xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ โคราชโดดอุ้มรีสอร์ตฮุบป่าวังน้ำเขียว ให้เปิดกิจการได้-สั่งปลดป้ายต้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ว่าฯ นครราชสีมา โดดอุ้มนายทุนฮุบป่า สั่งปลดป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวหยุดสนับสนุนรีสอร์ทบุกรุกป่า อุทยานแห่งชาติทับลาน ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -ผู้ว่าฯ โคราชโดดอุ้มนายทุนฮุบป่า ไฟเขียวให้รีสอร์ตบุกรุกป่าวังน้ำเขียวฉาวโฉ่ ประกอบกิจการต่อไปได้ตามปกติจนกว่าจะมีความชัดเจนหรือมีคำสั่งศาล พร้อมสั่งปลดทิ้งป้ายรณรงค์ต่อต้านหยุดสนับสนุนรีสอร์ตบุกรุกป่าอุทยานฯ ทับลาน อ้างจะเกิดการตอบโต้กันและสร้างความสับสนให้ ปชช. นักท่องเที่ยว เตรียมเรียก 3 หน่วยงานหลัก “อุทยานฯ-ป่าไม้-ส.ป.ก.” ถกเร่งสางปัญหาที่ดินวังน้ำเขียวให้จบปี

วันนี้ (28 พ.ย.) นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 2/2555 ถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน, ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง และเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในเขตพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว, อ.ครบุรี, อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ว่า

สำหรับปัญหาในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวมีหลายหน่วยงานที่เข้าไปดำเนินการ และเรื่องที่ดินก็ใช้กฎหมายหลายฉบับ ทุกภาคส่วนต้องมาหาข้อยุติในการดำเนินการให้ชัดเจนก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของแนวเขต ก่อนที่จะไปบังคับใช้กฎหมายกับภาคประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าอำนาจในการดำเนินการอยู่ที่ส่วนกลาง ทั้งในส่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมป่าไม้

ฉะนั้นหน่วยงานหลักๆ ทั้ง 3 หน่วยนี้ต้องมาบูรณาการกัน เราเองในส่วนพื้นที่ก็พร้อมจะดำเนินการตามนโยบายของส่วนกลาง ซึ่งได้เสนอเรื่องเหล่านี้เข้าไปยังส่วนกลางแล้ว รวมถึงได้นำเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จ.สุรินทร์ และเสนอต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการรองรับให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่แล้ว ถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามแล้ว คาดว่าส่วนกลางคงกำลังหาแนวทางอยู่เช่นเดียวกันที่จะแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

ต่อข้อถามถึงแนวทางการดูแลประชาชนและนายทุนเจ้าของรีสอร์ตที่บุกรุกป่าทางจังหวัดฯ ได้ดำเนินการอย่างไร นายวินัยกล่าวว่า ในส่วนที่ศาลตัดสินไปแล้ว คดีถึงที่สุดแล้วก็ให้ดำเนินการตามที่ศาลตัดสินไป ส่วนที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ หรือ ในส่วนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ก็ขอให้ทางราชการมีความชัดเจนก่อนเข้าไปดำเนินการ ฉะนั้นในกลุ่มนี้รีสอร์ตก็ยังสามารถประกอบกิจการได้ถ้ายังไม่มีคำสั่งศาล แต่ได้กำชับไปว่าต้องไม่มีการขยายพื้นที่ก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นมา และมีการบุกรุกป่าเพิ่มเติมอย่างเด็ดขาด ขอให้มีเฉพาะที่ดำเนินการอยู่เท่านั้นจนกว่าจะมีความชัดเจน หรือ มีคำสั่งศาล

“ความจริงแล้วในส่วนของราชการเอง และรัฐบาลก็อยากแก้ไขปัญหานี้ด้วยความนุ่มนวล แต่ว่ากฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ฉะนั้นหากท่านทำถูกกฎหมาย ท่านสามารถประกอบอาชีพดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข แต่ถ้าท่านไปบุกรุกทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ท่านก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย” นายวินัย กล่าว

นายวินัยกล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้รับการร้องเรียนเรื่องป้ายคัตเอาต์ประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานอุทยานแห่งชาติทับลานในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ที่มีการเขียนข้อความลักษณะให้งดการบุกรุกทำลายป่า งดให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในเขตอุทยาน เช่นป้ายที่ระบุข้อความ “หวงป่าไว้ฟอกปอด เลิกอุดหนุนรีสอร์ตในเขตอุทยาน” และ “หยุดอุดหนุนรีสอร์ตในเขตอุทยาน หยุดสนับสนุนการบุกรุกป่า” เป็นต้น

ฉะนั้นเมื่อมันยังไม่ชัดเจนป้ายทั้ง 2 ป้ายนี้ไม่ควรที่จะมี ขอให้มีความชัดเจนก่อนไม่เช่นนั้นจะทำให้แต่ละฝ่ายพยายามขึ้นป้ายมาแข่งกัน พี่น้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยวก็สับสนในการที่จะเข้าไปใช้บริการหรือจะประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ได้ให้นโยบายไปว่าขอให้ปรับข้อความให้ดูแล้วน่าจะมีสาระสำคัญในเรื่องของการป้องกันบุกรุกป่าจะดีกว่า

ทั้งนี้ ในปี 2556 จะเร่งแก้ไขปัญหา อ.วังน้ำเขียว เพื่อให้มีความชัดเจนในเรื่องที่ดินของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งจะมีการเรียกทั้ง 3 หน่วยงานเข้ามาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในเร็วๆ นี้ เพราะปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อมานานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวหยุดสนับสนุนรีสอร์ตบุกรุกป่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานชี้แจงในที่ประชุมว่า ป้ายประชาสัมพันธ์ดังกล่าวจัดทำขึ้นตามนโยบายและคำสั่งของอธิบดีกรมอุทยานฯ จึงไม่อยากให้มีการรื้อถอน ขณะที่ผู้ว่าฯ ยืนยันว่าควรมีการเปลี่ยนแปลง หากไม่รื้อถอนก็ควรปรับเปลี่ยนข้อความใหม่ให้มีความหมายกลางๆ ในลักษณะการรณรงค์ป้องกันบุกรุกทำลายป่า ไม่ควรระบุเจาะจงมีคำว่า รีสอร์ต จากนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นด้วยตามความประสงค์ของผู้ว่าฯ นครราชสีมา

นายวินัยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ยังให้ความสำคัญต่อการปราบปรามกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูง ซึ่งมีสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยได้ให้ดำเนินการมาตรการ 2 ส่วน คือ ให้ตั้งชุดเฉพาะกิจโดยผสานกำลังกันระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองร่วมกันดำเนินการ และทางอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่นต้องให้ความร่วมมือในการดำเนินงานและเป็นหูเป็นตาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่าให้เข้าไปตัดไม้ทำลายป่าโดยเฉพาะไม้พะยูง หากใครเข้าไปดำเนินการโดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่เราจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯนครราชสีมา





กำลังโหลดความคิดเห็น