ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- แพทย์ศิริราช และทีมรักษา รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดแถลงยันอาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ทุกอย่างดีขึ้นตอบสนองต่อการรักษา และถือว่าผ่านพ้นวิกฤตแล้ว ขณะนี้อยู่ในช่วงพักฟื้นซึ่งต้องใช้เวลาสำหรับผู้สูงอายุ ไม่จำเป็นต้องย้ายไปรักษาที่ รพ.ศิริราช แต่เตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลาหากมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นเกิดขึ้น
วันนี้ (7 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้วยภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมด้วย รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลศิริราช นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และทีมแพทย์รักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ รวมถึงลูกศิษย์ใกล้ชิด ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ทางคณะแพทย์ศิริราชพยาบาล และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ร่วมมือกันวางแผนในการดูแลปัญหาการอาพาธหลวงพ่อคูณมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่มีปัญหาปอดอักเสบเกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการสำลักอาหาร ส่งผลให้สารคัดหลั่งลงไปในปอด ซึ่งถือว่าอาการดังกล่าวรุนแรงมาก หากเป็นคนธรรมดาที่ร่างกายไม่แข็งแรงมากนัก ถือเป็นการเจ็บป่วยที่จะเกิดภาวะวิกฤตได้ง่าย
ในช่วงที่ผ่านมา แพทย์เราสื่อสารกันมาโดยตลอด โดยทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้แจ้งข่าวให้ทราบความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด และได้วางแผนการรักษาร่วมกันทั้งการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร ซึ่งผลการเอกซเรย์ต่างๆ ก็ถูกส่งเข้าไปยังศิริราชพยาบาล พร้อมกับรายงานความคืบหน้า ทางศิริราชจะทราบตลอด โดยมีช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้อาจจะวิกฤตในเรื่องระบบการหายใจหลวงพ่อคูณ
อย่างไรก็ตาม โดยสภาพร่างกายของท่านที่อายุย่าง 90 ปี และมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งสมอง หัวใจ และวัณโรคปอด เวลาเจ็บป่วยก็จะรุนแรงโดยเฉพาะการอักเสบที่ปอดส่วนล่างของท่านทั้งซ้าย และขวา คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 30-50% ของเนื้อปอดคนปกติทั่วไป ฉะนั้น การฟื้นตัวต่างๆ จึงต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะปฏิกิริยาการอักเสบครั้งนี้รุนแรงมาก มีการลุกลามอักเสบเข้าไปที่เยื่อหุ้มปอดทำให้เกิดน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
ทางคณะแพทย์ได้ทำการตรวจน้ำที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มปอด พบว่า สารน้ำนั้นเป็นปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ แต่สารน้ำนั้นยังไม่เป็นหนอง หรือจะทำให้เกิดความรุนแรงมากไปกว่านี้ หลังจากให้ยา และการดูแลเรื่องระบบหายใจและการไหลเวียนของร่างกายแล้ว อาการต่างๆ ก็ค่อยคลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่งคงต้องใช้เวลาพอสมควรสำหรับผู้สูงอายุ
กระทั่งเมื่อเช้าวานนี้ (6 ธ.ค.) ทุกอย่างดูจะผ่านช่วงวิกฤตนั้นมา และอาการค่อยๆ ดีขึ้น จนเมื่อคืนนี้ทราบว่าท่านจำวัดได้ดีขึ้น ไม่มีไข้ การเปลี่ยนแปลงของระบบการหายใจ การควบคุมน้ำตาลในเลือด ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ก็ถือว่าการตอบสนองต่อการรักษาเป็นไปในทางที่ดีขึ้น และถือว่าผ่านวิกฤตการเจ็บป่วยรุนแรงนั้นมาแล้ว
ส่วนการตรวจอาการเมื่อเช้านี้ (7 ธ.ค.) หลวงพ่อรู้ตัวดี ตอบสนองดี และระบบการหายใจ การไหลเวียนโลหิตคงที่ การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายดีขึ้น ระดับออกซิเจนในเลือดคงที่ใกล้เคียงคนปกติทั่วไป คณะแพทย์จึงประชุมร่วมกัน และลงความเห็นร่วมกันว่า การดูแลรักษานั้นเราทำมาถูกทาง และถูกต้องแล้ว โดยทางศิริราชจะสื่อสารกับทีมแพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาตลอด และมีข้อตกลงกันว่า ถ้าถึงระยะไหนที่อาจจะทำให้การดูแลรักษาหลวงพ่อเกิดประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงผลประโยชน์คนไข้เป็นหลัก หรือเกิดความปลอดภัยก็จะเลือกในสิ่งนั้น
ในปัจจุบันนี้ ได้วางข้อตกลงกันไว้ว่า หากถึงจุดหนึ่ง เช่น ไข้สูง ไข้ไม่ลดลง หรือการรู้ตัว การไหลเวียนโลหิตของหลวงพ่อแย่ลง ทางแพทย์ศิริราชก็จะรับไม้ต่อจากทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมไว้ตลอดอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงที่หลวงพ่อคูณอาพาธ แต่ในขั้นต้นนี้คิดว่าทางโรงพยาบาลมหาราชฯ ดูแลมาดี และต่อเนื่องมาอย่างดี ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้นอาจจะช้าเล็กน้อยสำหรับคนสูงอายุ
“ในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่คิดว่าจะเป็นอันตรายกับหลวงพ่อได้ง่าย ทางทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชฯ กับโรงพยาบาลศิริราช ก็ตกลงกันว่าจะวางแผนการักษาต่อไปอย่างไร และจะเคลื่อนย้ายกันไปอย่างไร แต่ปัจจุบันนี้ คิดว่าการดูแลรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจะเป็นประโยชน์ต่อท่านมากที่สุด” รศ.นพ.นิธิพัฒน์กล่าว
ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้รับความกรุณาจากอาจารย์แพทย์ของศิริราชพยาบาล เดินทางมาร่วมดูแลหลวงพ่อคูณ กับทีมแพทย์ของทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งได้ให้การรักษามาอย่างเต็มที่ จึงถึงขณะนี้หลวงพ่ออยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกาย อยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันส่งกำลังใจมาให้หลวงพ่อหายจากอาการอาพาธโดยเร็วด้วย