ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวนิมมานเหมินท์ยื่นหนังสือถึงทางหลวงค้านขยายถนนเชื่อมวงแหวนรอบใน อ้างไม่สอดรับวิถีชีวิต พร้อมเสนอโอนให้เทศบาลดูแล ด้าน ผอ.แขวงการทางแจงจุดทำสี่แยกอยู่ระหว่างเวนคืน ส่วนถนนผ่านสนามบินเรื่องยังนิ่ง ยันย่านนิมมานฯ คงไม่ขยายแต่แค่ปรับปรุงให้รถวิ่งสะดวกกับเวนคืนที่ต้นถนน ชี้ระยะยาวต้องทำถนนให้ครบรอบวงแก้ปัญหาจราจร แนะทุกฝ่ายปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่แขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 ถ.ซูเปอร์ไฮเวย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประชาชนในนามกลุ่มชมรมชาวนิมมานเหมินท์ เข้าพบนายวสวัตติ์ ประภัสสร ผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 เพื่อยื่นหนังสือขอให้ระงับการขยายถนนย่านนิมมานเหมินท์ และขอให้กรมทางหลวงคืนถนนนิมมานเหมินท์กลับสู่การดูแลของเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งนำรายชื่อผู้ไม่เห็นด้วยกับการขยายถนน และขอให้คืนถนนนิมมานเหมินท์กลับสู่การดูแลของเทศบาลนครเชียงใหม่มอบต่อแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 ด้วย
การเข้ายื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกลุ่มชมรมชาวนิมมานเหมินท์ ซึ่งระบุว่าเป็นตัวแทนของประชาชนในย่านนิมมานเหมินท์ ไม่เห็นด้วยกับแผนงานของแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 ที่มีโครงการจะปรับปรุงขยายผิวจราจรบริเวณทางแยกรินคำ และทางแยกสาธารณสุข เพื่อเชื่อมโยงถนนนิมมานเหมินท์ให้เป็นส่วนหนึ่งของถนนวงแหวนรอบใน หรือซูเปอร์ไฮเวย์-มหิดล
โครงการดังกล่าวซึ่งริเริ่มดำเนินการขึ้นในปี 2548 ได้รับการคัดค้านจากผู้อยู่อาศัยในย่านนิมมานเหมินท์มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันได้มีการรื้อถอนอาคารและเวนคืนที่ดินบนถนนสุเทพ ตรงข้ามกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเตรียมที่จะพัฒนาจุดดังกล่าวมให้เป็นสี่แยก รวมทั้งการประสานงานไปยังกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ เพื่อขอพื้นที่สำหรับทำการตัดถนนเชื่อมต่อจากสี่แยกดังกล่าวมายังถนนมหิดล ทำให้กลุ่มชมรมชาวนิมมานเหมินท์ ซึ่งเกรงว่าความก้าวหน้าของโครงการจะส่งผลให้เกิดการขยายถนนสายนิมมานเหมินท์ขึ้นในท้ายที่สุดจึงออกมาเคลื่อนไหวและยื่นหนังสือคัดค้านดังกล่าว
ทั้งนี้ ชมรมชาวนิมมานเหมินท์ได้ให้เหตุผลในการคัดค้านการขยายถนนนิมมานเหมินท์ว่า ย่านนิมมานเหมินท์ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยและย่านการค้าในลักษณะของถนนในเมือง (High Street) ซึ่งผู้คนทั้งสองฝั่งถนนมีความจำเป็นต้องเดินติดต่อกัน การจะพัฒนาถนนในย่านลักษณะดังกล่าวจึงควรใช้วิธีการลดความเร็วของรถที่ผ่านบริเวณดังกล่าว (Traffic Calm) ไม่ใช่การให้รถวิ่งผ่านด้วยความเร็ว (Traffic Flow) ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนที่ใช้พื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งส่งผลให้เกิดภาวะมลพิษ และไม่ส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อมของชุมชนอีกด้วย
นอกจากนี้ ชมรมชาวนิมมานเหมินท์ยังเสนอให้โอนถนนนิมมานเหมินท์ที่ในปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง กลับมาอยู่ในความดูแลของเทศบาลนครเชียงใหม่ เนื่องจากเห็นว่าเทศบาลนครเชียงใหม่มีความเหมาะสมในการดูแลถนนเส้นดังกล่าว และรวมไปถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนในย่านนี้ได้ดีกว่าการดูแลของกรมทางหลวงในปัจจุบัน
สำหรับข้อเสนอต่างๆ เหล่านี้ ผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 ระบุว่าจะนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบและใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการต่างๆ ในอนาคตต่อไป
นายอุดม สุริยาเดช ประธานชมรมชาวนิมมานเหมินท์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือในครั้งนี้เนื่องจากต้องการที่จะเรียกร้องให้มีการระงับและยกเลิกการดำเนินโครงการของกรมทางหลวงที่จะขยายถนนนิมมานเหมินท์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของถนนวงแหวนรอบใน เพราะเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในย่านนี้ที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยมาช้านาน ตลอดจนเป็นย่านที่ตั้งของร้านค้า โรงเรียน หอศิลป์ หอประชุม และเป็นบริเวณหนึ่งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน ต้องการเรียกร้องให้มีการถ่ายโอนถนนนิมมานเหมินท์ ที่ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของแขวงการทางที่ 2 เชียงใหม่ ไปอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของเทศบาลนครเชียงใหม่เหมือนเดิม โดยเชื่อว่าทางเทศบาลนครเชียงใหม่น่าจะสามารถดูแลได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องตามสภาพความเป็นจริงมากกว่าเพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ทุกด้านของประชาชนในเขตเทศบาลอยู่แล้ว ไม่ใช่ดูแลเฉพาะแต่เพียงการเดินทางด้วยรถยนต์อย่างเดียว เพื่อต้องการที่จะคัดค้านโครงการขยายถนนนิมมานเหมินท์ ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาอยู่มากพอสมควร เพราะถนนหลักกับถนนซอยรับผิดชอบโดยคนละหน่วยงาน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ประธานชมรมชาวนิมมานเหมินท์แสดงความเห็นว่า หากโครงการขยายถนนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะแก้ไขปัญหาการจราจรหรือรองรับปริมาณรถยนต์บนท้องถนนที่มากขึ้นแล้ว มองว่าน่าจะหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการพัฒนาและวางระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพของเมืองเชียงใหม่มากกว่าเพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนนลง ซึ่งน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและตรงกับต้นตอของปัญหา
ด้านนายวสวัตติ์ ประภัสสร ผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 กล่าวถึงการดำเนินการปรับปรุงถนนนิมมานเหมินท์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของกรมทางหลวงที่ต้องการเชื่อมเส้นทางถนนวงแหวนรอบในให้ครบถ้วน หลังจากที่ในปัจจุบันถนนเส้นดังกล่าวยังเหลือในส่วนของถนนนิมมานเหมินท์และการตัดเส้นทางผ่านกองบิน 41 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ
ในปัจจุบันได้มีการรื้อถอนอาคารที่จะใช้ในการสร้างสี่แยกบริเวณถนนสุเทพบางส่วนแล้ว รวมทั้งอยู่ในขั้นตอนของการออกพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดินในบริเวณดังกล่าวอีกส่วนหนึ่ง เมื่อได้พื้นที่ครบทั้งหมดแล้วจึงจะสามารถเริ่มการก่อสร้างถนนได้ แต่อย่างไรก็ตาม การจะก่อสร้างใดๆ บนถนนเส้นดังกล่าวจะต้องมีการพบปะพูดคุยกับประชาชนและทำประชาพิจารณ์เสียก่อน อีกทั้งการใช้พื้นที่ในส่วนของกองบิน 41 ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
สำหรับแนวทางการดำเนินการปรับปรุงถนนนิมมานเหมินท์ตั้งแต่บริเวณสี่แยกรินคำถึงแยกสาธารณสุขนั้น นายวสวัตติ์กล่าวว่า จุดที่เป็นบริเวณย่านการค้าหรือชุมชนคงจะไม่มีการขยายหรือรื้อถอนเวนคืน แต่น่าจะใช่การปรับปรุงพื้นผิวถนนเพื่อให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาระบบระบายน้ำและระบบรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายถนนบริเวณต้นถนนนิมมานเหมินท์เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในจุดดังกล่าว โดยได้มีการเวนคืนพื้นที่เพื่อพัฒนาจุดดังกล่าวแล้ว
นายวสวัตติ์กล่าวด้วยว่า หากพิจารณาจากทั้งนโยบายและองค์ประกอบต่างๆ เห็นว่าการปรับปรุงถนนนิมมานเหมินท์นั้นจำเป็นจะต้องดำเนินการ เนื่องจากจะช่วยเชื่อมโยงเส้นทางและแก้ปัญหาการจราจร แต่เรื่องดังกล่าวจำเป็นจะต้องรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ขณะเดียวกัน ทั้งหน่วยงานราชการและชุมชนก็ต้องปรับตัวตามสภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของสังคมด้วย