สมช.แจงยุทธศาสตร์แก้ปัญหาคนหนีเข้าเมือง ตั้งเป้าจัดระเบียบคนเก่า-ป้องกันคนใหม่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สมช.เชิญหน่วยงานราชการ-ภาคประชาชนภาคเหนือรับฟังยุทธศาสตร์แก้ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบที่เชียงใหม่ แจงตั้งเป้าบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เล็งจัดระบบคนเก่าดั้งเดิมให้ถูกต้อง ส่วนผู้ลักลอบเข้ามาใหม่ต้องควบคุม พร้อมเตรียมดึงเพื่อนบ้านร่วมมือแก้ปัญหา ชี้ต้องสร้างสมดุลให้อยู่ได้อย่างเหมาะสม-ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

นายอนุสิษฐ คุณากร รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงยุทธศาสตร์แก้ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ณ โรงแรมอโมรา ท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในวันนี้ (21 พ.ย.) ว่า การประชุมสัมมนาดังกล่าวเป็นการชี้แจงยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบ ต่อหน่วยงานราชการและภาคประชาชนใน จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือ

ยุทธศาสตร์ดังกล่าวซึ่งได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลแล้วเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นแนวทางการดำเนินงานที่ สมช.เตรียมที่จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองและผู้ที่ลักลอบอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยในขณะนี้แนวยุทธศาสตร์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างการปรับปรุงกลไกการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งอยู่ในระหว่างการทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเริ่มนำยุทธศาสตร์มาใช้ปฏิบัติ

นายอนุสิษฐกล่าวว่า สาระสำคัญของยุทธศาสตร์นี้จะเน้นการบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองในประเทศเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญใน 4 ด้าน ได้แก่ 1. ผู้ที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในประเทศตั้งแต่ดั้งเดิม 2. กลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมืองใหม่ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะต้องมีแนวทางการบริหารจัดการเชิงรุกที่เหมาะสม อย่างเช่นการนำเข้าสู่ระบบตามกฎหมาย หรือการสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบเข้าสู่ประเทศ ส่วน 3. กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ และ 4. กลไกการบริหารจัดการ จะมุ่งเน้นที่การอาศัยการสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหา โดยที่ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ และการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการตามขั้นตอนต่างๆ ที่จะเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินการต่อไปในอนาคต

รองเลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หลบหนีเข้าเมืองและแรงงานต่างด้าวได้แทรกซึมและมีบทบาทอยู่ในสังคมในด้านต่างๆ ซึ่งส่งผลทั้งในแง่บวกและลบต่อสังคมไทย ความพยายามในการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวมีการจัดการอย่างถูกต้อง เป็นระบบ และสร้างความสมดุลทั้งในแง่ของสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ของผู้หลบหนีเข้าเมือง กับผลประโยชน์ของชาติทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ซึ่งในเบื้องต้นยุทธศาสตร์ที่กำหนดขึ้นนี้อาจจะยังไม่ใช่แนวทางเบ็ดเสร็จของการแก้ปัญหา หากแต่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการมากที่สุด

ทั้งนี้ เลขาธิการ สมช.ระบุว่า การกำหนดยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองไม่ได้หมายความว่าจะมีการกวาดล้างหรือผลักดัน แต่แน่นอนว่าการผลักดันจะเป็นแนวทางหนึ่งที่นำมาใช้ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ที่ลักลอบเข้ามาใหม่ ส่วนกลุ่มที่อยู่ในประเทศอยู่แล้วนั้นจะเน้นไปที่การนำเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและควบคุม ซึ่งในอนาคตเมื่อมียุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว เชื่อว่าการแก้ไขและบริหารจัดการเกี่ยวกับปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองจะมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง