงในช่วง 2-3 ปีนี้ คงจะหนีไม่พ้น กิจกรรม “สปาปลา”(Fish Spa) ที่ “ต้นธาร รีสอร์ท แอนด์ สปา”
บำบัดด้วยสปาปลา
สปาปลา หรือ การบำบัดด้วยปลา ของที่นี่เป็นสปาปลาธรรมชาติ ไม่ใช่สปาปลาตามตู้ หรือสปาปลาที่ตกแต่งเลียนแบบธรรมชาติ
จุดกำเนิดของสปาปลาที่นี่เริ่มจากการที่พี่ “ปราโมทย์ จิตมุ่ง” เจ้าของต้นธาร รีสอร์ทฯ เห็นว่าในพื้นที่ต้นธาร รีสอร์ทฯ มีลำธารน้ำไหลผ่านตามธรรมชาติ มีปลาแหวกว่ายอยู่ในลำธารเยอะ จึงน่าทำกิจกรรมเกี่ยวกับลำธารและปลาบ้าง เพราะช่วงนั้นสปาปลากำลังเริ่มเป็นที่นิยมในบ้านเรา
“พอเราลงน้ำไปให้ปลาตอด ปลามันกลับหนีหายหมด เพราะมันตกใจ” พี่ปราโมทย์เล่าอย่างครื้นเครง
แต่เมื่อคนสามารถฝึกสัตว์ ช้าง ม้า วัว ควาย ลิง หมา แมว ให้เชื่องได้ พี่ปราโมทย์จึงคิดว่าปลาที่นี่มันก็น่าจะฝึกได้ เขาจึงนำปลาแดงจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นปลาที่ใช้ในสปาเท้า มาปล่อยลงในลำธารเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนปลาในลำธารที่นี่ให้ตอดเท้าคน
จากนั้นประมาณ 6 เดือน ไม่น่าเชื่อว่า ปลาไทยจะสามารถกลายเป็นพนักงานสปาสามารถตอดเท้าคนที่ลงไปในลำธารได้อย่างน่าประทับใจ
เรียกว่าปลาไทยไม่เพียงเรียนจบ รับปริญญาเท่านั้น แต่ยังได้เกียรตินิยมอีกด้วย เพราะมันทำได้ดีเกินคาด โดยปัจจุบันลำธารแห่งนี้มีปลาหลักๆที่ทำหน้าที่สปาปลาอยู่ 4 พันธุ์ ได้แก่ ปลาซิวใบไผ่ ปลาลายเสือ ปลาหางแดง และปลาพื้นเมืองอีกหนึ่งชนิด
เมื่อปลาสามารถตอดได้แล้ว ปัญหาก็ยังมีอีกตรงที่ปลาเหล่านี้ ตอนน้ำหลากปลามันจะแหวกว่ายหายไป ดังนั้นจึงต้องมีวิธีการเรียกปลาเหมือนพระสังข์ให้ปลาอยู่ประจำที่นี่ ซึ่งพี่ปราโมทย์ได้ใช้วิธีการใช้เสียงเรียกปลาให้มากินอาหาร จนเมื่อปลาคุ้นชินกับคนที่นี่มันก็ไม่ไปไหน แหวกว่ายหากินอยู่ที่นี่เพราะปัจจุบันมีเศษเนื้อหนังตายจากเท้าของคนเราเป็นอาหารชั้นดี ที่สำคัญคือปลา(ไทย)เหล่านี้มันถ่ายวิธีการตอดเท้าจากรุ่นสู่รุ่น เรียกว่าปลาญี่ปุ่นสอดเพียงครั้งเดียว (สัญชาติญาณ)ปลาไทยก็สามารถเรียนรู้วิชาการตอดเท้าคนได้อย่างไม่ยากเย็น
หลังสร้างปลาให้เป็นพนักงานสปาคอยตอดเท้ารักษาสุขภาพได้ พี่ปราโมทย์ได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณลำธาร มีการทำสะพานทางเดิน ทำที่นั่งแช่เท้าในลำธารใสไหลเย็น และมวลหมู่แมกไม้ที่ขึ้นเขียวครึ้ม
เอาล่ะรู้ที่มาคร่าวๆของสปาปลาที่นี่แล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาไปสัมผัสของจริงกันเสียที
เสียวนี้เพื่อสุขภาพ
“กรี๊ด วี้ด ว้าย กระตู้วู้”
ผมได้ยินเสียงสาวๆหลายๆคนร้องเสียงหลง ในขณะที่กำลังเดินไปยังจุดนั่งแช่เท้า
“พอเอาเท้าแช่น้ำก็จะรู้ว่าเขากรี๊ดกันทำไม” พี่ปราโมทย์บอก
พอผมนั่งหย่อน 2 เท้าลงน้ำก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าสาวๆเขากรี๊ดกันทำไม เพราะเมื่อเท้าแตะจุ่มลงในน้ำได้สักหน่อย ฝูงปลาต่างทยอยแหวกว่ายมา จากนั้นมันต่างรุมตอดไปทั่วเท้าของเรา สัมผัสแรกที่โดนเล่นเอาผมกระตุกสะดุ้งโหยง เหมือนถูกไฟช้อต เพราะมันเสียวเข้าไส้แถมยังจั๊กกะจี้เข้าไปถึงตับ ต้องชักเท้าหนีขึ้นมา ก่อนจะหย่อนลงไปใหม่ แล้วค่อยๆปรับความคุ้นเคย สักพักจากความเสียวเป็นความสบาย ความเพลิดเพลิน และความสนุกที่ติดตามเข้ามา
ทีนี้แหละเหมือนเท้าได้นำ ลงไปแช่ครึ่งขาให้ปลาตอดกันเพลินเลย
ขนาดของปลาที่นี่จะตัวใหญ่กว่าปลาตอดเท้าทั่วๆไปในตู้ที่นำเข้ามาจากต่างชาติ มีขนาดประมาณ ครึ่งนิ้ว-หนึ่งนิ้ว หรือบางตัวใหญ่กว่านั้น พวกมันจะทำงานกันเป็นทีมคือมารุมตอดเท้าและน่องผมอย่างเนืองแน่น ชนิดถ้าเป็นปิรันย่าขาผมคงหายเหลือแต่กระดูกเพียงไม่กี่อึดใจ
สำหรับคุณประโยชน์ของสปาปลาหรือการให้ปลามารุมตอดนั้น พี่ปราโมทย์บอกว่า ช่วงที่เราลงน้ำใหม่ๆ พอถูกปลาตอดความรู้สึกมันจะเหมือนคนถูกไฟช้อต จะช่วยทำให้เลือดสูบฉีด แล้วมันก็ทำให้เรารู้สึกจั๊กกะจี้ ช่วงที่จั๊กกะจี้มันจะช่วยเปิดกระบังลมทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ดี
นอกจากนี้ปลาพวกนี้ที่เข้ามาตอดมันยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตาย กระตุ้นเซลล์ใหม่ให้เกิด เมื่อนั่งให้ปลาตอดเท้าประมาณ 15 นาทีขึ้นไป มันก็ค่อยๆจะทยอยจากไป เพราะมันได้กำจัดแบคทีเรียที่เท้าทั้ง หน้าเท้าหลังเท้า ซอกนิ้ว ง่ามเท้า หน้าแข้ง ตาตุ่ม ไปจนเกือบจะหมด และถ้ามีคนใหม่ เท้าใหม่ ลงน้ำมามันก็จะกรูไปหาคนนั้นต่อไป
“ปลามันช่วยทำความสะอาดเท้าให้เราหมด บางทีเราไม่รู้ว่าเท้ามีกลิ่นหรือเปล่า แต่ปลามันจะรู้ ถ้าปลาอยู่ที่เท้าใครเยอะ คนนั้นเท้าเหม็น แล้วปลาจะทำลายแบคทีเรียออกให้ทั้งหมด คนที่ปวดเข่า ผู้สูงอายุ เส้นปลายประสาทของมนุษย์อยู่ที่เท้า อาจจะกระตุ้นปลายประสาทคลายอาการปวดเข่าได้” พี่ปราโมทย์บอก
และนี่ก็คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองขนอม ที่ใครต่อใครเลือกจ่ายเงินมาเสียวกันแบบยินยอมพร้อมใจ เพราะเสียวนี้นอกจากจะเพื่อสุขภาพแล้ว ยังได้ประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทยกลับไปด้วย
*****************************************
ต้นธาร รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ที่ 100 หมู่ 1 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ผู้ที่เข้าพักในรีสอร์ทสามารถใช้บริการสปาปลาได้ฟรี ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าพักจะเสียค่าบริการสปาปลา 100 บาท
ต้นธาร รีสอร์ทฯ เป็นรีสอร์ทที่มีบรรยากาศร่มรื่น นอกจากสปาปลาแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ ขี่จักรยานชมสวน แช่อ่างจากุดชี่ธรรมชาติ ล่องแพ พายเรือ เล่นน้ำ อีกทั้งยังมีอาหารเมนูสุขภาพ ปรุงด้วยพืชผักออร์แกนิก และมีโปรแกรมดูแลสุขภาพสล้างพิษตับที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลที่พัก การเดินทาง และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ 0-7546-0574,08-1945-0263,08-9650-9792
พูดถึง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราชแล้ว วันนี้ทะเลขนอมกำลังมาแรงมาก ที่นี่มีหาดทรายชายทะเลสวยงาม มีอ่าวขนอมเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจกับ 3 สิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทย นั่นก็คือ เขาหินพับผ้าที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก รอยเท้าหลวงปู่ทวดที่เป็นบ่อน้ำจืดเล็กกลางทะเลอันน่าอัศจรรย์กับตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอันลือลั่น และเจ้าโลมาสีชมพูที่ถือเป็นดาวเด่นของฝูงโลมาในอ่าวขนอม
อย่างไรก็ดี อ.ขนอมใช่มีดีเฉพาะทะเลเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมี“ถ้ำเขาวังทอง” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ขณะที่กิจกรรมที่มากำลังแรงในช่วง 2-3 ปีนี้ คงจะหนีไม่พ้น กิจกรรม “สปาปลา”(Fish Spa) ที่ “ต้นธาร รีสอร์ท แอนด์ สปา”
บำบัดด้วยสปาปลา
สปาปลา หรือ การบำบัดด้วยปลา ของที่นี่เป็นสปาปลาธรรมชาติ ไม่ใช่สปาปลาตามตู้ หรือสปาปลาที่ตกแต่งเลียนแบบธรรมชาติ
จุดกำเนิดของสปาปลาที่นี่เริ่มจากการที่พี่ “ปราโมทย์ จิตมุ่ง” เจ้าของต้นธาร รีสอร์ทฯ เห็นว่าในพื้นที่ต้นธาร รีสอร์ทฯ มีลำธารน้ำไหลผ่านตามธรรมชาติ มีปลาแหวกว่ายอยู่ในลำธารเยอะ จึงน่าทำกิจกรรมเกี่ยวกับลำธารและปลาบ้าง เพราะช่วงนั้นสปาปลากำลังเริ่มเป็นที่นิยมในบ้านเรา
“พอเราลงน้ำไปให้ปลาตอด ปลามันกลับหนีหายหมด เพราะมันตกใจ” พี่ปราโมทย์เล่าอย่างครื้นเครง
แต่เมื่อคนสามารถฝึกสัตว์ ช้าง ม้า วัว ควาย ลิง หมา แมว ให้เชื่องได้ พี่ปราโมทย์จึงคิดว่าปลาที่นี่มันก็น่าจะฝึกได้ เขาจึงนำปลาแดงจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นปลาที่ใช้ในสปาเท้า มาปล่อยลงในลำธารเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนปลาในลำธารที่นี่ให้ตอดเท้าคน
จากนั้นประมาณ 6 เดือน ไม่น่าเชื่อว่า ปลาไทยจะสามารถกลายเป็นพนักงานสปาสามารถตอดเท้าคนที่ลงไปในลำธารได้อย่างน่าประทับใจ
เรียกว่าปลาไทยไม่เพียงเรียนจบ รับปริญญาเท่านั้น แต่ยังได้เกียรตินิยมอีกด้วย เพราะมันทำได้ดีเกินคาด โดยปัจจุบันลำธารแห่งนี้มีปลาหลักๆที่ทำหน้าที่สปาปลาอยู่ 4 พันธุ์ ได้แก่ ปลาซิวใบไผ่ ปลาลายเสือ ปลาหางแดง และปลาพื้นเมืองอีกหนึ่งชนิด
เมื่อปลาสามารถตอดได้แล้ว ปัญหาก็ยังมีอีกตรงที่ปลาเหล่านี้ ตอนน้ำหลากปลามันจะแหวกว่ายหายไป ดังนั้นจึงต้องมีวิธีการเรียกปลาเหมือนพระสังข์ให้ปลาอยู่ประจำที่นี่ ซึ่งพี่ปราโมทย์ได้ใช้วิธีการใช้เสียงเรียกปลาให้มากินอาหาร จนเมื่อปลาคุ้นชินกับคนที่นี่มันก็ไม่ไปไหน แหวกว่ายหากินอยู่ที่นี่เพราะปัจจุบันมีเศษเนื้อหนังตายจากเท้าของคนเราเป็นอาหารชั้นดี ที่สำคัญคือปลา(ไทย)เหล่านี้มันถ่ายวิธีการตอดเท้าจากรุ่นสู่รุ่น เรียกว่าปลาญี่ปุ่นสอดเพียงครั้งเดียว (สัญชาติญาณ)ปลาไทยก็สามารถเรียนรู้วิชาการตอดเท้าคนได้อย่างไม่ยากเย็น
หลังสร้างปลาให้เป็นพนักงานสปาคอยตอดเท้ารักษาสุขภาพได้ พี่ปราโมทย์ได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณลำธาร มีการทำสะพานทางเดิน ทำที่นั่งแช่เท้าในลำธารใสไหลเย็น และมวลหมู่แมกไม้ที่ขึ้นเขียวครึ้ม
เอาล่ะรู้ที่มาคร่าวๆของสปาปลาที่นี่แล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาไปสัมผัสของจริงกันเสียที
เสียวนี้เพื่อสุขภาพ
“กรี๊ด วี้ด ว้าย กระตู้วู้”
ผมได้ยินเสียงสาวๆหลายๆคนร้องเสียงหลง ในขณะที่กำลังเดินไปยังจุดนั่งแช่เท้า
“พอเอาเท้าแช่น้ำก็จะรู้ว่าเขากรี๊ดกันทำไม” พี่ปราโมทย์บอก
พอผมนั่งหย่อน 2 เท้าลงน้ำก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าสาวๆเขากรี๊ดกันทำไม เพราะเมื่อเท้าแตะจุ่มลงในน้ำได้สักหน่อย ฝูงปลาต่างทยอยแหวกว่ายมา จากนั้นมันต่างรุมตอดไปทั่วเท้าของเรา สัมผัสแรกที่โดนเล่นเอาผมกระตุกสะดุ้งโหยง เหมือนถูกไฟช้อต เพราะมันเสียวเข้าไส้แถมยังจั๊กกะจี้เข้าไปถึงตับ ต้องชักเท้าหนีขึ้นมา ก่อนจะหย่อนลงไปใหม่ แล้วค่อยๆปรับความคุ้นเคย สักพักจากความเสียวเป็นความสบาย ความเพลิดเพลิน และความสนุกที่ติดตามเข้ามา
ทีนี้แหละเหมือนเท้าได้นำ ลงไปแช่ครึ่งขาให้ปลาตอดกันเพลินเลย
ขนาดของปลาที่นี่จะตัวใหญ่กว่าปลาตอดเท้าทั่วๆไปในตู้ที่นำเข้ามาจากต่างชาติ มีขนาดประมาณ ครึ่งนิ้ว-หนึ่งนิ้ว หรือบางตัวใหญ่กว่านั้น พวกมันจะทำงานกันเป็นทีมคือมารุมตอดเท้าและน่องผมอย่างเนืองแน่น ชนิดถ้าเป็นปิรันย่าขาผมคงหายเหลือแต่กระดูกเพียงไม่กี่อึดใจ
สำหรับคุณประโยชน์ของสปาปลาหรือการให้ปลามารุมตอดนั้น พี่ปราโมทย์บอกว่า ช่วงที่เราลงน้ำใหม่ๆ พอถูกปลาตอดความรู้สึกมันจะเหมือนคนถูกไฟช้อต จะช่วยทำให้เลือดสูบฉีด แล้วมันก็ทำให้เรารู้สึกจั๊กกะจี้ ช่วงที่จั๊กกะจี้มันจะช่วยเปิดกระบังลมทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ดี
นอกจากนี้ปลาพวกนี้ที่เข้ามาตอดมันยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตาย กระตุ้นเซลล์ใหม่ให้เกิด เมื่อนั่งให้ปลาตอดเท้าประมาณ 15 นาทีขึ้นไป มันก็ค่อยๆจะทยอยจากไป เพราะมันได้กำจัดแบคทีเรียที่เท้าทั้ง หน้าเท้าหลังเท้า ซอกนิ้ว ง่ามเท้า หน้าแข้ง ตาตุ่ม ไปจนเกือบจะหมด และถ้ามีคนใหม่ เท้าใหม่ ลงน้ำมามันก็จะกรูไปหาคนนั้นต่อไป
“ปลามันช่วยทำความสะอาดเท้าให้เราหมด บางทีเราไม่รู้ว่าเท้ามีกลิ่นหรือเปล่า แต่ปลามันจะรู้ ถ้าปลาอยู่ที่เท้าใครเยอะ คนนั้นเท้าเหม็น แล้วปลาจะทำลายแบคทีเรียออกให้ทั้งหมด คนที่ปวดเข่า ผู้สูงอายุ เส้นปลายประสาทของมนุษย์อยู่ที่เท้า อาจจะกระตุ้นปลายประสาทคลายอาการปวดเข่าได้” พี่ปราโมทย์บอก
และนี่ก็คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองขนอม ที่ใครต่อใครเลือกจ่ายเงินมาเสียวกันแบบยินยอมพร้อมใจ เพราะเสียวนี้นอกจากจะเพื่อสุขภาพแล้ว ยังได้ประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทยกลับไปด้วย
*****************************************
ต้นธาร รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ที่ 100 หมู่ 1 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ผู้ที่เข้าพักในรีสอร์ทสามารถใช้บริการสปาปลาได้ฟรี ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าพักจะเสียค่าบริการสปาปลา 100 บาท
ต้นธาร รีสอร์ทฯ เป็นรีสอร์ทที่มีบรรยากาศร่มรื่น นอกจากสปาปลาแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ ขี่จักรยานชมสวน แช่อ่างจากุดชี่ธรรมชาติ ล่องแพ พายเรือ เล่นน้ำ อีกทั้งยังมีอาหารเมนูสุขภาพ ปรุงด้วยพืชผักออร์แกนิก และมีโปรแกรมดูแลสุขภาพสล้างพิษตับที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลที่พัก การเดินทาง และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ 0-7546-0574,08-1945-0263,08-9650-9792