ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ศุภาลัย” เปิดตัว “ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่” เดินหน้ารุกตลาดคอนโดเชียงใหม่ ชูจุดขายโครงการ 32 ชั้นบนทำเลเยี่ยมริมถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ใกล้ตัวเมือง-เซ็นทรัลเฟสติวัล” ผู้บริหารแจงพื้นที่อยู่ในเขตสร้างอาคารสูงได้พร้อมคุยชุมชนโดยรอบ-ทำประชาพิจารณ์เรียบร้อย มั่นใจศักยภาพทำเลกับราคาดึงดูดใจลูกค้า ตั้งเป้ายอดจองไม่ต่ำกว่า 80%
วันนี้ (19 ต.ค. 55) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้จัดการแถลงข่าวโครงการคอนโดมีเนียม ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ ขึ้น ณ สำนักงานโครงการศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ โดยมีนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
การเปิดตัวโครงการโครงการคอนโดมีเนียม ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ ถือเป็นการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการที่ 4 ของ บมจ.ศุภาลัย รวมทั้งเป็นโครงการคอนโดมีเนียมโครงการแรกที่ บมจ.ศุภาลัยจะดำเนินการใน จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ทั้ง 3 โครงการก่อนหน้านี้ซึ่งประกอบด้วย โครงการศุภาลัย วิลล์ เชียงใหม่ โครงการศุภาลัยการ์เดนวิลล์ แอร์พอร์ต และโครงการที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้อย่างศุภาลัย พาร์ควิว ช้างเผือกล้วนแต่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งสิ้น
โครงการโครงการคอนโดมีเนียม ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ เป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของดอยสุเทพ ภายในโครงการประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัย 32 ชั้น 1 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักอาศัย 734 ยูนิต และร้านค้าอีก 4 ยูนิต โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 5 จนถึงขั้นที่ 31 มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ห้องสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 33-122 ตร.ม. พร้อมด้วยพื้นที่เปิดโล่งรอบโครงการอีกถึง 71%
ส่วนราคาจำหน่ายของโครงการนั้นเริ่มต้นที่ 1.248 ล้านบาท หรือ 37,800 บาทต่อ ตร.ม. มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายกลุ่มลุกค้าไว้ที่กลุ่มชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงในระดับกลางและบน รวมไปถึงลูกค้าจากกรุงเทพมหานครฯ และลูกค้าเดิมของบริษัท โดยมีกำหนดเปิดจองในระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย. 2555 ณ สำนักงานโครงการศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ คาดว่าหลังจากเริ่มเปิดให้จองแล้วจะมียอดจองทั้งสิ้นประมาณ 80% ขึ้นไป ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการภายหลังเปิดให้จองแล้ว 6-8 เดือน และน่าจะแล้วเสร็จอย่างช้าไม่เกินต้นปี 2559
นายไตรเตชะกล่าวว่า จุดเด่นของโครงการ ได้แก่ การผสมผสานความเป็นล้านนาเข้ากับความเป็นสมัยใหม่และการออกแบบสีเขียว ด้วยการนำ “ตุงชัย” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นศิริมงคลของล้านนามาใช้เป็นแนวคิดในการออกแบบและตกแต่งอาคาร รวมทั้งเลือกใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง และการออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางของแดดและลมเพื่อช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาว ขณะเดียวกันโครงการนี้ยังตั้งอยู่ในจุดที่ถือเป็นพื้นที่แห่งอนาคต เนื่องจากมีทำเลที่ใกล้ทั้งตัวเมืองและห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะเซ็นทรัล เฟสติวัลที่จะเปิดให้บริการในปลายปี 2556 ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ในย่านดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก
นายไตรเตชะกล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวซึ่งเป็นอาคารชุดขนาดใหญ่นั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถก่อสร้างอาคารสูงได้โดยไม่ขัดกับข้อกฎหมายผังเมืองใดๆ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ประเภทพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก โดยก่อนที่จะเปิดตัวโครงการได้มีการสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่โดยรอบและทำการประชาพิจารณ์แล้ว ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและหน่วยงานโดยรอบด้วยดี ส่วนกรณีของความปลอดภัยของอาคารสูงต่อปัญหาแผ่นดินไหวนั้น ตัวอาคารได้ทำตอกเสาเข็มลึกถึง 48 เมตร รวมทั้งมีการคำนวณเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนตามที่กฎหมายควบคุมอาคารสูงกำหนดไว้แล้ว จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยหากเกิดแผ่นดินไหวขึ้น
นายไตรเตชะระบุด้วยว่า บมจ.ศุภาลัยมีจุดแข็งอยู่ที่การควบคุมต้นทุน ซึ่งทำให้สามารถกำหนดราคาที่ไม่สูงมากได้ และการออกแบบที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อในรูปแบบต่างๆ บวกกับปัจจัยของทำเลที่ตั้งที่ดีและคุณภาพของการก่อสร้าง ถือว่าโครงการดังกล่าวได้เสนอทางเลือกที่คุ้มค่าให้กับผู้บริโภค ซึ่งจากการตอบรับในขณะนี้ แม้จะยังไม่เปิดให้จองอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีผู้ให้ความสนใจเข้ามาสอบถามรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการลงทะเบียนไว้กว่า 600 รายแล้ว
นอกจากนี้ กรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัยยังได้กล่าวถึงแนวโน้มตลาดคอนโดมีเนียมของ จ.เชียงใหม่ว่า เชื่อว่าตลาดคอนโดมีเนียมในเชียงใหม่จะยังเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากในปัจจุบันราคาที่ดินได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตพื้นที่หลายจุดที่อยู่ใกล้ตัวเมืองจะไม่เหมาะกับการสร้างบ้านเดี่ยว เนื่องจากจะมีราคาสูงเกินไป ดังนั้นจึงจะเหมาะกับการสร้างคอนโดมีเนียมที่ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า ส่วนตลาดบ้านเดี่ยวนั้นทางบริษัทก็ยังคงให้ความสำคัญในการลงทุนอยู่ โดยในอนาคตเตรียมที่จะทำโครงการบ้านเดี่ยวที่ จ.เชียงใหม่เพิ่มเติม อีกทั้งยังมีความสนที่จะขยายการลงทุนออกไปสู่จังหวัดอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของ บมจ.ศุภาลัยอยู่แล้ว โดยในภาคเหนือนั้น จ.เชียงรายถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจ
