xs
xsm
sm
md
lg

แนะเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่แปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นไข่ฮาลาลแก้ปัญหาโอเวอร์ซัปพลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แนะรัฐบาลเร่งหาตลาดส่งออกไข่ไก่หลังผลผลิตปี 2555 มากถึง 3 ล้านฟองต่อวัน ส่งผลผู้เลี้ยงต้องยอมขายไข่ไก่ในราคาขาดทุน แต่เหตุที่ผู้บริโภคยังคงซื้อไข่ไก่ราคาแพงเป็นเพราะต้นทุนขนส่ง และราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ทำให้พ่อค้าคนกลางต้องบวกต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ชี้การแปรรูปไข่ไก่เป็นไข่ฮาลาลส่งขายประเทศตะวันออกกลางเป็นทางออกที่น่าสนใจ

นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยถึงสถานการณ์ไข่ไก่ในประเทศไทยว่า ขณะนี้กำลังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่อย่างหนักจากปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด จนทำให้ราคส่งขายไปยังพ่อค้าคนกลางไม่ถึง 2 บาทต่อฟอง ทั้งที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 2.60 บาทต่อฟอง โดยปัญหาดังกล่าวหลายฝ่ายโทษว่าเป็นผลมาจากการเปิดเสรีนำเข้าพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ไก่ไข่เมื่อครั้งเกิดปัญหาขาดแคลนพันธุ์ไก่ไข่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเร่งนำเข้าพันธุ์ไก่ไข่ของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่กำลังทำให้ผู้เลี้ยงรายย่อยประสบปัญหาขาดทุนจากการดำเนินงาน และต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น

“แต่ที่ผู้บริโภคยังคงซื้อไข่ไก่ในราคาแพง เป็นเพราะพ่อค้าคนกลางต้องบวกราคาต้นทุนที่ไปรับซื้อไข่ไก่จากหน้าฟาร์มซึ่งมีราคาถูก แต่เมื่อรวมราคาค่าขนส่ง และค่าน้ำมันแล้ว ก็กลับกลายเป็นต้นทุนที่สูง นี่จึงเป็นปัญหาที่ว่าเหตุใดคนไทยยังคงซื้อไข่ในราคาแพง ทั้งที่ราคาขายหน้าฟาร์มต่ำ ”

โดยนางฉวีวรรณ เผยว่า ปัจจุบันผลผลิตไข่ไก่ในประเทศไทยมีมากถึงวันละ 3 ล้านฟอง ซึ่งที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ได้พยายามเตือนผู้เลี้ยงแล้วว่าหลังการเปิดเสรีให้ผู้ประกอบการสามารถนำพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ไก่ไข่จากต่างประเทศได้ เกษตรกรต้องเตรียมตัวเพื่อหาตลาดรองรับ และต้องระมัดระวังเรื่องการนำเข้าพันธุ์สัตว์ เพราะจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจากประเทศคู่ค้าด้วย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ประกอบการ รวมทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงไม่มีการเตรียมตัวทางการตลาด รวมทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีการนำพันธุ์สัตว์เข้ามามากเกินความจำเป็น จนเกิดปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด

ซึ่งในปี 2556 ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้เลี้ยงไก่ไข่จะต้องมองหาตลาดส่งออกในประเทศเพื่อนบ้าน หรือมองหาโครงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ไข่ไก่โดยเฉพาะการแปรรูปเป็นไข่ฮาลาลเพื่อส่งขายในประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำลังซื้อ และความต้องการผลิตภัฑณ์อาหารฮาลาลเป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญ รัฐบาลรวมทั้งกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะต้องมีบทบาทสำคัญในการหาตลาดส่งออกไข่ไก่ให้แก่ผู้ประกอบการ และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ของไทย ซึ่งหากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉย และปล่อยให้ปัญหาขยายวงกว้างโดยไม่เร่งแก้ไข จะก่อให้เกิดปัญหาที่ยากเกินการแก้ไขได้

“ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ ต่างฝ่ายต่างโทษกันว่าใครเป็นคนผิดเรื่องการเปิดเสรีให้นำเข้าพันธุ์สัตว์ เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งหากมองอย่างเป็นธรรมก็คือ ในช่วงนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ในจังหวัดชลบุรี ลำพูน และสุพรรณบุรี ได้ร้องเรียนผ่านนายกรัฐมนตรี (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) รวมทั้งสมาคมฯ เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องการไม่มีพันธุ์สัตว์จนทำให้ไข่ไก่มีราคาแพง และเมื่อนายอภิสิทธิ์ เปิดให้มีการนำเข้าโดยเสรี ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีสายป่านยาว ก็นำเข้าพันธุ์สัตว์เยอะเกินความจำเป็น ผลกระทบก็ตกมาถึงผู้เลี้ยงรายย่อย ดังนั้น ในวันนี้ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้คลี่คลายลง” นางฉวีวรรณกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น