คณะลูกศิษย์บ้านไร่รุดเยี่ยมให้กำลังใจ “พ่อคูณ” แพทย์ยังเฝ้าระวังใกล้ชิด

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” อาการอาพาธโดยรวมดีขึ้น ไม่มีไข้ แต่ยังมีปัญหาเสมหะมากต้องดูดออกบ่อย และใส่สายออกซิเจนตลอดเวลา ส่วนสภาพปอดดีขึ้นมากแต่อักเสบอยู่ แพทย์ยังเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนใกล้ชิด ล่าสุด พยาบาลนำป้าย “งดเยี่ยม” ติดหน้าห้อง ด้านคณะลูกศิษย์ใกล้ชิดจากบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด กว่า 10 คน เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจหลวงพ่อคูณ ดีใจหลวงพ่ออาการดีขึ้น

วันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธ ของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้วยภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณอีกครั้งพร้อมให้พยาบาลทำการเคาะปอด และพ่นยาขยายหลอดลมให้หลวงพ่อคูณเนื่องจากมีเสมหะมาก

ขณะที่บรรยากาศหน้าห้องพัก ยังมีประชาชน ลูกศิษย์เดินทางมากราบสักการะและลงนามในสมุดเยี่ยมอาการอาพาธอย่างต่อเนื่อง ส่วนบริเวณหน้าประตูทางเข้าห้องพักผู้ป่วยหลวงพ่อคูณ เจ้าหน้าที่พยาบาลได้นำป้าย “งดเยี่ยม” มาติดไว้เป็นครั้งแรก และในวันนี้ คณะลูกศิษย์ใกล้ชิดจากบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กว่า 10 คน ได้พร้อมใจกันเดินทางมากราบนมัสการเยี่ยมอาการอาพาธพ่อคูณเพื่อเป็นกำลังใจให้หลวงพ่อคูณ พร้อมลงนามสมุดเยี่ยม โดยทุกคนต่างดีใจที่ทราบข่าวว่า หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้น

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยภาพรวมจนถึงขณะนี้ดีขึ้น ไม่มีไข้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องเสลดเสมหะที่มีอยู่ค่อนมาก และยังอ่อนเพลีย ล่าสุด ได้ให้พยาบาลทำการเคาะปอด และดูดเสมหะ และพยายามให้ท่านไอออกมาเองให้ได้ รวมถึงให้ยาขยายหลอดลม เพื่อให้เสมหะออกมาให้มากที่สุด ซึ่งยังต้องให้ท่านใส่สายออกซิเจนอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้หายใจได้สะดวก และคงต้องการดูแลรักษาให้ท่านได้พักผ่อนให้มาก หากแข็งแรงเสมหะก็จะหายไปเอง

ส่วนสภาพปอดตอนนี้ดีขึ้นมาก และยังอักเสบอยู่ แต่เนื่องจากท่านมีพยาธิสภาพในปอด ซึ่งเป็นลักษณะสภาพปกติเดิมของท่าน คงจะให้ดีกว่านี้ไปไม่ได้ เช่น เรื่องถุงลมโป่งพอง อันนี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามอายุ และมีเนื้อปอดที่ถูกทำลาย หรือบางส่วนแฟบจากวัณโรคปอดที่รักษาหายไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็คงจะมีสภาพเหมือนเดิม ซึ่งการรักษาปอดอักเสบนั้นอย่างน้อยๆ ขอดูอีก 1 สัปดาห์ก่อนประเมินอาการ

นพ.พินิศจัย กล่าวว่า จากการตรวจล่าสุดยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด ฉะนั้น ทีมแพทย์ให้การรักษาแบบประคับประคอง และยึดแนวทางเดิม พร้อมช่วยบริหารให้ปอดสามารถขับเสลด เสมหะออกมาให้ได้ โดยใช้เครื่องมือที่เป็นพิเศษสำหรับหลวงพ่อ และทำกายภาพเล็กน้อยอยู่บนเตียง เช่น นวดแขนขา และยกแขนขาบ้างเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และไม่ให้ข้อติด แต่ยังไม่ให้ลุกเดินเนื่องจากท่านยังไม่แข็งแรง

อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศว่า ตอนนี้หลวงพ่อดีขึ้นเยอะ แต่ยังคงต้องอยู่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลอีกสักระยะหนึ่ง น่าจะสักประมาณอีก 1 สัปดาห์ เราถึงพอที่จะบอกได้ว่าจะกำหนดให้ท่านกลับวัดบ้านไร่ได้เมื่อใด ซึ่งตรงนั้นทีมแพทย์คงจะปรึกษากับทางลูกศิษย์อีกครั้งหนึ่ง

“ในระหว่างนี้หลวงพ่อดีขึ้น เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะตามมาได้ เพราะช่วงนี้ถึงท่านดีขึ้น แต่ท่านก็ยังไม่แข็งแรง หรือโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำซ้อนเข้าไปใหม่ หรือมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ซึ่งเราก็เฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว” นพ.พินิศจัยกล่าว