xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"บ้อท่าแก้น้ำท่วม เตือนพิจิตรรับมือน้ำทะลัก เสธ.หนั่นจวกรัฐห่วงแต่กทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวภูมิภาค-สมเด็จพระราชินีฯ-มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมสุโขทัย ส่วนการสกัดรูรั่วกันน้ำท่วมเมืองสุโขทัยคาดเสร็จวันนี้ ก่อนเดินเครื่องสูบน้ำออก เตือนพิจิตรรับมืออีก 5 วันน้ำไปถึง "ปู"ไม่กล้าพูดปีนี้ "เอาอยู่" กบอ.สั่งจับตา 4 จังหวัดเสี่ยง เสธ.หนั่นปรี๊ดแตก อัดรัฐห่วงแต่กรุงเทพฯ "โต้ง"กล้าโวปีนี้นิคมฯ ไม่ท่วม

วานนี้ (12 ก.ย.) นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 500 ชุด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตตัวเมืองสุโขทัย ที่บริเวณชุมชนประชาร่วมใจ อ.เมืองสุโขทัย

ขณะที่นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยได้เดินทางมาตรวจดูความคืบหน้าการวางกล่องลวดตาข่ายบรรจุหิน (กล่องเกเบรียล) และบิ๊กแบ็ก เพื่อสกัดน้ำยมไม่ให้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองเพิ่ม ซึ่งมีความคืบหน้าไปกว่า 70% แล้วและคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จและสามารถควบคุมสถานการณ์วิกฤตไว้ได้

นายอาจิตร์ สุวานิชวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 4 กล่าวว่า ได้วางแนวทางใหม่โดยไม่อุดรอยรั่ว แต่จะขยายพื้นที่ทำเป็นบ่อล้อมรอบรอยรั่ว ขนาดบ่อกว้าง 100 เมตร ลึก 30 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 300 ตารางเมตร โดยได้เริ่มวางกล่องลเกเบรียลเพื่อลดแรงดันของน้ำแล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นการวางบิ๊กแบ๊กด้านหน้าอีกชั้น เพื่อกั้นการรั่วซึมของน้ำ โดยบ่อดังกล่าวมีปริมาณน้ำ ใน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ จะทำให้น้ำนิ่งเท่ากันทั้งด้านในและด้านนอก และทำให้น้ำริมแม่น้ำไม่ทะลักเข้ามา ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่ข้อจำกัดมีอยู่ทั้งน้ำที่เชี่ยวและเส้นทางที่จะเข้ามาทำบ่อเป็นซอย การเดินทางลำบากมาก และเมื่อสร้างบ่อล้อมรอบเรียบร้อยแล้ว ก็จะดำเนินการซ่อมแผลรอยรั่วใต้พนังกั้นน้ำต่อ

นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ได้เตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตามจุดสำคัญต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว รอให้อุดรอยรั่วพนังคอนกรีตได้ ก็จะเร่งสูบน้ำระบายออกทันที ส่วนกรณีเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น ได้มีการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยบ้านที่ถูกน้ำท่วมจ่ายให้หลังละ 5,000 บาท ถ้าเสียหายบางส่วน จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท

สำหรับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ในวันนี้ (13 ก.ย.) จะรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบอย่างละเอียด รวมถึงการแก้ปัญหาที่ตอนนี้ถือว่าค่อนข้างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆ นี้

**ทภ.3 เร่งวาง"เกเบรียล"ตลอดทั้งคืน

รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดช่วงคืนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.สุมงคล ดิษบรรจง ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ได้นำกำลังพลกว่า 100 นายเร่งบรรจุหินใส่กล่องเหล็กแกเบรียลก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปวางทำแนวปิดล้อมกระแสน้ำยม ตรงบริเวณจุดที่พนังคอนกรีตพัง จนกระทั่งถึงช่วงเช้าวานนี้ (12 ก.ย.)

นายพิเชฐ ไทยกล้า นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี กล่าวว่า หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน และควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองได้ ก็จะมีการระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 60 เครื่อง มาวางติดตั้งเพื่อเร่งสูบระบายน้ำที่ท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร ออกไปโดยเร็ว และน้ำที่ท่วมย่านเศรษฐกิจของเมืองสุโขทัยก็จะลดลงแน่นอน

**หอฯสุโขทัยวอนรัฐเร่งนำงบแก้จุดอ่อน

นายสุชาติ ลิมปะพันธุ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตตัวเมืองสุโขทัยต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เศรษฐกิจ แต่จากการประเมินความเสียหายน่าจะอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เกิดขึ้นเฉพาะจุด ไม่ขยายวงกว้างไปยังพื้นที่อื่น หากเปรียบเทียบกับน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ความรุนแรงและความเสียหายยังน้อยกว่า เพราะน้ำท่วมปีก่อนได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก และยังไหลเข้าท่วมในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นโบราณสถานสำคัญ คือ เขตเมืองเก่าในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยด้วย แต่ปีนี้น้ำไม่ได้ท่วมในพื้นที่ดังกล่าว การท่องเที่ยวจึงไม่ได้รับผลกระทบ

"ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สุโขทัย ซึ่งถือเป็นพื้นที่รับน้ำเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก โดยอนุมัติงบประมาณมาเสริมและป้องกันในพื้นที่ที่เป็นจุดอ่อนนอกเหนือจากผนังกั้นน้ำที่มีอยู่ตามจุดต่างๆ"

**เตือนอีก5วันน้ำสุโขทัยถึงพิจิตร

นายประเวศน์ ศิริศิลป์ ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดพิจิตร กล่าวถึงสถานการณ์น้ำของลุ่มน้ำยมว่า จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่ จ.สุโขทัย ทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำจำนวนมากกำลังไหลบ่าเข้า อ.กงไกรลาศ และไหลต่อมาเข้า อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก คาดว่าอีกไม่เกิน 5 วัน มวลน้ำดังกล่าวจะไหลเข้ามาในแม่น้ำยมในเขต อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งขณะนี้ได้ออกประกาศเตือนให้ราษฎรอพยพขนย้ายสิ่งของขึ้นไปอยู่บนที่สูงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50-70 ซม.แต่ในที่ลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ที่ ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร เนื่องจากที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นที่ลุ่มต่ำกว่าตลิ่ง ถ้าน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ต.รังนก ก็คงหนีน้ำท่วมไม่พ้น แต่ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ชาวบ้านแถบนี้ ก็จะสร้างบ้านมีใต้ถุนสูงและมีเรือพายเป็นพาหนะทุกบ้าน จึงไม่น่ากังวลมากนัก ส่วนนาข้าวตอนนี้ก็เกี่ยวหนีน้ำกันไปเกือบหมดแล้ว

นายประเวศน์ มั่นใจว่า ถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติม พื้นที่ลุ่มน้ำยมพิจิตรก็น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ และคาดว่าจะรอดพ้นจากการถูกน้ำท่วมในช่วงนี้ แต่ถ้ามีฝนตกหนักลุ่มน้ำยมใน 4 อำเภอของ จ.พิจิตรก็คงหนีไม่พ้น น้ำอาจท่วมได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับพื้นที่เขตตะวันออก ซึ่งมี อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน และ อ.ทับคล้อ ที่รับน้ำจากเทือกเขาวังทอง จ.พิษณุโลก และเทือกเขาเพชรบูรณ์ น้ำป่ายังคงไหลหลากเข้าท่วมนาข้าวหลายพันไร่และบ้านเรือนหลายสิบหลังคาเรือน แต่เป็นน้ำที่มาเร็วแห้งเร็ว ซึ่งได้ทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรของราษฎร ดังนั้น ขณะนี้ได้ประกาศให้ 3 อำเภอดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว และจะได้อนุมัติเงินเข้าช่วยเหลือประชาชนต่อไป

**"ปู"สั่งจังหวัดใต้สุโขทัยเตรียมรับน้ำ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะวิกฤตเหมือนปี 2554 ว่า จุดแรกที่ต้องเร่งแก้ไขคือ จ.สุโขทัย โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปดำเนินการทั้งคืน และจะดูเหตุการณ์วันที่ 13 ก.ย.ว่าสามารถจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกันได้ให้เตรียมตั้งรับในส่วนของจังหวัดอื่นล่วงหน้าแทนที่จะรอให้น้ำมา ซึ่งได้สั่งการไปหมดแล้ว โดยวันที่ 13 ก.ย. ตนจะลงพื้นที่ไปติดตามการเตรียมงาน ไปดูความคืบหน้าที่ จ.สุโขทัย เพื่อดูพื้นที่จริงอีกครั้ง รวมถึงจะไปดูที่ จ.พิษณุโลกว่า ถึงปลายทางที่พิษณุโลกจะเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะดำเนินการได้ทันหรือไม่ เพราะระยะการเดินทางของน้ำอีก 5 วันจะถึง จ.พิจิตร แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ส่วนที่เตรียมไว้นั้น ได้ทำงานอยู่แล้ว แต่คงต้องไปดูว่าปริมาณน้ำขนาดนี้จะมีผลกระทบอะไรบ้าง ต้องให้ทีมงานไปดูเรื่องปริมาณน้ำด้วย

***ไม่ค่อยมั่นใจปีนี้ "เอาอยู่"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยังมั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่ารับมือเถอะค่ะ วันนี้ทำเต็มที่ อย่างที่บอกธรรมชาติทั้งหมด เราไม่สามารถฝืนได้ และอย่างเหตุการณ์วันนี้ก็เหมือนเปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นเครื่องที่เรากำลังทำอยู่บนเครื่องยนต์เก่าที่ทำงานมาหลายปี แล้วเรามีการใช้งบประมาณในการปรับปรุงเครื่องยนต์ยกเครื่องในบางส่วน แต่เราไม่รู้ว่าชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ใช้งานมานานจะผุพังหรือเปล่า อย่างที่สุโขทัยเป็นลักษณะของน้ำที่ลอดใต้พนังกั้นน้ำ ซึ่งตรงนี้ยากที่จะเห็น เป็นปัจจัยอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นที่ยากต่อการควบคุม คงจะต้องให้ทุกหน่วยงานในการเฝ้าระวังและสำรวจในความแข็งแรงต่างๆ

เมื่อถามต่อว่าจากการประเมินสถานการณ์มีพื้นที่ใดที่น่าเป็นห่วงนอกจากสุโขทัยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะเป็นพื้นที่น้ำจะไหลลงมาต่อ เพราะต้องดูเรื่องน้ำที่จ.แพร่ ที่ไหลมาสมทบที่สุโขทัย และจากสุโขทัยที่จะไหลลงไปต้องดูใต้สุโขทัยเป็นหลัก ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ประเมินและทำเรื่องจำลองปัญหาต่างๆ พยายามประเมินทุกสถานการณ์ และให้รายงานขึ้นมา เบื้องต้นก็ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้ไปประชุมหารือในส่วนนี้ด้วย เราจะพยายามจะทำล่วงหน้าก่อนที่น้ำจะมา

*ไม่รับปาก “นนทบุรี-ปทุมฯ” ไม่ท่วม

เมื่อถามว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ดูจากปริมาณน้ำแล้วจะมาถึง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่าถ้าปริมาณน้ำที่เกิดจากการระบายน้ำ เราเองจะพยายามควบคุม แต่ถ้าเป็นกรณีของล่องความกดอากาศหรือปริมาณน้ำฝนที่มีเยอะ ก็อาจจะมีบ้างในการท่วมขังบางพื้นที่ หรือที่เรียกว่าน้ำท่วมฉับพลัน แต่การระบายก็คงทำได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เรียกได้ว่าดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าปีที่ผ่านมา

**กบอ.จี้เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำสุโขทัย

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เป็นประธานการประชุม กบอ. ในการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่ จ.สุโขทัย

นายปลอดประสพ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุโขทัย ทรงตัวและน้ำเริ่มทรงตัวและลดระดับลงแล้ว โดยได้วางกล่องเกเบรียล และวางแนวบิ๊กแบ็กเพื่ออุดรอยรั่วพนังกั้นน้ำแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะที่วันนี้วิศวกรของกรมชลฯ และบริษัทที่เคยซ่อมประตูน้ำบางโฉมศรี จะเข้าไปประเมินการซ่อมพนังกั้นน้ำ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะที่ภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ยังบริหารจัดการได้อยู่ ไม่มีกรณีน้ำท่วมล้น หรือข้ามจากลำคลองเข้าไปยังพื้นที่ใด ส่วนในพื้นที่ที่น้ำท่วมเป็นแค่ฝนที่ตกหนักและขังเท่านั้น

"พื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัย มีความจำเป็นต้องทำแนวพนังกั้นน้ำใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 200 หลังคาเรือน โดยรัฐบาลพร้อมจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่"

***จับตา4จังหวัดหวั่นซ้ำรอยสุโขทัย

นายปลอดประสพกล่าวว่า ทาง กบอ.กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูจุดเสี่ยงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ อ่างทอง สิงห์บุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพนังกั้นน้ำในลักษณะเดียวกับ จ.สุโขทัย และมีอายุการใช้งานมานานเช่นเดียวกัน โดยในระยะยาว เห็นว่าจะต้องมีการทำพนังกั้นน้ำถาวรในจังหวัดที่ติดริมแม่น้ำทั้งหมด และยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจตรวจสอบประตูระบายน้ำว่ามีความพร้อมรับมือน้ำหรือมีจุดที่ต้องเร่งแก้ไขหรือไม่ โดยให้รายงานกลับภายใน 48 ชั่วโมง

ส่วนกรณีน้ำท่วมพื้นที่ อ.บางไทร และ อ.บางบาลใน จ.พระนครศรีอยุธยาและจังหวัดที่อยู่ในที่ราบลุ่มต่ำนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า เป็นพื้นที่ที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าน้ำจะท่วมประมาณหนึ่งเดือนครึ่งถึงสองเดือน หรือราวเดือน พ.ย.ทุกอย่างก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ

**"เสธ.หนั่น"สับรัฐบาลห่วงแต่กรุงเทพฯ

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ จ.พิจิตร ว่า ขณะนี้น้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.วังทรายพูน สามง่าม สากเหล็ก และ อ.ทับคล้อ เป็นน้ำมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ไหลลงมา ซึ่งเป็นแม่น้ำน่านและคาดว่าอีก 3 วันจะมาถึง จ.พิจิตร ทำให้สถานการณ์ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง และหากมีฝนตกเพิ่มเติมรวมกับน้ำที่ปล่อยลงมาจาก จ.สุโขทัย ที่จะมายัง จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตร ก็ทำให้เป็นห่วงว่าสถานการณ์จะซ้ำรอยปี 2554 เพราะขณะนี้มีพายุพาดผ่านจากพม่าไปยังเวียดนามด้วย ทั้งนี้ ยังไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าน้ำจะเท่ากับปี 2554 หรือไม่ แต่ก็ไม่ควรให้ท่วมตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะประธาน กบอ. ได้ระบุว่าในปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอน แต่ขณะนี้น้ำท่วมแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข

เมื่อถามว่าการทำงานของรัฐบาลล่าช้าหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็ประมาทว่าจะไม่ท่วม เพราะฉะนั้นไม่ได้เตรียมการรับไว้เต็มที่ และควรระงับการทดลองปล่อยน้ำไว้ก่อน ซึ่งมีความเป็นห่วงแต่กรุงเทพฯ แต่ที่ลุ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมีจำนวนมากกว่า ก็ต้องคิดให้รอบคอบด้วย โดยเฉพาะนายปลอดประสพ และนายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจัดสรรน้ำใน กบอ. ด้วย ควรที่จะดูภาพรวมทั้งประเทศ

"ผมยังไม่เห็นผลงานการทำหน้าที่ของ กบอ. ซึ่งควรที่จะถามผู้รู้จริงๆ รู้ภาพรวมของประเทศ ไม่ใช่ดูแต่เฉพาะกรุงเทพฯ ปทุมธานี หรือนนทบุรี ควรดูพื้นที่ลุ่มว่ามีเท่าไร ปล่อยน้ำกี่ลูกบาศก์เมตรถึงจะเข้าไปท่วมพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ชาวนาเดือดร้อนเป็นอย่างมาก"

**โบราณสถานสุโขทัย1แห่งถูกน้ำท่วม

นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ได้รายงานเข้ามาว่าน้ำที่ไหลเข้าท่วม ได้ส่งผลกระทบต่อโบราณสถาน 1 แห่ง คือ วัดราชธานี แต่โบราณสถานยังไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดกำลังเร่งสูบน้ำออกแล้ว ขณะที่สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา รายงานมาว่าโบราณสถานใน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังไม่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นตรวจสอบมาตรการป้องกันโบราณสถาน โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตั้งพนังกั้นน้ำสำหรับป้องกันน้ำแล้วคาดว่าภายในวันนี้ (3 ก.ย.) จะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ สำหรับโบราณสถานใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2554 มีทั้งหมด 130 แห่ง บูรณะเสร็จแล้ว 54 แห่ง ส่วนวัดไชยวัฒนาราม บูรณะเสร็จแล้วกว่า 40% อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และผู้บริหารกรมศิลปากรจะลงพื้นเพื่อติดความคืบหน้าการบูรณะและหารือแนวทางป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานในจังหวัดอ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา

***"โต้ง"โว 6 นิคมฯ รอดน้ำท่วม

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง กล่าวถึงการลงทุนป้องกันน้ำท่วม 120,000 ล้านบาท สำหรับลงทุนก่อสร้างคันกั้นน้ำ ขุดลอกคลอง ซ่อมประตูระบายน้ำ และยกระดับถนน ว่า ได้เบิกจ่ายไปเกือบหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ขณะนี้สร้างเกือบแล้วเสร็จใน 6 นิคมอุตสาหกรรมของเอกชน จึงมั่นใจว่าปีนี้นิคมอุตสาหกรรมจะมีความปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมแน่นอน

**"มาร์ค-ชวน"ลงเยี่ยมบางบาล-อ่างทอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่ ต.บางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมลึกประมาณ 1.10 เมตรเต็มพื้นที่ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือน ไร่นาสวนผสมได้รับความเสียหายหมด โดยคณะของนายอภิสิทธิ์ ได้ลงเรือเข้าตรวจเยี่ยมไปตามชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ข้างเคียง พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพจำนวน 500 ชุดแก่ชาวบ้าน รวมทั้งยังได้เดินทางไปที่ทำการ อบต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อแจกถุงยังชีพและให้กำลังใจผู้ที่ถูกน้ำท่วมด้วย

**สั่งทุกเขตกทม.เฝ้าระวังรับมือน้ำเหนือ

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมของกรุงเทพมหานครเพื่อรับมือกับร่องมรสุมที่จะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 14-17 ก.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ประกอบกับสถานการณ์น้ำจากทางภาคเหนือกำลังไหลมา ซึ่ง กทม.ได้กำชับทุกหน่วยงานเพิ่มการเฝ้าระวังสภาพอากาศและการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
กำลังโหลดความคิดเห็น