xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กอ๊อด” ลงใต้พรุ่งนี้ ชี้ 13 ส.ค. ต้องมีเลขาฯ-ไทยร่วมเวียดนาม ดูความมั่นคงลุ่มน้ำโขง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
“ยุทธศักดิ์” เผยไทย-เวียดนาม ร่วมมือรักษาความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขง พร้อมประสานด้านการข่าว-ยัน 13 ส.ค.ต้องได้ 2 เลขาฯ มีความชำนาญ ร่วม ศปก.จชต. เตรียมลงพื้นที่แจงนโยบายพรุ่งนี้ เชิญผู้ว่าฯ 3 จว.ชายแดนใต้เข้าถกงบฯ เล็งบูรณาการข่าวรวมอยู่ที่ศูนย์กลางก่อนเผยแพร่

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังคณะทำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างไทย-เวียดนามเข้าพบว่า จากการพบปะเราจะมีความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงด้วยกัน เพราะเราเป็นชาติลุ่มแม่น้ำโขงด้วยกัน ต้องให้ความร่วมมือกัน ต่อไปการประสานงานด้านการข่าวจะใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงการคมนาคมร่วมกัน แลกเปลี่ยนข่าวสารที่เป็นประโยชน์

พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงการหาตัวบุคลากรมาอยู่ในโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตัวเลขาธิการศูนย์ฯ ตอนนี้กำลังจะถามไปที่ ศอ.บต.กอ.รมน.ว่าจะส่งใครมาเป็นเลขาฯ ตนได้บอกนายกฯ แล้วว่าจะขอเลขาฯ 2 คน ซึ่งต้องเป็นคนที่ทำงานประจำและรู้เรื่องดี เช่น พล.ต.นักรบ บุญบัวทอง ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กอ.รมน. หรือหากต้องการผู้ใหญ่กว่านี้ ก็อาจเป็นใครสักคนที่เข้าใจเรื่องนี้ และตนได้บอก ผบ.ทบ.ว่าให้ส่งรายชื่อคนที่จะมาทำงานในคณะทำงานนี้ภายในวันจันทร์ที่ 13 ส.ค.เพราะตนจะเริ่มทำงานแล้ว

ทั้งนี้ การเดินทางลงพื้นที่พร้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในวันที่ 10 ส.ค. พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เพราะต้องการไปชี้แจงนโยบายให้ระดับปฏิบัติได้รับทราบเป็นภาพกว้างๆ เพื่อให้เข้าใจและทำงานได้ง่าย โดยในระดับนโยบายก็ต้องไปคุยอย่างใกล้ชิด

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จะมีผู้ว่าฯ 3 จังหวัดมาร่วมประชุม รวมถึงตำรวจด้วย และจะไปดูแลเรื่องงบประมาณว่าหากไม่มีการใช้งบประมาณก็จะมีการสอบถามว่าทำไม ไม่ใช้งบประมาณในการทำงาน และต่อไปหากไม่มีการใช้งบประมาณก็จะห้ามโอนงบประมาณข้ามจังหวัด ต่อไปนี้จะมีการบูรณาการข่าว โดยทุกฝ่ายจะต้องส่งข่าวทั้งหมดมายังศูนย์นี้ และจะกระจายออกไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่รับทราบ เช่น ที่ผ่านมารถหาย รถถูกปล้น แต่ตำรวจไม่ได้แจ้งไปยังทหารที่ปฏิบัติหน้าที่เลย ดังนั้นต่อไปนี้เราจะมีฝ่ายข่าวส่วนกลางให้ทุกหน่วยส่งเข้ามา และก็จะกระจายออกไปให้รับทราบและเฝ้าระวังต่อไป ซึ่งการมีศูนย์นี้เหมือนเราเห็นแสงสว่างในการทำงานแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น