แพทย์ชี้อาการ “พ่อคูณ” น่าห่วง ปอดอักเสบไม่ดีขึ้น ต้องเฝ้าติดตามใกล้ชิด

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ล่าสุดบ่ายวันนี้ แพทย์ระบุอาการปอดอักเสบ ไม่ดีขึ้น อยู่ในเกณฑ์น่าห่วง มีอาการอ่อนเพลีย ซึม มีไข้ และหอบเป็นพักๆ ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดทุกนาที ชี้ช่วง 1 สัปดาห์นี้เกิดอะไรขึ้นได้ตลอดเวลา ห่วงภาวะแทรกซ้อน สั่งงดเยี่ยมเด็ดขาด รวมสื่อมวลชนห้ามเข้าบันทึกภาพ หวั่นติดเชื้อซ้ำอีก เหตุพ่อคูณมีพยาธิสภาพในปอดมากอยู่แล้ว

ช่วงบ่ายวันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด อาการโดยรวมยังทรงตัว คณะแพทย์ยังคงเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดมีการจัดทีมแพทย์สลับกันเข้ามาตรวจตลอดทุก 2 ชั่วโมง บริเวณหน้าห้องพักมีเจ้าหน้าที่พยาบาลคอยเฝ้าไข้ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) และเข้าไปตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณทุกระยะ โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมอย่างเด็ดขาด บรรดาประชาชนญาติผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่ทราบข่าวได้ขึ้นมาลงนามในสมุดเยี่ยมหน้าห้องอย่างต่อเนื่อง ทุกคนมีความเป็นห่วงหลวงพ่อ และขอให้หายจากอาการอาพาธโดยเร็ว

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจอาการอาพาธล่าสุดว่า อาการในภาพรวมยังทรงตัวอยู่เช่นเดิม และมีอาการอ่อนเพลีย ซึม และมีไข้ต่ำๆ ส่วนอาการทางปอดอักเสบคล้ายเดิมไม่ดีขึ้นมาก ตอนนี้สั่งงดเยี่ยมอย่างเด็ดขาด รวมถึงสื่อมวลชนไม่อนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพในห้องพักของท่านซึ่งเป็นห้องปลอดเชื้อ เพื่อเกรงจะได้รับเชื้อโรคเข้าไป ทำให้หลวงพ่อท่านแย่ลงได้ เนื่องจากขณะนี้ ท่านมีพยาธิสภาพในปอดมากอยู่แล้ว หากได้รับเชื้อโรคเข้าไปอีกจะทำให้ติดเชื้อซ้ำซ้อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายใหญ่หลวงของหลวงพ่อคูณมาก

“ฉะนั้น ช่วงนี้ต้องเฝ้าระวังเรื่องปอดเป็นหลัก เพราะจากการตรวจอาการโรคประจำตัวอื่นๆ ยังปกติ ทั้งหัวใจ และสมอง ส่วนการปรับเปลี่ยนตัวยาใหม่นั้นยังอยู่ในการพิจารณาของคณะแพทย์ แต่ตอนนี้ยืนยันการรักษาตามแนวทางเดิมไปก่อน” นพ.พินิศจัย กล่าว

ด้าน นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมโรคปอด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หนึ่งในทีมแพทย์รักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า การสำลักน้ำย่อย และน้ำดีทำให้หลวงพ่อคูณ เกิดอาการปอดอักเสบขึ้นมานั้น ตอนนี้ทีมแพทย์สามารถดูดเสมหะออกมาได้มากขึ้น จากการตรวจสภาพปอดของหลวงพ่อคูณ ล่าสุดพบว่า ปอดยังมีการอักเสบอยู่ ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ และอาจจะมีการติดเชื้ออยู่ด้วย อาการตอนนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง ซึ่งคงต้องเฝ้าติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิดในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์นี้ว่าจะมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นเกิดขึ้นหรือไม่

สำหรับการรักษาปอดอักเสบนั้น ทางทีมแพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะกลุ่มยาฆ่าเชื้อในการรักษาซึ่งมีฤทธิ์ครอบคลุมค่อนข้างกว้าง และเฝ้าติดตามดูอาการเป็นระยะ หากช่วงนี้หลวงพ่อมีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น หรือไอไม่ออกอีก อาจจะทำให้มีการสำลัก หรือมีเสลดขึ้นมาอีก การรักษาก็จะพิจารณาเป็นครั้งๆ ตามอาการที่เป็น เพราะตอนนี้หลวงพ่อก็มีอาการหอบเป็นพักๆ และในช่วง 1 สัปดาห์นี้ อาการต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งเราต้องเฝ้าติดตามกันทุกนาทีในช่วงนี้