ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ไอบีเอ็ม” ชี้เมืองพัทยาต้องแก้ 7 ปัญหาหลัก เพื่อขับเคลื่อนสู่ความเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ย้ำด้านความปลอดภัย และปรับปรุงระบบการจราจร ด้านนายกเมืองพัทยา น้อมรับพร้อมนำไปต่อยอดในการพัฒนา
ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด นำคณะผู้บริหารจากไอบีเอ็มเข้าร่วมกิจกรรมการแถลงข่าวผลการสรุป และแผนยุทธศาสตร์โครงการไอบีเอ็ม สมาร์ทเตอร์ ซิตี้ ชาเลนจ์ ชลบุรี หลังจากที่ไอบีเอ็มนำคณะผู้บริหารระดับสูง จำนวน 5 คน ลงพื้นที่เมืองพัทยา และท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และสำรวจบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาส่วนต่างๆ
ที่ผ่านมา ผู้บริหารเมืองพัทยา และท่าเรือแหลมฉบังจะมีการพัฒนาร่วมกับไอบีเอ็ม ทั้ง 2 โครงการ คือ โครงการพัฒนาการสร้างระบบรักษาความปลอดภัย สาธารณะและระบบจัดการจราจรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นภายในเมืองพัทยา และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลอจิสติกส์สำหรับท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์แห่งภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมี ผอ.การท่าเรือแหลมฉบัง นายกเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง
ทางคณะผู้บริหารไอบีเอ็มได้เสนอแนะปัญหาที่พบในการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลเมืองพัทยาตลอด 3 สัปดาห์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาให้ยั่งยืนด้วยกัน 7 ประเด็น คือ
1.ด้วยเมืองพัทยามีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ระบบสาธารณูปโภคโตไม่ทันตามเมือง
2.งบประมาณในการบริหารจัดการของเมืองพัทยาไม่สมดุล เพราะเมืองพัทยามีประชากรแฝงมากกว่าประชาชนชาวเมืองพัทยาจริง
3.หน่วยงานในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ยังมีไม่เพียงพอ
4.การทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนยังไม่สมดุลกัน
5.การจัดการระบบการจราจรเมืองพัทยากับเจ้าหน้าที่ยังขาดการประสานงานที่ดี
6.นักท่องเที่ยว และประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
และ 7.ระบบขนสงมวลชนยังไม่มีการจัดการที่เป็นระบบ
นางพรรณสิรี กล่าวว่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดจากวิสัยทัศน์ผู้บริหารเมืองพัทยาในการพัฒนาเมืองพัทยาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก จึงได้เสนอแนะแผนงานในการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง และผู้นำภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันกำหนดลำดับความสำคัญของความต้องการต่างๆ ของเมือง และเทคโนโลยีระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาทั้งระยะสั้น และระยาวอย่างรอบด้าน ในเรื่องการคมนาคมขนส่ง การดูแลรักษาความปลอดภัย และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว
ด้านนายอิทธิพล กล่าวว่า เมืองพัทยาพร้อมจะนำข้อมูลของผู้บริหารไอบีเอ็มไปต่อยอดในการพัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องของระบบลอจิสติกส์ ความปลอดภัย และการจารจร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืนต่อไป
ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด นำคณะผู้บริหารจากไอบีเอ็มเข้าร่วมกิจกรรมการแถลงข่าวผลการสรุป และแผนยุทธศาสตร์โครงการไอบีเอ็ม สมาร์ทเตอร์ ซิตี้ ชาเลนจ์ ชลบุรี หลังจากที่ไอบีเอ็มนำคณะผู้บริหารระดับสูง จำนวน 5 คน ลงพื้นที่เมืองพัทยา และท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และสำรวจบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาส่วนต่างๆ
ที่ผ่านมา ผู้บริหารเมืองพัทยา และท่าเรือแหลมฉบังจะมีการพัฒนาร่วมกับไอบีเอ็ม ทั้ง 2 โครงการ คือ โครงการพัฒนาการสร้างระบบรักษาความปลอดภัย สาธารณะและระบบจัดการจราจรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นภายในเมืองพัทยา และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลอจิสติกส์สำหรับท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์แห่งภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมี ผอ.การท่าเรือแหลมฉบัง นายกเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง
ทางคณะผู้บริหารไอบีเอ็มได้เสนอแนะปัญหาที่พบในการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลเมืองพัทยาตลอด 3 สัปดาห์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาให้ยั่งยืนด้วยกัน 7 ประเด็น คือ
1.ด้วยเมืองพัทยามีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ระบบสาธารณูปโภคโตไม่ทันตามเมือง
2.งบประมาณในการบริหารจัดการของเมืองพัทยาไม่สมดุล เพราะเมืองพัทยามีประชากรแฝงมากกว่าประชาชนชาวเมืองพัทยาจริง
3.หน่วยงานในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ยังมีไม่เพียงพอ
4.การทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนยังไม่สมดุลกัน
5.การจัดการระบบการจราจรเมืองพัทยากับเจ้าหน้าที่ยังขาดการประสานงานที่ดี
6.นักท่องเที่ยว และประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
และ 7.ระบบขนสงมวลชนยังไม่มีการจัดการที่เป็นระบบ
นางพรรณสิรี กล่าวว่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดจากวิสัยทัศน์ผู้บริหารเมืองพัทยาในการพัฒนาเมืองพัทยาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก จึงได้เสนอแนะแผนงานในการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง และผู้นำภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันกำหนดลำดับความสำคัญของความต้องการต่างๆ ของเมือง และเทคโนโลยีระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาทั้งระยะสั้น และระยาวอย่างรอบด้าน ในเรื่องการคมนาคมขนส่ง การดูแลรักษาความปลอดภัย และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว
ด้านนายอิทธิพล กล่าวว่า เมืองพัทยาพร้อมจะนำข้อมูลของผู้บริหารไอบีเอ็มไปต่อยอดในการพัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องของระบบลอจิสติกส์ ความปลอดภัย และการจารจร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืนต่อไป