“ยิ่งลักษณ์” เผยสั่งการแก้น้ำท่วมอยู่ตลอด ส่ง รมต.ร่วมกองทัพช่วย ปชช. ไม่เป็นไรหัวหน้า ปชป.ลงพื้นที่ก่อน เตรียมบินไปสุโขทัย-พิษณุโลก ฝาก ปชช.ช่วยเป็นหูเป็นตา รับเร่งยื้อสุโขทัยไม่ให้ท่วม หวั่นกระทบพิจิตร-แพร่ ไม่ชัวร์ปริมณฑลไม่ท่วม มั่นระบายน้ำได้ดีกว่าปีทีแล้ว-รับปากร่วมถกแก้ไฟใต้
วันนี้ (12 ก.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำล่าสุดว่า จุดแรกที่ต้องเร่งคือพื้นที่ จ.สุโขทัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปทั้งคืน ทั้งนี้จะดูเหตุการณ์วันที่ 13 ก.ย.นี้ว่าสถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกันได้สั่งให้เตรียมตั้งรับในกรณีน้ำที่ จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย ที่จะไหลลงมา และตั้งรับจังหวัดอื่นๆ ด้วย แทนที่จะรอให้น้ำมาก็จะมีการเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งได้สั่งการไปหมดแล้ว และวันที่ 13 ก.ย.นี้จะลงพื้นที่เพื่อติดตามดูการเตรียมงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการเตรียมการจะทันหรือไม่ เพราะระยะการเดินทางของน้ำอีก 5 วันจะถึง จ.พิจิตรแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในส่วนที่เตรียมก็ได้ทำงานอยู่แล้ว แต่คงต้องไปดูเพิ่มว่าปริมาณน้ำในขณะนี้จะมีผลกระทบอะไรบ้าง คงต้องให้ทีมงานดูเรื่องปริมาณน้ำด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่จุดพื้นที่ จ.สุโขทัย แต่จะทำอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะรับมือได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่าใช้คำว่ารับมือ วันนี้ได้ทำเต็มที่ อย่างที่บอกธรรมชาติทั้งหมดเราไม่สามารถฝืนได้
“เหตุการณ์วันนี้เปรียบเสมือนเราทำอยู่บนเครื่องยนต์เก่าที่ทำงานมาหลายปี และมีการใช้งบประมาณในการปรับปรุงเครื่องยนต์ โดยยกเครื่องบางส่วน แต่เราไม่รู้ว่าชิ้นส่วนอื่นๆที่ใช้งานมานานจะผุพังหรือเปล่า อย่างลักษณะของน้ำที่ลอดใต้พนังกั้นน้ำยากที่จะเห็น ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นและยากต่อการควบคุม ต้องให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังสำรวจเพิ่มเติมความแข็งแรงในจุดต่างๆ” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
เมื่อถามว่า ระดับน้ำในเขื่อนตอนนี้เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ระดับน้ำในเขื่อนตอนนี้ยังรับน้ำได้อยู่ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว เรามีพื้นที่สำหรับรองรับน้ำได้อยู่ เมื่อถามว่า มีพื้นที่ไหนที่ยังห่วง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า พื้นที่ที่น้ำจะไหลลงมาต่อ ซึ่งตอนนี้จะดูน้ำจาก จ.แพร่ ที่จะไหลลงมาสมทบในส่วนของ จ.สุโขทัย และไหลลงไปในพื้นที่ใต้ จ.สุโขทัย ตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ประเมินทุกสถานการณ์และรายงาน เบื้องต้นได้สั่งการให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ไปประชุมหารือในส่วนนี้ด้วย เราพยายามทำล่วงหน้าก่อนที่น้ำจะมา
เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ว่าจะดูจุดไหนเป็นพิเศษ นายกฯ กล่าวว่า จะไปดูความคืบหน้าที่ จ.สุโขทัย ซึ่งได้สั่งการและติดตามตลอดเวลา แต่จะไปดูพื้นที่จริงอีกครั้ง รวมถึง จ.พิษณุโลกด้วย เมื่อถามว่านายกฯ ลงพื้นที่ช้าไปหรือไม่เมื่อเทียบกับผู้นำฝ่ายค้านที่ลงไปก่อนหน้านี้ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่ได้หมายความว่าลงพื้นที่แล้วจะแก้ปัญหาได้ทันที บางอย่างทำงานอยู่ในศูนย์ส่วนกลางด้วย และหน้างานได้ส่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ พร้อมกับประสานงานกับกองทัพตั้งแต่เกิดสถานการณ์
เมื่อถามว่า นายกฯ จะฝากบอกในส่วนของประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่างแรกกรุณาเป็นหูเป็นตาให้กับรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับน้ำ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับ จ.สุโขทัย ในเรื่องของความทรุดโทรมต่างๆ สามารถแจ้งเราได้ล่วงหน้า เราจะได้สามารถทำงานในพื้นที่ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันหากการเตือนภัยต่างๆ ที่ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติได้แจ้งเตือนไปนั้น อยากให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังและอยากให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการช่วยชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน
เมื่อถามว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ดูจากปริมาณน้ำแล้วจะมาถึง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องบอกว่าถ้าปริมาณน้ำที่เกิดจากการระบายน้ำ เราเองจะพยายามควบคุม แต่ถ้าเป็นกรณีของล่องความกดอากาศหรือปริมาณน้ำฝนที่มีเยอะก็อาจจะมีบ้างในการท่วมขังบางพื้นที่ หรือที่เรียกว่าน้ำท่วมฉับพลัน แต่การระบายก็คงทำได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เรียกได้ว่าดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าปีที่ผ่านมา เมื่อถามว่า ขณะนี้การทำงานในระดับท้องถิ่นถึงใจนายกฯ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ท้องถิ่นเราต้องบอกว่าต้องช่วยกันบูรณาการให้มากกว่านี้ เพราะบางส่วนเราจะไม่ได้รู้ในส่วนของโครงสร้างท้องถิ่น ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องสำรวจร่วมกับท้องถิ่นด้วย บางครั้งเราไม่ได้รู้ในส่วนของความแข็งแรงในส่วนที่ท้องถิ่นทำ ดังนั้นจึงต้องมาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ส่วนหนึ่งคงต้องเร่งในการประสานงานและปรับปรุงร่วมกัน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตอบรับเงื่อนไขของฝ่ายค้านที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมรับฟังข้อเสนอแนะ และแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ใช่ ยินดี และไม่รู้สึกกังวลอะไร เพราะถือเป็นวาระของชาติ และเรายินดีรับฟังจากทางผู้นำฝ่ายค้านหรือสมาชิก ซึ่งบางครั้งขอเรียนว่าเรื่องความมั่นคง เราไม่สะดวกที่จะฟัง ท่ามกลางที่สาธารณะมาก เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง ถ้ามีการพูดคุยแนะนำเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลและรับฟัง เมื่อถามว่า เพราะอะไรถึงเพิ่งตัดสินใจตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเสียงสูงว่าเปล่า ไม่ได้เพราะอะไร
